ผลงานวิจัยถ้าจะเผยแพร่ให้ขจรขจาย ไม่ใช่ทำได้แค่เวทีของการประชุมวิชาการ หรือทำเป็นรูปเล่มเท่านั้นนะคะ บันทึกบน Blog นี่แหละค่ะ เหมือนได้ขึ้นเวที Inter เลยทีเดียวเจียว แถมไม่ต้องลงทุนลงแรงบินไปเมืองนอกเมืองนา ดิฉันได้อ่านบทคัดย่องานวิจัยของ อาจารย์สุวรรณา (อาจารย์สุวรรณา ถาวรรุ่งโรจน์) http://gotoknow.org/profile/suwannat
แล้ว อดใจไม่ได้ที่จะนำมาบันทึกไว้อีกที่นี่ เพราะน่าสนใจมากและนำไปใช้เป็นประโยชน์ได้เลย เผื่อใครสนใจ จะได้ถามไถ่นำไปต่อยอดกันได้อีก
รอบเอวเป็นตัวบ่งชี้ภาวะอ้วน และความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวาน metabolic syndrom โดยเป็นตัวบ่งชี้ที่ใช้ง่าย ไม่ต้องใช้การคำนวณ แต่ระดับค่าที่กำหนดไว้เพื่อบอกภาวะอ้วนนั้นมักจะกำหนดโดยองค์กรต่างประเทศ ปัจจุบันเกณฑ์วินิจฉัยโรคของ metabolic syndrome กำหนดรอบเองที่บอกภาวะอ้วนลงพุงในเพศชายมากกว่า 90 ซม. เพศหญิงมากกว่า 80 ซม. แต่การศึกษาในประเทศไทยได้ค่ารอบเอวในเพศชาย 93 ซม. ในเพศหญิง 84 ซม. ผู้วิจัยจึงใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากงานวิจัยโรคหัวใจและหลอดเลือดที่ติดตามประชากรเป็นเวลานาน เพื่อจะได้ตรวจสอบผลการศึกษาของผู้วิจัยกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น โดยผู้วิจัยศึกษาระดับค่ารอบเอวโดยใช้ Reciever operating characteristic curve และ เปรียบเทียบความแตกต่างด้วย Chi-square test ผลการศึกษาได้ระดับค่ารอบเอว 85 ซม. ในเพศชาย และ 79 ซม. ในเพศหญิง ที่มีความไวในการวินิจฉัยโรค metabolic syndrome
ผมเป้นนักเรียนครับ อยู่ ม.6 ทำโครงงานชีวะเรื่อง โรคพันธุกรรมเมทาบอลิค กระผมทำสำเร็จเรียบร้อยครับ..... แต่มีโครงงานฟิสิกส์มาประยุกค์สิครับ วัตถุประสงคือ การคำนวนวินิจฉัยโรคเมตาบอลิค ผมจึงอยากจะข้อร้องท่านที่มีความรุ้ด้านการวินิจฉัยโรคนี้ เกียวกับอาการที่ใกล้เคียงกับโรคอื่น การตรวจโดยเครื่อง การตรวจเลือด ผลการตรวจออกมาเป้นยังไง ประมานนี้งะครับ..ถ้าเกิดไม่ขัดข้องประการใด ผมขอความกรุณานะครับ จะขอบพระคุนป็นอย่างสูงครับ