ก่อนจะออกจากอำเภอเมือง ป๋าพาไปซื้อไก่บ้าน ซึ่งจะนำไปทำเป็นอาหารจานเด็ดให้กับผู้เขียนและพี่อีกท่านที่อาสานำต้นไม้ไปส่งให้ ระหว่างที่รอมีเรื่องน่าขันที่ว่า.....
มีคนเดินมาหาทันทีที่จอดรอรอป๋าที่กำลังเดินไปซื้อไก่บ้าน ณ บริเวณ ตลาดประตูผี แล้วถามว่า “ต้นไม้นี่ต้นอะไรคะ” พี่ชายเราก็ตอบไปว่า มี “ประดู่ พระยาสัตบรรณ และสะเดา ครับ” จากนั้นเราก็ได้ยินคำตอบของพี่ผู้หญิงตอบกลับมาว่า “อืม บ้านเรามีแล้ว ไม่ซื้อแล้ว” งง !!! เลยสิคะ นี่ถ้าเพาะต้นไม้มาปลูกจริงๆคงขายได้ดีทีเดียว เพราะแค่จอดรถยังไม่ทันไร ก็มีลูกค้ามาถามทันที ^-^ น่าจะดีทีเดียว.....
จากนั้นใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านของป๋า เห็นชาวบ้านทำสวน มีบ่อปลา เพื่อเลี้ยงปลาไว้กิน เป็นที่น่าสังเกตว่าชาวบ้านจะเลี้ยงวัวไว้ทุกเกือบทุกบ้าน ป๋าบอกว่า เป็นสิ่งที่ชาวบ้านมีไว้เพื่อใช้ในยามขาดแคลนทุนทรัพย์ เพราะการเลี้ยงวัว หากไม่มีเงินใช้ในยามจำเป็นก็สามารถนำไปขาย หรือ จำนำ ได้ โดยเฉพาะการขายเพื่อนำเงินส่งลูกเรียน (เด็กๆในปัจจุบันจะรู้คุณค่าของเงินแค่ไหน ว่าเงินที่ส่งตนเรียนนั้นมาจากหยาดเหงื่อแรงงานของพ่อและแม่สักเท่าใด....น้อยคนนักที่จะตระหนักถึงจุดนี้ ใช้เงินอย่างมือเติบในสังคมอันฟุ้งเฟ้อในสังคมเมืองกรุง)
เอาภาพวัวที่บ้านป๋าเลี้ยงไว้มาให้ชมกันคะ มีอยู่ 5 ตัว บางตัวสูงท่วมหัวเลยคะ
ส่วนเจ้าตัวข้างล่างนี้เป็นพ่อวัวพันธุ์อเมริกันบรามัน ตอนกำลังเก็บภาพ เห็นทำท่านิ่งๆมองดูด้วยความสงสัย ??? ปรากฏว่าสักพัก เดินถอยหลังไปแล้วหันหลังมา ทำท่ากระโดดถีบใส่.... ยังดีที่ระยะห่างห่างกันพอสมควรและมีเสาของคอกวัวกั้นไว้ ไม่งั้นโดนลูกถีบของเจ้าวัวอเมริกันบรามันเข้าให้เป็นแน่แท้
ตกค่ำอาที่เป็นญาติกับป๋าทำต้มไก่บ้านซึ่งเป็นอาหารจานจานหลัก และอาหารอย่างอื่นอีกสามอย่าง มีชาวบ้านอีกกลุ่มเดินมาทักทาย แต่ไม่ยอมนั่งทานโต๊ะเดียวกัน ไปนั่งจับกลุ่มคุยกันที่โต๊ะข้างๆ อาจจะเกรงใจและให้เกียรติ เพราะพี่ที่ไปด้วยเป็นอาจารย์ ทานกันตั้งแต่หกโมงจนเกือบสามทุ่มกว่า นึกว่าเรียบร้อยจะได้กลับแล้ว ปรากฎว่าอาเดินออกมาจากครัวแล้วหิ้วหม้อข้าวกับน้ำพริกปลาร้ามาอีกบอกว่า “อย่าเพิ่งรีบกลับนะคะ ทานข้าวก่อนนอนให้อิ่ม” (ผู้เขียนนึกในใจว่า โอ๊ย จะแย่อยู่แล้ว อิ่มมากๆ แต่จะให้ทำอย่างไร เพื่อไม่ให้เสียมารยาทก็ต้องตักข้าวใส่จานทานกันต่อ) และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เพิ่งเคยทานดอกกระเจียวลวกจิ้มน้ำพริกปลาร้า รสชาติหวานตรงยอดแต่ฝาดๆด้านก้านดอก แปลกไปอีกแบบ
เป็นอันว่าภารกิจในวันนั้นก็ผ่านไปอย่างเรียบร้อย และถ้ามีโอกาสได้ไปอีกจะนำเก็บเกี่ยวเรื่องราวมาฝาก เพราะยังมีวี่แววว่ายังเหลือต้นไม้อีก 300 ต้นที่ป๋าขอไว้จากสวนลิมปตพัลลภให้ทางโรงเรียน คราวนี้มีพี่ๆน้องๆที่หอพักสุรสัมมนาคารยินดีจะไปร่วมทำบุญอีกหลายท่านทีเดียว J
สวัสดีครับ...น้องกมลนารี