ให้รางวัลกับชีวิตที่ "พม่า" วันที่สอง


ผ่านเมืองพะโค หรือ หงสาวดี ในอดีต พี่อูฐถึงกับอุทานออกมาว่า "สงสารบุเรงนอง"

     28 กค 50  ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอิ่ม...อิ่มกับการนอน  ก็ไม่ได้นอนยาวขนาดนี้มาตั้งนานแล้วนี้ ร่างกายได้นอนหลับพักผ่อนไปตั้ง 10 ชั่วโมง  เริ่มต้นอาหารเช้าที่โรงแรม  ขอบอกว่า ไม่มีอะไร  มีไข่ดาว  ผัดหมี่เหลือง  ข้าวผัด  ผัดก่วยเตี๋ยว  แล้วก็ผัดผัก ทุกอย่างปราศจากเนื้อสัตว์  ขนมปังปิ้ง มีเนย  แยม  กาแฟ  ชา  น้ำส้ม  ผลไม้ก็มีกล้วย  กับมะละกอ  อ้อ...แล้วจะมีเหมือนแป้งทอด ทานกับซอส อีกอย่าง แล้วทุกอย่างที่ว่าจะทำไว้แค่นิดเดียว มีคนมาเพิ่มค่อยทำใหม่  ตอนลงมาได้ตักไข่ดาวไว้ 1 ฟอง ก็หมดพอดี  ก็เลยบอกให้เค้าทอดเพิ่ม เพราะเดี๋ยวพี่อูฐจะลงมา  เชื่อมั้ย...เค้าทอดมาเพิ่มไว้อีก 2 ฟอง

     อออกจากโรงแรม 08:30 ด้วยรถเก่าๆคันเดิม มุ่งหน้าไปนมัสการพระธาตุอินทร์แขวน (golden rock pagoda)ฝ่าเปลวแดดอันระอุ คงจำได้ใช่มั้ยว่า รถคันนี้ไม่มีแอร์  แต่คนขับรถก็เตรียมหมอนไว้ให้อิง 2 ใบ  แล้วก้อกระติกน้ำแข็งใบใหญ่  แวะซื้อขนมปัง  น้ำแข็ง  น้ำดื่ม  ไว้เป็นเสบียงระหว่างเดินทาง  เพราะการเดินทางครั้งนี้อีกยาวไกล 5 ชั่วโมง ประมาณนั้น

     ระหว่างการเดินทางก็ชมวิวทิวทัศน์ไปเรื่อย ๆ มันเหมือนเรากำลังเดินทางย้อนอดีตอย่างไรอย่างนั้น  ลองหลับตาและถึงภาพตอนเราเป็นเด็ก  เวลาจะเดินทางไปต่างจังหวัดแต่ละครั้ง ลำบากมาก  ถนนก็ไม่ดี  ขรุขระ เป็นหลุม เป็นบ่อ  อ้อ...ที่นี่ขับรถคนละฝั่งกับบ้านเรา  และเนื่องจากช่วงเวลาที่เราไปเป็นช่วงงานบุญพอดี พม่ากับไทยนับถือศาสนาพุทธ เหมือนกัน  มีวันสำคัญทางศาสนา คือ วันอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา เหมือนกัน  เราก็เลยเห็นกลุ่มคนที่ออกเรียรายเงินทอง อาหาร เพื่อไปทำบุญ  แต่ที่นี่แปลก...10 โมง แล้ว ยังเห็นพระออกบิณฑบาตอยู่เลย

    ก่อนถึงจุดหมายก็ผ่านเมืองพะโค หรือ หงสาวดี ในอดีต  พี่อูฐถึงกับอุทานออกมาว่า "สงสารบุเรงนอง"  ก็สภาพบ้านเมือง ณ ตอนนี้ เทียบไม่ได้เลยกับ อยุธยา บ้านเรา ทั้งที่ในอดีตสองเมืองนี้ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน  เราก็เลยถามหาเมืองแปร ว่าอยู่ไกลมั้ย คนขับรถบอกว่าอยู่ละทาง ไม่งั้นดุจดาว จะไปทำรีวิวประกอบเพลง "ผุ้ชนะสิบทิศ" ท่อน "ข้าจะเผาเมืองแปร ให้มันวอดวาย..  (:

     ถึง คิมปูนแคมป์ เชิงเขา  13:15 ซึ่งต้องจอดรถเก่า ๆ ที่เช่าทิ้งไว้ที่นี่ แวะกินอาหารกลางวัน เป็นร้าพื้นเมืองธรรมดา ๆ สั่งไข่เจียว  กับ แกงจืด  ซึ่งทานแล้วก็มิสามารถบอกได้ว่า "อร่อย" ที่น่าโมโหไปกว่านั้น ก็คือ ห้องพักบนเขา  เชิงเขา  ตีนเขา  เต็มหมด  คืนนี้เราจะไม่มีที่พัก เค้าบอกว่ามีทัวร์คนไทย 300 กว่าคน มาเที่ยว  แต่อย่างไรก็ตาม เราก็เอาเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นขึ้นเขาไปด้วย เพราะอย่างไรก็ตาม เราก็จะนอนบนเขาให้ได้...

     การขึ้นบนเขานั้นใช้รถ 6 ล้อ ที่จัดไว้สำหรับขึ้นนเขาโดยเฉพาพาะ ค่ารถคนละ 1000 ykats สาหัสสุด ๆ ตอนแรกถูกอัดขึ้นไป 49 คน เรียกได้ว่าไม่มีแม้แต่ที่งอขา แต่ไปๆมาๆก็ให้คนกลุ่มหนึ่งเกินครี่งเปลี่ยนไปนั่งรถอีกคันหนึ่ง รถที่นั่งก็เลยเหลือประมาณ 20 คนแต่ก็โยกไปเยกมาสุดๆ รองเท้าคู่ชีพที่ไปไหนต่อไหนมาด้วยกันก็หลุด  ยังไม่ขาดนะ  ไอ้หนุ่มพม่า ที่นั่งด้านหน้า  หันมามอง  อมยิ้ม แล้วพูดว่า "Make in Thailand" นี่...ถ้าหน้าตาไม่พอดูได้ จะไม่ให้อภัยเด็ดขาด

     เกือบ 1 ชม. ก็ถึง แต่ก็ยังไม่ถึงพระธาตุนะ เพราะต้องเดินเท้าต่อขึ้นไปอีก เค้าว่าใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่เมื่อเห็นกองทัพคนแบกเสลี่ยงแล้ว ชักไม่แน่ใจว่าจะตะกายขึ้นไปได้ เพราะขนาดทางรถยังแย่เลย ก็เลยยอมเป็นเจ้านางสักวัน นั่งเสลี่ยง ที่ทำจากเก้าอี้ผ้าใบตัวเล็กไว้ตรงกลาง ใช้ไม้ไผ่กระบอกใหญ่หน้อยเป็นไม้หามมัดแน่นอยู่ด้านข้างทั้งสองของเก้าอี้  ขึงกระสอบพลาสติกด้านหน้าเก้าอี้กับไม้ไผ่ทั้งสองด้านเป็นที่ว่างเท้า แบกด้วยหนุ่มพม่า เตี้ย ๆ แกน ๆ 4 คน ด้วยค่าจ้างเที่ยวเดียว $12  ไป-กลับ $20  ใช้เวลาแบกนานอยู่นะไม่ได้จับเวลา ความรู้สึกตอนอยู่บนเสลี่ยง เหมือน นั่งช้าง  พอถึงจุดพักก็เริ่มมีวิธีเรียกทิป โดยการขอโค้ก 4 กระป๋อง 6000ykats ก็ให้นะ สงสาร เหงื่อเนี่ยเปียกโชกไปทั้งตัว ที่สำคัญ พอวางเราลง คุณเธอบอกว่า "so  heavy"  อ้อ...ตลอดทางขึ้นเขา ไม่เห็นมีคนเดินขึ้นสักคน

     ลงจากเสลี่ยงก็ต้องเสียเงินอีกแล้วเ คนต่างชาติ $ 6  มีกล้องก็ต้องเสียเพิ่มอีก $ 1 หรือ 2 จำไม่ได้  เมื่อเสียเงินก็เริ่มงอแง แล้วเรา ที่พักก็ไม่มี ก็เลยถามเจ้าหน้าที่ว่า 2 คน $12 เนี่ย  รวมค่าที่พักด้วยรึป่าว  คุณเธอก็เลยบอกว่า ถ้านอนที่ห้องเล็ก ๆ ในสำนักงานที่เธอนอนอยู่ได้ เธอก็จะสละให้นอน  แต่ดูแล้ว ไม่เอาดีกว่า ...ไม่อยากมีลูกนุ่งโสร่งเคี้ยวหมาก

     เดินอีกสัก 15 นาที ก็ถึง คนเยอะมาก ได้สัมผัสกับศรัทธา ของคนพม่าเอง และนักท่องเที่ยวชาวไทยหลายร้อยคน ชาติอื่น ๆ แทบมองไม่เห็น  ก็เหมือนเดิม  ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์  ขอพร  ให้กับทุก ๆ คน จนคุ้มกับค่าเข้าชม  ที่สำคัญพระธาตุนี้เป็นพระธาตุประจำปีเกิด ของ คนเกิด ปีจอ ก้เลยขอพรเผื่อคนปีนี้ด้วยแหละ  แต่ยังนึกไม่ออกเลยว่าเพื่อนคนไหนเกิดปีจอ  

     นั่งชื่นชมกับวิวทิวทัศน์ บรรยากาศที่เย็นสบาย  มีละอองน้ำจากเมฆผ่านตัวเราไป  มหัศจรรย์กับก้อนหินที่สามารถตั้งเอียงอยู่บนหน้าผาโดยไม่ตก  (หาดูรูปเองนะ)  ปล่อยให้นายโยมไกด์หนุ่มผู้ไม่ประสีประสาของเรา ไปหาที่ให้เรานอน  เพราะอย่างไร เราก็ไม่ลงเด็ดขาด  เราจะนอนบนนี้

     นั่งชมธรรมชาติจนอิ่มหนำสำราญใจ ก็ไปเจอกับนายโยม ณ จุดนัดพบ  นายโยมบอกหาที่พักให้เราได้แล้ว  รับรองปลอดภัย เป็นห้องพัก ในสำนักงานของทหาร  ลองไปดู...โห..หนักกว่าที่แรกอีก  เป็นห้องจริง ๆ อยู่ระดับต่ำกว่าพื้นดิน  ก่อนลงไปเห็นหนุ่มทหารพม่านับสิบอยู่ห้องข้างบน  ห้องพักที่ว่าไม่มีแม้หน้าต่าง  ข้างฝาห้องด้านบนเจาะระบายอากาศโดยมีตะแกรงลวดปิดไว้  ห้องทาสีเขียว  เข้าไปข้างในก็เจอกับพื้นยกสูงที่ปูผ้าไว้เพื่อเป็นที่นอน  มีหมอนสองใบ  นอกนั้นไม่มีอะไรเลย  ...  มองหน้ากันกับพี่อูฐ  แล้วบอกว่า  เราจะลงข้างล่างแล้ว  เราจะไปหาที่นอนเอาดาบหน้า  ...

     ลงจากยอดเขาด้วยวิธีเดิม คือ เสลี่ยง แต่หาคนแบกชุดเดิมไม่เจอ  นักท่องเที่ยวทยอยขึ้นมาเยอะมา  อ้อ...ได้เจอกับคนไทยที่รู้จักด้วยล่ะ  เจ้านายเก่าสมัยทำงานอยู่ที่ขอนแก่น  ชื่อ ท่านวิเศษ  พิมพ์วิชัย  ขาลงแย่หน่อยกระเทือนไปทั้งตัว ซำ้ร้ายลงมาถึงจุดที่ต้องนั่งรถ6ล้อปรากฏว่ารถหมดตั้งแต่ 6 โมงเย็น ต้องเหมาลงมาด้วยราคา 12000 kyats  รอบนี้ได้นํ่งหน้ากับคนขับเสียวกว่าเดิมเยอะเพราะเห็นหุบเห็นเหวชัดๆ 

     จากนั้นก็ออกรถฝ่าความมืดไปหาที่พักก่อนถึงพะโค(หงสาวดี)เพราะพรุ่งนี้เราจะเที่ยวหงสาวดีกัน ลงมาเกือบชั่วโมงก็ได้ที่พัก $25 ห้องสะอาดใช้ได้ กว้าง แต่ที่นอนไ ม่นุ่ม เป็นลักษณะรีสอร์ท กินข้าวเที่นี่เลย อร่อยถูกปาก ไม่แพง
หมายเลขบันทึก: 117050เขียนเมื่อ 5 สิงหาคม 2007 12:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 มิถุนายน 2012 13:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีครับคุณดุจดาว ทิพย์มาตย์

  • มาติดตามไปท่องเที่ยวด้วยครับ
  • เรื่องอาหารเช้าในโรงแรม  ที่เมืองไทยก็เสริฟแบบนี้เหมือนกันครับ  ขืนวางเยอะ นักท่องเที่ยวเล่นห่อตุนกันเสียนี่  เช่น นมเป็นต้น เคยเห็นแขก(แขกจริงๆ) เทใส่กระติก นำไปเที่ยวด้วย
  • เมื่อเห็นแขกลงมาทาน บ๋อยจึงค่อยนำออกมาเสริฟทีละน้อย
  • ขอบคุณครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท