ผมได้เรียนรู้เรื่องความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน จากปัญหาในการให้ทุนสนับสนุนโครงการ ที่ผู้รับทุนสนับสนุนมีหลายฝ่าย และการทำงานแบบที่มีประโยชน์อย่างมากมายต่อสังคม หรือบ้านเมืองนั้น เป็นการดำเนินการนอกเหนือจากข้อตกลงในสัญญาให้ทุนสนับสนุน และจะทำให้ไม่บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ในสัญญา และผมเตรียมจะยกเลิกสัญญา โดยที่ผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้ใหญ่ที่รักใคร่ชอบพอ และนับถือกันทั้งนั้น
คำถามที่ผมถามตัวเองก็คือ จะยกเลิกสัญญาโดยยังรักษาสัมพันธภาพที่ดีระหว่างผม, หน่วยงานที่ผมรับผิดชอบ, เจ้าหน้าที่ของผม และผู้เกี่ยวข้องในสัญญา ได้อย่างไร
โชคดีเช่นเคย ผมพบท่านผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้อง เป็นคนสำคัญที่สุดในสัญญา เข้าโดยบังเอิญ จึงได้โอกาสแลกเปลี่ยนข้อมูล และทำความเข้าใจ ซึ่งเมื่อคุยกันแล้ว ผมก็เข้าใจครบถ้วนขึ้น ว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมาจากเหตุใดเป็นสาเหตุใหญ่ และเห็นได้ชัดเจน ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นมีผลดีต่อบ้านเมืองอย่างมากมาย เป็นสิ่งที่ผมชื่นชมและยกย่อง แต่ผมเอาเงินไปหนุนตรงนั้นไม่ได้ เพราะผมก็ต้องรับผิดชอบต่อเจ้าของเงินที่เขามอบให้ผมเอามาจัดการด้วยเหมือนกัน
จะเห็นว่า ผมฝึกใช้หลัก shared vision หรือ common purpose ที่เป็นเป้าใหญ่ของบ้านเมือง ใหญ่กว่าเป้าของหน่วยงานที่ผมรับผิดชอบ ในการพูดคุยกับท่านผู้ใหญ่ท่านนี้ และใช้เป้าใหญ่นี้ในการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไว้ ไม่หลงตกหลุมดำ ที่ปัญหาเล็กๆ คือการผิดสัญญา และต้องยกเลิกสัญญา เรื่องนั้นเล็กเกินไป เมื่อเทียบกับเป้าหมายใหญ่ในการร่วมกันทำเพื่อบ้านเมือง
ผมได้เรียนรู้ว่าสายใยแห่งความสัมพันธ์ที่ทรงพลังที่สุดอย่างหนึ่ง คือการมี และร่วมกันทำไปสู่เป้าหมายอันทรงคุณค่าร่วมกัน ให้เป้าหมายใหญ่เป็นธงนำ ปล่อยวางเป้าหมายเล็กๆ ที่อาจไม่ตรงกัน
บันทึกนี้อ่านยากหน่อยนะครับ เพราะยกเรื่องจริงมาเล่าไม่ได้
วิจารณ์ พานิช
๖ ก.ค. ๕๐
เหมือนในหนังสือ สามก๊ก ที่ว่า ..แพ้การศึก..เพื่อชนะสงคราม...บางครั้งในการทำงาน..การที่เราจะตัดสินใจบางเรื่อง...ให้มองว่า...เป้าหมายหลักที่เราต้องการคืออะไร...บางครั้งเราก้ต้องปล่อย..เป้าหมายเล็กๆ (ที่ไม่กระทบเป้าหมายหลัก) ไปบ้าง