ในช่วงเย็นของวันแรกของการเสวนาหมอพื้นบ้านไทยอีสาน มีการจัดเวที “โสนำ” ซึ่งผมเข้าใจเอาเองว่า เป็นการปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ก่อนที่จะมีพิธีบายศรีสู่ขวัญ และพักรับประทานอาหารเย็นกัน แล้วในตอนกลางคืนจะมีการ จัดเวทีที่เรียกว่า “ใครทำอะไรเล่าสู่กันฟัง”
ผมมีความชื่นชมท่านที่ทำหน้าที่ ที่อาจจะเรียกว่า วิทยากรกระบวนการ หรือ ถ้าจะเรียกตามแนวของ การจัดการความรู้ ก็น่าจะเป็น คุณอำนวย ที่ต้องขออภัยที่ผมไม่ทราบชื่อของท่าน ท่านทำหน้าที่ในช่วงที่เรียกว่า โสนำ ได้อย่างดีมาก ๆ โดยการเสนอประเด็นให้ ผู้เข้าร่วมเสวนาและหมอพื้นบ้าน ได้เตรียมคิดในประเด็นสำคัญ ที่จะไปจัดเวทีกันที่วัด ในตอนกลางคืนหลังจากรับประทานอาหารเย็นและอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่นกันแล้ว โดยเฉพาะเรื่องของการจัด เวทีที่เรียกว่า “ใครทำอะไรเล่าสู่กันฟัง” ของกลุ่มหรือชมรมหมอพื้นบ้านไทยจากจังหวัดต่าง ๆ ที่มาร่วมงานครั้งนี้ ผมเห็นว่าเป็นวิธีการเดียวกับการจัด Show and Share โดยใช้วิธีการ Storytelling หรือ เรื่องเล่าเร้าพลังของชาว KM นั่นเอง
ขอชื่นชมท่านวิทยากรและทางทีมผู้จัดด้วยใจจริงอีกครั้งครับ นี่แหละการใช้กระบวนการ KM ธรรมชาติโดยชุมชน โดยไม่จำเป็นต้องเรียกว่าใช้ KM <p> </p>
สวัสดีค่ะอาจารย์Panda เห็นด้วยค่ะที่วิธีการต่างๆที่ชาวบ้านทำอยู่แล้วเป็นการทำKMตามธรรมชาติ หรือแม้ใครก็ตามที่ทำงานด้วยหัวใจอยากให้งานดีก็จะมีการทำKMตามธรมชาติอยู่ โดยไม่รู้ตัว หรือไม่ได้เรียกชื่อเช่นนั้น
อ่านบันทึกของอาจารย์แล้วนึกถึง"การสังคายนาการแพทย์พื้นบ้านล้านนา" ที่ดร.ยิ่งยง เทาประเสริฐ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงรายเป็นผู้ทำโครงการค่ะ
ดีใจที่เรื่องแพทย์พื้นบ้านไทยได้รับความสนใจจริงจัง เป็นทางหนึ่งนะคะในการพึ่งตนเองได้
ขอบคุณครับ