หลังจากเพลินกับ series เกาหลีมา 2-3 เดือน รู้สึกว่าจะต้อง break ตัวเอง ด้วยหนังฝรั่งที่เคยชื่นชอบแต่ห่างเหินกันมาเกือบ 2 ปี ช่วงวันหยุดติดต่อกันหลายวันเมื่อสัปดาห์ก่อน เลือกหนังเพลงมาดู 2 เรื่องคือ Phantom of the Opera และ Walk the line หนังดีมากๆ
เป็นหนังเพลง ที่สไตล์ของเพลงเป็นคนละแบบกันเลย แต่สร้างความอิ่มเอมให้หัวใจทั้งสองเรื่อง ทั้งความไพเราะของเสียงเพลง ท่วงทำนอง รวมทั้งเรื่องราวในเนื้อเพลง ฯลฯ จับใจมากๆ ค่ะ
นอกจากเพลงแล้ว ทั้งสองเรื่องยังให้แง่คิดที่ดีอีกด้วย
The Phantom ปีศาจแห่งโรงละคร เป็นตัวละครที่น่าสงสารยิ่ง ด้วยความเป็นเด็กกำพร้าและมีหน้าตาที่อัปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัว ทำให้เขาถูกทารุณกรรมตั้งแต่เด็ก จนเกิดเป็นบาดแผลที่ฝังลึกในใจเขา การยึดติดกับความเจ็บปวดในอดีต ก่อให้เกิดเป็นพฤติกรรมความโหดร้าย ทั้งที่ตัวเขาเอง มีความอัจฉริยะด้านศิลปะการดนตรีอย่างเยี่ยมยอด
ส่วน Walk the line ซึ่งเป็นเรื่องราวชีวิตจริงของ Johny Cash ที่ต้องผ่านอุปสรรคต่างๆ นาๆ ก่อนที่ชีวิตจะลงตัว และสิ่งที่เขาเรียนรู้ ก็คือ การไปสู่จุดหมายที่ใฝ่ฝันนั้น อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ต้องฝ่าฟันไปให้ได้ก็คือ การเอาชนะใจตนเอง และ สิ่งที่มีความสำคัญไม่น้อย คือ การมีเพื่อนแท้ ที่อยู่เคียงข้าง และ ให้โอกาสเสมอ
เรื่องนี้มีเพลง blue (ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่า country blue หรือไม่) ในยุค 60 ให้ฟังอย่างเต็มอิ่ม เนื่องจากมีคำบรรยายไทย ทำให้ได้รู้ว่า ที่เขาว่า เพลง blue หรือ country เป็นบทเพลงของคนเดินดินนั้นเป็นอย่างไร
สิ่งที่เหมือนกันทั้งสองเรื่อง คือ ผู้แสดงร้องเพลงในเรื่องเองทั้งหมด สุดยอดจริงๆ ค่ะ ฟังแล้ว เหมือนเป็นนักร้องมืออาชีพจริงๆ ประเด็นเรื่องความเป็นจริงเป็นจังของตัวแสดงในหนังนี่ ตัองยกให้มะกันเขาเลย
กะจะเขียนให้สมบูรณ์กว่านี้ แต่คิดว่า หากจะรอเวลานั้น บันทึกนี้ คงไม่ได้ตีพิมพ์โดยแน่แท้ ดูแล้วอยากบอกต่อเร็วๆ (นี่ก็เลยมา 1 สัปดาห์แล้ว) ขอเป็นบันทึกสั้นๆ แล้วกันค่ะ
ใครที่ดูแล้ว พูดคุยกันมาบ้างนะคะ
ไม่มีความเห็น