หน้าแรก
สมาชิก
นาง พรรณา ผิวเผือก
สมุด
เล่าเรื่องเล่น ๆ
ส่องดาว
นาง พรรณา ผิวเผือก
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
ส่องดาว
ได้ดาวดังใจ
ยายน้องพรรณ เธอจะไปอยู่ส่องดาวไหม โรงเรียนนี้ตำแหน่งว่างอยู่ดีนะ ไปค่ะไปขอให้ได้พ้น ๆ บ้าน ( อยากไปตั้งนานแล้วตั้งแต่เห็นป้ายชื่อข้างทางหลวง ) ฟังเหมือนเบื่อบ้านเปล่าหรอก เราคนไม่ชอบอยู่บ้านต่างหาก ไปถึงครั้งแรกทราบว่ามีวัดของพระอาจารย์วัน อุตโม ไม่รู้จักหรอกแต่ก็ไปกราบพระธาตุของท่าน อยู่ ๆ ไปก็ฟังเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับการเป็นพระนักพัฒนาของท่าน บอกก่อนนะวัดท่านอยู่บนภูเขาสมัยก่อนต้องเดินเท้าขึ้นไป ขอบอกว่ามันหยดเลยแหละ ไม่มีบุญจริงยาก....... พอใกล้สงกรานต์ ( วัน ๘ คำ หรือ ๑๕ คำ จำไม่แม่น ) จะมีเทศกาลงานบุญชาวบ้านชาวช่องเขาก็ขนข้าวปลาอาหารขึ้นไปทำบุญกันรู้สึกว่าจะทำกัน ๕ - ๑๐ วันนี่แหละ ทุกอย่างฟรีหมด ใครใคร่กินกิน ใครใคร่ซื้อซื้อ ( ไม่ได้ขายเขาเรียกว่าทำบุญเพราะทุกอย่างยกใหวัดหมดเลย ) โดยเฉพาะน้ำแข็งใส่เป๊บซี่นี่ฮิตมากเลยวันหนึ่งรายได้เป็นหมื่น ๆ บาทเฉพาะจุดทำบุญแก้วละ ๑ บาท ทุบนำแข็งด้วยสากไม้ใส่ลังสมัยก่อนอากู๋อากงจำได้ ( ต้องกู๋กงสมัยครูนะ ) จุดบริการฟรีก็ไม่แพ้กันเลย ต้องบอกเป๊บซี่นี่คนอีสานเขาชอบแบบซื้อแฟ้บได้......อะไรทำนองนั้นแต่นี่บริษัทเขาเอามาบริจาค นำแข็งก็บริจาค เด็กนักเรียนโรงเรียนส่องดาวเขารับภาระนี้เป็นประจำ.......เมื่อสองปีก่อนไปเที่ยววัดมายังจำหม่องนอนได้เลย ๒๐ กว่าปีแล้วสภาพยังเหมือนเดิมเลย ยุงบ้านน้อก บ้านนอกอีกแหละ ตกดึกเข้านอนหมด ก็เดินบริการกันทั้งวันตั้งแต่๖ โมงเช้ายัน ๒ ทุ่ม ยุงเลยงง แต่ไม่มีจริง ๆ นะ แปลกในป่าน่าจะมียุง แต่ไม่มีแสดงว่า ยุง ยุง ยุงมันยุ่งหัวใจ ( คนอยู่บ้านนอกหัวใจไม่ค่อยยุ่งยุงเลยไม่มีไง ) ที่ส่องดาวนี่แหละที่เป็นแหล่งเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งการให้ที่ครูพรรณาได้พบเห็น ทุกวันนี้เขาก็ยังมีงานบุญเช่นนี้อยู่ แต่ยุงมันพัฒนาแล้ว ข้าวของที่มีวางขายก็ราคาค่อนข้างแพง จะว่าไปแล้วหากคิดถึงสภาพที่เราต้องหอบขึ้นไปเองเหมือนขึ้นภูกระดึง มันก็ไม่แพงเลยสำหรับคนรักสบาย
โม้มาตั้งนานอยากชวนไปเที่ยวส่องดาวต่างหาก
ข่าวเขาว่ามีจุดชมป่า และถ้ำของพวกพัฒนาชาติไทย ( กลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยกับบ้านเมืองสมัยนั้น....เรื่องจริงมีสองอย่างเหมือนปักต์ใต้บ้านเราเปรี๊ยบเลย ) ครูเคยไปมาแล้วรับรองได้อยู่สบายเป็นชาติออกลูกออกหลานก็มีกินมีนอนเพราะมีลำธารไหลผ่านเข้าไปในถ้ำ ถ้ำก็กว้างสัก ๕๐ ตารางเมตรได้ งานนี้ต้องขอบใจเจ้าไมตรี นักเรียนร.ร. ส่องดาวสมัยนั้น บ้านเขาอยู่ที่บ้านท่าวัด ที่อุตส่าห์พาครูเที่ยวซุกซนไป คนอีสานมีนำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ขี่รถจักรยานไปเที่ยวติดฝนขอหลบฝนตามบ้าน เย็นมากแล้วเขาก็หุงข้าวให้กินเราก็ขอบใจตามระเบียบผ่าเว้าลาวขอบใจท่าน ...ต้องเรียกพ่อตู้ พอจะจากมาพ่อตู้เอิ้นถามว่า อี่นางอี่นางเจ้าน่ะลาวบ้านได๋ ฮ่า ฮ่ ฮ่า ข้อยบ่แม่นลาวด๊อก ...........................
อย่าลืมไปเที่ยวส่องดาวนะเพียงกราบและศึกษาประวัติของหลวงพ่อวัน คุณ ๆ ทั้งหลายก็จะได้ดาวมาประดับใจแน่
นอน......ตีลังกายันได้
เขียนใน
GotoKnow
โดย
นาง พรรณา ผิวเผือก
ใน
เล่าเรื่องเล่น ๆ
คำสำคัญ (Tags):
#เรียนรู้ชีวิตจริงจากเด็ก
หมายเลขบันทึก: 116671
เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2007 20:12 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:45 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
นาง พรรณา ผิวเผือก
สมุด
เล่าเรื่องเล่น ๆ
ส่องดาว
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท