กำลังใจมอบแด่งานเทศกาลหนังสือ


เนื่องในโอกาส การจัดงานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 25 - 29 กรกฎาคม 2550 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จึงมอบกำลังใจให้แก่คณะทำงานและผู้จัดงานดีดี ให้แผ่นดินไทยในครั้งนี้

กำลังใจ

 

มอบแด่งานเทศกาลหนังสือ

 

ด้วยดอกไม้แห่งดวงใจ มอบให้กับผู้ทำงานสร้างสรรค์

เพื่อปลูกต้นไม้แห่งปัญญา บนผืนแผ่นดินไทย

 

 

 

ในท่ามกลางเทศกาลหนังสือ และมหกรรมหนังสือของประเทศไทย ทั้งลมร้อนลมฝน พัดฤดูกาลงานหนังสือมาสู่กรุงเทพฯ ปีละ 2 ครั้ง เมื่อรวมกับงานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ก็นับรวมได้ ปีละ 3 ครั้ง

 

ท่ามกลางความวาดหวังและคาดฝัน ให้เกิดลมพายุ หอบพัดอารมณ์ผู้คนและกระแสความบ้าคลั่ง ไหลหลั่งให้คนไทยบ้าหนังสือ โหยหา และกัดกินหนังสือ อยากอ่าน อยากเสพ อยากถอดความและสัมผัสเรื่องราวอันโลดแล่นในงานหนังสือ หรือเสพตัวหนังสือดุจความใฝ่ฝันสูงสุดในชีวิต

 

แต่สุดท้าย เราก็ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เมื่อพบว่า ความคาดหวังวาดหวังเป็นเพียงความฝัน

 

เมื่อเห็นลมของเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 5 พัดพามาอีกครั้ง จึงอยากให้กำลังใจ กับคณะทำงาน และให้กำลังใจกับคนทำหนังสือ มอบดอกไม้และกำลังให้กับการเดินทางอันยาวไกล

 

มอบแด่การปลูกต้นไม้แห่งปัญญา ในแผ่นดินไทย

 

 

หมายเหตุ - อ้างอิง

เกี่ยวกับเทศกาลหนังสือ

หลักการและเหตุผล

     เพื่อกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือ และการเรียนรู้ ตลอดจนเป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้แก่ครูและผู้ปกครองในการส่งเสริมการอ่าน ตลอดจนสร้างสภาพแวดล้อมให้เด็กและเยาวชนมีความสุขกับการอ่านหนังสือและการเรียนรู้ อันจะนำไปสู่นิสัยใฝ่เรียนรู้รักการอ่าน ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาคนในชาติต่อไปในอนาคต

    สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย และมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ในนามของภาคเอกชนที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือและการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนจึงได้กำหนดจัดงานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 5 (Book Festival for Young People 2007) ขึ้น ระหว่างวันพุธที่ 25 ถึง วันอาทิตย์ที่ 29 กรกฎาคม 2550 ณ โซนซี 1-2 และพลาซ่า ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

วัตถุประสงค์

1. รณรงค์ส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน อายุ 0-18 ปี

2. รณรงค์ส่งเสริมให้คนไทยตั้งแต่ เด็ก เยาวชนตลอดจนผู้ใหญ่ทุกอาชีพเห็นถึงความสำคัญของการอ่านและการเรียนรู้  ตลอดจนอ่านหนังสือได้อย่างต่อเนื่อง

3. ส่งเสริมให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู และบรรณารักษ์รู้เทคนิควิธีการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้แก่เด็กและเยาวชนอย่างเหมาะสมและได้ผล

4. ส่งเสริมให้สำนักพิมพ์ในประเทศไทยเกิดความตื่นตัวปรับปรุงพัฒนาการผลิตหนังสือเด็กและเยาวชนให้มีคุณภาพ มีความหลากหลายเป็นประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชนทุกช่วงอายุ

เป้าหมาย

1. สำนักพิมพ์ที่ผลิตหนังสือเด็ก  เยาวชน แบบเรียน  หนังสือประกอบการเรียน และสื่อการศึกษา จำนวน 180 แห่ง  ร่วมออกร้านจำหน่ายหนังสือและสื่อการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชน

2. ครู  บรรณารักษ์  เด็กและเยาวชน  ตลอดจนประชาชนที่สนใจเข้าชมงานและร่วมกิจกรรมทางวิชาการตลอดจนนิทรรศการต่าง ๆ ที่จัดในงานไม่น้อยกว่า 300,000 ค

ระยะเวลา

รวมทั้งสิ้น  5  วัน  คือระหว่างวันพุธที่  25   ถึง  วันอาทิตย์ที่  29  กรกฎาคม  2550   เวลา 10.0020.00 น.

สถานที่จัดงาน

โซนซี 1-2  และพลาซ่า   ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  พื้นที่   11,000  ตารางเมตร

พิธีเปิด

วันพุธที่  25  กรกฎาคม  2550  เวลา 10.00 น.

ประธานพิธีเปิด

ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานเปิดงาน

หน่วยงานผู้รับผิดชอบการดำเนินงาน

สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย 

กิจกรรมภายในงาน

1. การออกร้านจำหน่ายหนังสือเด็ก  แบบเรียน  หนังสือประกอบการเรียน และสื่อการศึกษาเด็ก 0-8 ปี บริเวณโซนซี 1 (ชั้นล่าง)

2. การออกร้านจำหน่ายหนังสือและสื่อการศึกษาเยาวชน 9-18 ปี บริเวณโซนซี 2 (ชั้นบน)

3. โครงการทอฝันปันหนังสือให้น้อง ครั้งที่ 10 ในวันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม 2550

4. กิจกรรมส่งเสริมการอ่านต่าง ๆ

5. การอบรมสัมมนาทางวิชาการ

ผลที่คาดว่าจะได้รับ

1. เกิดความตื่นตัวในวงการหนังสือ ในการผลิตหนังสือเด็กและเยาวชนที่ดีมีคุณภาพเพื่อสนองความต้องการของเด็กและเยาวชนทุกช่วงอายุ

2. ให้เด็กและเยาวชนตระหนักถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือตลอดจนมีนิสัยรักการอ่านหนังสือ

3. ทำให้เกิดการแข่งขันการพัฒนารูปแบบหนังสือและสื่อการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชนในรูปแบบที่ทันสมัย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย

83/159 ซอยชินเขต 2 ถนนงามวงศ์วาน แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210

โทร. 0-2954-9560-4 โทรสาร 0-2954-9565-6

e-mail : [email protected] 

หมายเลขบันทึก: 115291เขียนเมื่อ 28 กรกฎาคม 2007 14:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณค่ะ ขอบคุณสำหรับผู้จัด ด้วย

แต่เสียดายจัง พรุ่งนี้ ถึงจะไปกรุงเทพ 

คนต่างจังหวัดหมดสิทธิ์

 ไปก็ไม่ทัน

  • สวัสดีครับ
  • ผมไม่มีโอกาสได้ไปงานเทศกาลหนังสือสำหรับเด็กและเยาวชน
  • คงรอช่วงตุลาคม หรือไม่ก็งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเลยก็ว่าได้
  • ...
  • ไปกรุงเทพฯ  ผมมักไปขลุกอยู่ร้านหนังสือที่จตุจักรเป็นวัน ๆ ...
  • หรือไม่ก็ที่อนุสาวีรย์ , 
  • เคยใฝ่ฝันอยากทำร้านขายหนังสือที่สามารถลดราคาหนังสือได้ซัก 20 %  เพราะต่างจังหวัดไม่ค่อยใกลังซื้อนัก
  • ผมแปลกใจว่าที่จตุจักรและอนุสาวรีย์ ทำไมขายหนังสือใหม่เอี่ยมได้ในราคาลดครึ่งหนึ่งจากราคาปก
  • ถ้ามีผมมีร้านหนังสือเช่นนี้ได้  คงมีความสุขมาก ..
  • สวัสดีครับ คุณหมอ
    P
  • ไม่เป็นไรครับ รอกระทั่งถึงเดือนตุลาคม
  • ค่อยมากรุงเทพฯ อีกสักรอบนะครับ
  • เพราะมีงานมหกรรมหนังสือที่จะจัดขึ้นอีกครั้ง
  • น่าจะช่วยได้เหมือนกันครับ
  • ประเด็นคนต่างจังหวัดหมดสิทธิ์
  • เป็นประเด็นที่รันทดใจเหมือนกันนะครับ สำหรับมุมมองของคนที่รักการอ่าน และชื่นชมหลงใหลในหนังสือ
  • ผมคิดว่า คงต้องช่วยกันนำเสนอ เพื่อให้โอกาสของงานมหกรรมอย่างนี้ กระจายตัวไปในส่วนภูมิภาคได้มากๆครับ
  • คงต้องช่วยๆกันครับ
  • ขอบคุณ คุณหมอ อย่างมากครับ
  • สำหรับการเยี่ยมเยือน
  • ขอบคุณครับ
  • สวัสดีครับ อาจารย์
    P
  • ยินดีอย่างยิ่ง สำหรับการเยี่ยมเยือนครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ชื่นชมและหลงรักหนังสือเช่นเดียวกัน
  • อาจารย์ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ สำหรับราคาหนังสือที่สามารถขายได้ขนาดนั้น
  • เพราะความจริงก็คือ กลไกทางธุรกิจหนังสือ ของบ้านเราเป็นเรื่องพิกลพิการครับ
  • เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ในแวดวงหนังสือ ล้วนเจ็บช้ำน้ำใจในเรื่องนี้ บ่อยครั้งครับ
  • ไม่ต้องคิดอื่นไกลครับ ราคาหนังสือ 100 บาท ที่คัดสรรจากการเขียน จากการคิด จากการจัดวางรูปเล่ม ออกแบบศิลป์ทั้งหน้าปก เรียงหน้า และจัดวางหน้า
  • จะถูกสายส่งตัดราคา ไป 40 บาท
  • ราคา 40 บาท คือราคาทางธุรกิจที่ต้องจ่าย
  • ถูกสุดในวงการสายส่งก็ประมาณ 30 - 35 บาท
  • ที่เหลือ ก็ค่อยมาแบ่งตามสัดส่วนการผลิต
  • น่าเศร้ามากครับ
  • แต่ยังไม่น่าเศร้าเท่ากับว่า เงินเหล่านี้ ยังเป็นวงเงินเครดิต ในรอบ 120 วัน ที่กว่าจะวนกลับมาถึงผู้ผลิตหนังสือ ก็นานจนต้องนั่งแบกภาระดอกเบี้ย หรือหากไม่มีดอกเบี้ย ก็ไม่มีเงินสดในมือ
  • ดังนั้น กระบวนขายขาด จึงเป็นหนทางในการหมุนเงินที่ผู้ผลิตหนังสือวันนี้ เลือกใช้ครับ
  • หนังสือใหม่ ขายครึ่งราคา คุ้มกว่าในเรื่องของการหมุนเงินสด ในการทำงานอย่างอื่น หรือผลิตหนังสือเล่มอื่นต่อไปครับ
  • ในอีกมุมมองหนึ่งหากสามารถ ตัดกระบวนการสายส่ง ตัดร้านค้า หรือสร้างจุดจำหน่าย ให้ถึงมือผู้ซื้อได้ ราคาหนังสือในทุกวันนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องขายแพงมากก็ได้ครับ
  • เรื่องนี้ คงต้องช่วยๆกันอธิบาย ช่วยๆ กันแก้ไขปัญหาครับ
  • ยินดีอย่างมากครับ ที่ได้ทราบความใฝ่ฝันของอาจารย์
  • ขอให้ความใฝ่ฝันนี้เป็นจริงครับ
  • ผมจะหาโอกาสไปเยี่ยมเยือนความใฝ่ฝันที่แสนงดงามนี้ครับ
  • ยินดีอย่างยิ่งครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท