มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน
ว่าที่ร้อยตรี จิรศักดิ์ กรรเจียกพงษ์

ปลุกกระแส “ยืดอก พกถุง” แก้เอดส์ หมอมงคลบอก “คิดซะว่าเป็นช้อนกลาง”


       กระทรวงสาธารณสุข เปิดตัวโครงการ “ยืดอก พกถุง” หวังกระตุ้นให้เยาวชนกล้าพก และกล้าใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ที่มีเพศสัมพันธ์เพื่อลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวี “หมอมงคล” บอกให้คิดว่าเหมือนการใช้ช้อนกลาง เผยในปีที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ประมาณ 16,000 ราย กว่า 1 ใน 3 เป็นเยาวชนหญิง และแม่บ้านที่ติดเชื้อจากสามี
       
       นพ.มงคล ณ สงขลา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดตัวโครงการ “ยืดอก พกถุง” ณ ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิลด์ เพื่อรณรงค์สร้างทัศนคติให้คนไทยและเยาวชนไทยกล้าซื้อถุงยางอนามัย กล้าพกติดตัว และใช้ทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันเชื้อโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส และป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์
       
       นพ.มงคล กล่าวว่า ขณะนี้สังคมไทยกำลังเผชิญกับปัญหาวัยรุ่นบางกลุ่มมีเพศสัมพันธ์เร็วขึ้น ทำให้เกิดปัญหาที่สำคัญ คือ การติดเชื้อเอชไอวี การตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ การทำแท้ง คาดว่า ในปีที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ประมาณ 16,000 ราย กว่า 1 ใน 3 เป็นเยาวชนหญิง และแม่บ้านที่ติดเชื้อจากสามี
       
       นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ป่วยโรคเอดส์ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 25-34 ปี ประมาณร้อยละ 50 นั่นหมายถึงว่าคนกลุ่มนี้ติดเชื้อเอชไอวีมาตั้งแต่อายุ 15-24 ปี และในกลุ่มเยาวชนอายุ 15-19 ปี พบว่า เพศหญิงป่วยเป็นเอดส์สูงกว่าเพศชายถึง 2 เท่าตัว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง ขณะที่อัตราการใช้ถุงยางอนามัยกับแฟน หรือคู่รักต่ำกว่าร้อยละ 50 โดยการสำรวจพฤติกรรมวัยรุ่นในปี 2549 พบว่า วัยรุ่นชายร้อยละ 17 วัยรุ่นหญิงร้อยละ 9 มีเพศสัมพันธ์แล้ว โดยใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 47 ส่วนวัยรุ่นหญิงใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 39
       
       ที่สำคัญคือ จากการสอบถามวัยรุ่นที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัย พบว่า ส่วนใหญ่อายผู้ขายโดยเฉพาะที่เป็นผู้หญิง และไม่กล้าใช้ถุงยางอนามัยกับแฟน เกรงว่า แฟนจะไม่รัก ไม่ไว้ใจ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้อง เพราะทุกคนมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อเอชไอวี หรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ รวมทั้งคนที่ดูจากภายนอกว่ามีสุขภาพดีอาจจะเป็นผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้ ไม่เฉพาะแต่ผู้ขายบริการทางเพศเท่านั้น
       
       “การกล้าซื้อถุงยางอนามัยและพกติดตัวและใช้ทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ จะช่วยป้องกันโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาทิ ไวรัสต่างๆ เชื้อรา แบคทีเรีย ฯลฯ เช่นเดียวกับการป้องกันโรคทางเดินอาหาร ที่ต้องใช้ช้อนกลางตักอาหาร เอาช้อนตักอาหารก็เหมือนกับว่า มีโอกาสแพร่เชื้อจากปากเราลงอาหาร เพราะฉะนั้น สธ.จึงรณรงค์ให้วัยรุ่นกล้าในการพกและใช้ถุงยางอนามัย ต่อไปนี้คนที่พกถุงยางอนามัยเป็นมีเกียรติ มีความรับผิดชอบเพราะไม้ต้องการแพร่เชื้อไปให้คนรอบข้าง อยากให้คนไทยพกถุงยางอนามัยเป็นนิสัยตลอดเวลา”นพ.มงคล กล่าว
       
       นอกจากนี้ ยังมีการเปิดเผยผลสำรวจเรื่องเพศของวัยรุ่นไทยกับถุงยาอนามัยและภัยเอดส์ โดยรศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุในงานวิจัยว่า พฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นปัจจุบันเทียบกับ 10 ที่แล้วมีการเปลี่ยนแปลงมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียนสูงมาก เมื่อเปรียบเทียบเป็นช่วงอายุ พบว่า วัยรุ่นที่เกิดในยุคปี 2483-2507 มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับคู่สมรสมากที่สุด แต่มีแนวโน้มที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับคู่สมรสลดลง
       
       โดยผู้ที่เกิดในช่วงปี 2483-2487 มี 64% ปี 2488-2492 ลดลงเหลือ 52% และปี 2493-2497 เหลือเพียง 37% เท่านั้น ปี 2498-2502 เหลือเพียง 36% ปี 2503-2507 เหลือ 33%เท่านั้น ขณะเดียวกันนี้มีความเปลี่ยนแปลงขึ้นในผู้ที่เกิดอายุ 2508-2512 จะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับหญิงบริการมากที่สุดถึง 43% ส่วนผู้ที่เกิดในปี 2513-2522 มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับเพื่อนสนิทมากที่สุดถึง 43% และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 62% ในกลุ่มของผู้ทีเกิดปี 2518-2522
       
       นอกจากนี้ งานวิจัยดังกล่าวยังระบุอีกว่า เพศสัมพันธ์ครั้งแรกในวัยรุ่นหญิงนั้น เกิดขึ้น เพราะถูกสถานการณ์กึ่งบังคับ ไม่เต็มใจ หรืออยู่ภายใต้อิทธิพลของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติด ส่วนในวัยรุ่นชาย มักมีเพศสัมพันธ์โดยไม่คำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นตามมา ชอบเซ็กซ์ฉาบฉวยโดยไม่ต้องรับผิดชอบ

ที่มา :  ผู้จัดการออนไลน์   27 กรกฎาคม 2550 16:45 น.


 

หมายเลขบันทึก: 115450เขียนเมื่อ 29 กรกฎาคม 2007 08:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน 2014 13:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ดีมากเลยค่ะ

เห็นโฆษณาดูแล้วตลกดีค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท