ลองวางดูครับถ้าดีไม่ดียังไงช่วยวิจารย์ด้วยนะครับ
ภก.มด
Clinical Tracer เรื่องการดูแลผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยเอดส์ งานเอดส์ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม20 กรกฎาคม 2550
1. บริบทโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม เป็นโรงพยาบาลทุติยภูมิระดับกลาง ที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาด้านอายุรกรรม และมีคณะกรรมเอดส์จำนวน 22 คน ซึ่งให้การดูแลรักษาผู้ป่วยทั้งในเขตความรับผิดชอบ ผู้ป่วยที่ส่งต่อจากโรงพยาบาลชุมชน 4 แห่ง และผู้ป่วยลาว โรคเอดส์เป็นโรคเป็นปัญหาสาธารณสุขทำให้มีผู้เสียชีวิตจากโรคและเป็นโรคเรื้อรังที่ติดต่อได้เนื่องจากปัจจุบันประชาชนทุกคนที่เป็นคนไทยต้องเข้าถึงบริการยาต้านไวรัส ทำให้ต้องมีการดูแลผู้ป่วยในระยะเวลาที่ยาวนานขึ้นโดยปัจจุบันโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนนมต้องดูแลอยู่จำนวน 92 คน กินยาต้านไวรัสอยู่ 82 คน ไม่ได้กินยา 10 คน เสียชีวิตไปแล้ว 11 ราย แพ้ยา 1 ราย ไม่มาตามนัด 11 คน ผู้ป่วยที่ได้รับยาต้องได้รับยาสม่ำเสมอและมีความเสี่ยงต่อการเกิดการดื้อยาของเชื้อได้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นเพื่อไม่ให้มีโอกาสเกิดโรคติดเชื้อฉวยโอกาสได้ ซึ่งทำให้เกิดความสูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้
2. ประเด็นสำคัญ/ความเสี่ยงสำคัญ 1. การได้รับการตรวจ CD4 viral load การได้รับยาต้านไวรัสตามเกณฑ์มาตรฐาน2. การรับยาป้องกันโรคฉวยโอกาสและการรับยาต้านไวรัสอย่างสม่ำเสมอ3. การได้รับการคัดกรองความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฉวยโอกาสและการดูแลหญิงติดเชื้อที่ตั้งครรภ์4. การให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยและการติดตามการเยี่ยมบ้าน
3. วัตถุประสงค์ / เครื่องชี้วัดและการใช้ประโยชน์
วัตถุประสงค์ |
เครื่องชี้วัด |
1 ผู้ป่วยได้รับการตรวจ CD4 viral load และได้รับยาต้านไวรัสตามเกณฑ์มากที่สุด | -ร้อยละการได้รับการตรวจ CD4 Viral load และได้รับยาต้านไวรัส |
2 ผู้ป่วยได้รับยาป้องกันโรคฉวยโอกาสหลังตรวจ CD 4 | -ร้อยละการได้รับยาป้องกันโรคฉวยโอกาส(PCP cryptococosis MACและ penicillosis) |
3 ผู้ป่วยได้รับการคัดกรองความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฉวยโอกาสทุกรายและหญิงติดเชื้อได้รับการดูแล | -ร้อยละของผู้ป่วยที่ได้รับการคัดกรองความเสี่ยงต่อการเกิดโรคฉวยโอกาส(วัณโรคและซิฟิลิส์)ร้อยละของหญิงติดเชื้อได้รับการตรวจ pap smear โรคทางเพศสัมพันธ์และการป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก |
4.จัดตั้งกลุ่มผู้ติดเชื้อเพื่อติดตามเยี่ยมบ้านกันเอง | การจัดตั้งกลุ่มผู้ติดเชื้อและดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง |
ตัวชี้วัด |
2547 | 2548 | 2549 | 2550* |
1. 1.1การติดตามCD4 เกณฑ์ ³ 90 % 1.2การติดตาม Viral load** ³ 90 % | 93.3% (40/41)0 | 97.05% (33/34)0 | 100(36/36)0 | - |
2.การได้รับยาต้านไวรัสในผู้ที่สมควรได้รับ เกณฑ์³ 90 % | 88.0% (22/25) | 100.0%(28/28) | 100%(23/23) | - |
3.การได้รับยาป้องกันโรคฉวยโอกาสในผู้ทีสมควรได้รับ 3.1 จาก PCP เกณฑ์ ³ 85 % 3.2 จากCryptococcosis เกณฑ์ ³ 85 % 3.3 จาก MAC ไม่ได้บังคับในปีนี้ 3.4 จาก Penicillosis ไม่ได้บังคับในปีนี้ | 96.6% (25/26)5.36 % (1/9)0%(0/11)0 %(0/19) | 96.77(30/31)45.45 % (5/11)0%(0/13)0 %(0/10) | 100%(23/23)100%(10/10)0%(0/10)0%(0/8) | ---- |
4. การคัดกรองวัณโรค** เกณฑ์ ³ 95 % | 0 % (0/23) | 88.23 %(30/34) | 78.1%(25/32) | - |
5. การคัดกรอง VDRL** เพื่อดูซิฟิลิส เกณฑ์ ³ 90 % | 20 % (6/30) | 44.12 % (15/34) | 63.9(23/36) | - |
6. การดูแลผู้ติดเชื้อผู้หญิง**6.1 การตรวจ PAP smear ในผู้หญิง เกณฑ์ ³ 60 %6.2 การตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์(STI) เกณฑ์ ³ 50 %6.3 การป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก เกณฑ์ ³ 95 % | 10.5 % (2/19)0 % (0/19)66.7%(2/3) | 26.08(6/23)0 % (0/23)75.0% (3/4) | 21.7(5/23) 0%(0/23)100% (1/1) | --- |
7. การจัดตั้งกลุ่มผู้ติดเชื่อ (เป้าหมาย 1 แห่ง) - ตั้งกลุ่มผู้ติดเชื้อ - ตั้งศูนย์องค์รวม - จำนวนแกนนำกลุ่มผู้ติดเชื้อ - จำนวนครั้งของการประชุมกลุ่มสมาชิก (เป้าหมาย เดือนละ 1 ครั้ง) | ---- | 1 แห่ง-26 | 1แห่ง-48 | -1 แห่ง77 |
*อยู่ในระหว่างการดำเนินการ** ยังไม่ผ่านเกณฑ์
4. กระบวนการเพื่อให้ได้คุณภาพ
4.1 กระบวนการพัฒนา งานเอดส์ได้ทำการพัฒนากระบวนการการดูแลผู้ป่วยตามแนวทางของกรมควบคุมโรคติดต่อตามแนวทางโครงการการเข้าถึงยาต้านไวรัสเอดส์ในประเทศไทย (NAPHA)และได้นำโปรแกรม HIVQUAL-T เข้ามาเพื่อพัฒนาคุณภาพการบริการการดูแลรักษา และนำมาทำ Clinical CQI ต่อเรื่องการปรับปรุงคุณภาพการดูแลผู้ติดเชื้อ / ผู้ป่วยเอดส์ในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ในปีงบประมาณ 2548 และเรื่องการปรับปรุงคุณภาพของการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและโรคซิฟิลิส ในผู้ป่วยหญิงที่ติดเชื้อ เอช ไอ วี ในโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนมในปี 2549 พบว่ามีแนวโน้มการรักษาดีขึ้น จัดทำแนวทางการบริการการดูแลรักษาผู้ป่วยที่มารับบริการให้กับทีมเอดส์ทราบเพื่อปฏิบัติเป็นแนวทางเดียวกัน อบรมแกนนำเพื่อให้ความรู้แก่แกนนำผู้ติดเชื้อในการดูแลผู้ติดเชื้อด้วยกันเองและประสานงานกลับกลุ่ม NGO เพื่อให้ความอนุเคราะห์งบประมาณคือกลุ่มรณรงค์เพื่อการรักษาเอดส์(TTAG) ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งงบประมาณและตัวบุคลากร
4.2 กระบวนการดูแลผู้ป่วย
ก. การดูแลขณะอยู่ในหอผู้ป่วยโรงพยาบาล ผู้ป่วยทุกรายจะได้รับการตรวจโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมหากเป็นแพทย์ท่านอื่นสามารถขอคำปรึกษาได้ โดยผู้ป่วยที่นอนโรงพยาบาลจะได้รับบริการในการรักษาโรคติดเชื้อฉวยโอกาสที่ผู้ป่วยเป็นในระหว่างการรักษาจะได้รับบริการ VCT หากอยู่ในช่วงบริการการตรวจ CD4 ก็จะได้รับการส่งตรวจเลือดเพื่อการพิจารณาเข้าเกณฑ์การรักษาต่อไป ขณะที่นอนอยู่หอผู้ป่วยจะได้รับการดูแลจากทั้งแพทย์ เภสัชกร และพยาบาล และหากผู้ป่วยต้องการที่จะมีเพื่อนโรงพยาบาลมีกลุ่มผู้ติดเชื้อที่คอยช่วยเหลือและดูแลผู้ป่วยด้วยกันเอง เมื่อผู้ป่วยได้รับการรักษาหายจากโรคติดเชื้อฉวยโอกาสก็จะส่งต่อเข้ารับบริการที่ตึกผู้ป่วยนอกต่อไป
ข. การดูแลผู้ป่วยนอก ประชาชนหากมีความประสงค์ที่จะเจาะเลือดเพื่อตรวจดูว่าตนติดเชื้อหรือไม่นั้นสามารถขอตรวจได้และจะได้รับบริการ VCT ก่อนเจาะเลือดและหลังจากเจาะเลือดแล้วหากไม่พบก็จะให้บริการเกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อ หากติดเชื้อจะได้รับการนัดมาเพื่อตรวจดูระดับ CD4 หากเข้าเกณฑ์การรักษา แพทย์ก็จะสั่งจ่ายยาต้านไวรัส โดยจะได้รับคำแนะนำในการรับประทานยาจากเภสัชกร เพื่อติดตามและประเมิน Adherance และผู้ป่วยนั้นจะได้รับการติดตาม ADR ที่สำคัญคือ ตับอักเสบโดยจะได้รับการตรวจ SGPT ALk ก่อนกินยา และหลังกินยาไปแล้ว 2 สัปดาห์ เมื่อกินยาครบหกเดือน ผู้ติดเชื้อจะได้รับการตรวจ CD4 ซ้ำ เพื่อประเมินผลการรักษา ผู้ป่วยทุกรายเมื่อมารับบริการจะได้รับการตรวจคัดกรองวัณโรค ผู้ป่วยทุกรายจะได้รับการตรวจ VDRL เพื่อประเมินการติดซิฟิลิส และหากเป็นหญิงจะได้รับการตรวจ pap smeare เพิ่มเติมเพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ใน 1 ปีผู้ป่วยที่กินยาจะได้รับการตรวจ Viral load เพื่อดูการดื้อยาของเชื้อเริ่มดำเนินการ ปี 2550 เป็นต้นไป ผู้ป่วยทุกรายที่ยินดีเปิดเผยตัวกับกลุ่มผู้ติดเชื้อจะได้รับการบริการเพิ่มเติมจากสมาชิกกลุ่มผู้ติดเชื้อ(กลุ่มสานน้ำใจสองฝั่งโขง)
ค. การป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก หญิงตั้งครรภ์ทุกรายที่มาฝากครรภ์จะได้รับการฝากครรภ์ 4 ครั้งคุณภาพและจะได้รับบริการการตรวจดูว่าติดเชื้อหรือไม่หากติดเชื้อจะได้รับยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันทุกรายและได้รับการตรวจดู CD4 หากเข้าตามเกณฑ์จะได้รับยาต้านไวรัส เมื่อคลอดแม่จะได้รับยาป้องกันขณะคลอดและเด็กเมื่อคลอดแล้วจะได้รับยาป้องกันและได้รับนมผสมทุกรายและตรวจติดตามว่าติดเชื้อหรือไม่ทุกเมื่อ อายุ 12 เดือน และ 18 เดือน
ง. การดูแลที่บ้านและผู้ที่ได้รับผลกระทบ ผู้ติดเชื้อและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเอดส์(ผู้สูงอายุและเด็ก)ที่เป็นสมาชิกกลุ่มสานน้ำใจจะได้รับการเยี่ยมบ้านจากแกนนำกลุ่มเดือนละ 1 ครั้ง
4.3 ระบบงานสำคัญที่เกี่ยวข้อง ก. ผู้ป่วยทุกรายจะได้รับการติดตามและบันทึกข้อมูลลงในโปรแกรม NAPHA และเข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติผ่านระบบบันทึกข้อมูลในโปรแกรม NAP-Program ที่เป็นความลับ ข. การฝึกฝนทักษะของแพทย์ / พยาบาล เภสัชกรและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการทบทวนความรู้อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งเพื่อเป็นการทบทวนและทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการดูแลผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ ค. ระบบการดูแลต่อเนื่องที่บ้าน กลุ่มสานน้ำใจสองฝั่งโขงพัฒนาตนเองเพื่อเยี่ยมบ้านผู้ป่วยแทนเจ้าหน้าที่
5. แผนการพัฒนาต่อไป / ปัญหาอุปสรรค
1. คู่มือการดูแลตนเองที่บ้านและแนวทางการให้คำปรึกษากรณีเกิดภาวะแทรกซ้อน
2. การได้จัดทำ competency ของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการทำงานด้านเอดส์ขึ้น
3. นำผู้ติดเชื้อเข้ามามีส่วนร่วมในระบบบริการสุขภาพเพื่อดูแลผู้ป่วยด้วยกันเองมากขึ้น
4. การให้ความรู้แก่ชุมชนโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนร่วมกับผู้ติดเชื้อและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อลดผู้ติดเชื้อรายใหม่
5. การค้นหาผู้ป่วยรายใหม่
เก่งมากครับน้องมด ที่เขียนกระชับ ได้ใจความ อ่านแล้วเข้าใจงานที่ทำอยู่ทั้งหมดออกเลยครับ
ถ้าเพิ่มประเด็น เด่นๆที่เป็นนวัตกรรมเพิ่มไป จะเจ๋งมาก เช่นเรื่องตอนที่นำอาสาสมัครมาเป็นส่วนร่วม อาสาสมัครที่เข้มแข็ง หรือบางเรื่องที่เล่าแล้วต้องหลั่งน้าตาจาก caseที่ดูแล เพื่อแสดงว่า เราดูแลอย่างองค์รวมขนาดไหน โดยเฉพาะการดูแลด้านจิตใจ ซึ่งพี่ว่ามันสำคัญมาก ในคนไข้กลุ่มนี้ ซึ่งเรามีเรื่องเล่าอยู่แล้ว พี่ว่า
สู้ๆนะ น้องนะ
ขอบคุณที่ไปเยี่ยมค่ะ เขียนได้กระชับดีค่ะ จะนำไปเปรียบเทียบตัวชี้วัดของHIVQUAL ค่ะ
การทำPap ของสถาบันไม่ดี แต่หลังจากให้ข้อมูลและความสะดวกผู้ป่วยมาตรวจมากขึ้นค่ะ
ขอให้กำลังใจคนทำงานนะคะ