เมื่อวานสอบ Final แล้วก็ได้รู้เกรด Annual Report Project ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ กลุ่มฟ้าได้ C+ ก็แอบช็อคเล็กน้อย เพราะระดับปริญญาโทได้เท่านี้ก็เหมือนตกนั่นแหละ เปิดดูข้างในรายงาน Prof. แก้แดงเถือกเต็มไปหมด ทั้งสะกดผิด เขียนตกหล่น grammarผิด ส่วนของการวิเคราะห์ก็มี comments พอสมควร
ตอนเปิดมาถึงหน้าสุดท้ายด้วยใจระทึก Prof. บอกว่ามีข้อผิดพลาดเยอะมากอย่าง unacceptable แล้วก็มี C+ ตัวเบ้อเร่อ ล่องลอยมากหลอกหลอนตรงหน้า ไม่ได้โทษใคร ก็รับรู้เงียบๆแล้วก็เดินออกจากห้องสอบไป
ทำใจว่าคงไม่ได้ A ทั้งที่หวังว่าจะได้จากวิชานี้
แต่วันนี้ได้รับเมลเพื่อนในกลุ่ม Angeliqueรับไม่ได้ที่ได้ C เท่าไหร่ แล้วก็ส่งอีเมลให้คนในกลุ่ม โดนเน้นตำหนิคนที่เป็นคนดูแล (Jonathan) ในส่วนของ writing ค่อนข้างรุนแรงทีเดียว
Jonathan เป็นคนเสนอตัวแต่แรกว่าเค้าจะเป็นคนทำในส่วน writing เอง ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการรวบรวมก่อนส่ง แต่เค้ารับผิดชอบได้ไม่ดีเอาซะเลย กว่าจะส่ง draft มาก็คืนก่อนส่งรายงาน เพื่อนในกลุ่มคงไม่พอใจ ฟ้าเองก็ไม่ได้มีปากเสียงในกลุ่ม แค่ดูในส่วนของเราไป
ที่ Angelique ส่งเมลมาเพราะเค้าสอบเป็นคนสุดท้ายในห้องเลยได้คุยกับอาจารย์ ได้ความว่า
Prof. คนนี้ค่อนข้างเข้มงวด แล้วงานชิ้นนี้เป็น formal paper ซึ่งทำให้ฟ้ารู้สึกแย่มากๆๆๆ นี่ขนาดในกลุ่มทุกคนเป็น American ทั้งหมดนะเนี่ย เพราะฟ้าอ่านแล้วฟ้าเข้าใจ แต่ถ้าถามว่า grammar เพียวๆแท้ๆเนี่ย ฟ้าก็ไม่รู้หรอกว่าถูกหรือผิด
เรื่องเยอะแยะไปหมด แต่ฟ้าขอสรุปแค่นี้แล้วกัน ตอนแรกฟ้ารู้สึกแย่ๆมาก ตั้งใจว่าจะเมลไปหาอาจารย์อยากขอแก้ไขหรือทำงานเพิ่มเติม แต่ลึกๆแล้วก็รู้สึกว่าคงไม่เกิดประโยชน์ เพราะยอมรับและเคารพการให้เกรดของอาจารย์ แต่ก็แอบอึดอัด
ในฐานะที่เป็นอาจารย์เรารู้ว่า ถ้ามีนักศึกษามาขอแบบนี้ เราก็คงให้ไม่ได้ เพราะเป็นการเลือกปฏิบัติ ไม่อยากให้อาจารย์ลำบากใจ
ในขณะเดียวกันตอนนี้ฟ้ามีสถานะเป็นนักศึกษา เลยรู้สึกว่ามันแฟร์รึเปล่า การที่คะแนนต่ำขนาดนี้ เพราะเรื่องการเขียน formal paper เป็นหลักหรือเรื่องการวิเคราะห์ที่ไม่ดี อันไหนมีน้ำหนักมากกว่ากัน Prof. คงผิดหวังมาก ที่ขนาด Native เขียนนะ ถ้าฟ้าเขียน Prof. คงเลิกอ่าน (ส่วนของฟ้า ฟ้าให้เพื่อนแก้ grammar ให้ก่อน)
อาจจะเขียนวกวน ตอนนี้สมองเบลอๆ หลังจากปล่อยวางสักพัก ฟ้าเลยคิดว่าฟ้าได้เรียนรู้อะไรบ้าง
พอคิดแบบนี้ ฟ้าก็สบายใจขึ้น ฟ้าถือว่าเกรดไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด เพราะฟ้าได้เรียนรู้อะไรมากมายกว่านั้น จะได้เก็บไว้เป็นบทเรียน เพื่อใช้ในการทำงานเป็นกลุ่ม ทั้งเรียนและทำงาน มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย
กด 1 ต้อมจะเอื้อมมือไปบีบมือคุณฟ้าเบา ๆ แบบให้กำลัง แต่ไม่พูดอะไรทั้งนั้น นั่งเป็นเพื่อนใกล้ ๆ เงียบ ๆ
กด 2 ต้อมจะกอด ๆ ๆ คุณฟ้า อ่าววว สัมผัสบำบัดไงล่ะ แหม๊ คิดมาก เขาว่ากันว่า (( เขาไหนไม่รู้อ่ะ อิอิ )) .. การโอบกอดนี่ช่วยหลั่งสารตัวหนึ่ง ชื่ออะไรก็ม๊ะรุ มีผลต่อการบรรเทาอาการเครียดและไม่สบายใจ ได้นะเออ
กด 3 ต้อมจะถือพู่ที่เชียร์ลีดเดอร์ใช้น่ะ ร้องเพลงเชียร์คุณฟ้าสู้ ๆ คุณฟ้าสู้ตาย คุณฟ้าไว้ลาย สู้ตายนะคุณฟ้า
สวัสดีค่ะ คุณเนปาลี ตอนนี้คูโบต้า อ่อนแรงค่ะ
กด 1 ได้กำลังจากคุณเนปาลีเพียบเลย (เพราะบีบซะแรง ฮ่าๆๆๆ)
กด 2 จริงๆค่ะ บางครั้งอยากกอดใครสักคนมากๆเลย แต่ไม่มีใครให้กอด เลยได้แต่กอดตัวเองและตุ๊กตาหมีพูห์ (เอ๊ะ หรือต้องรีบหาคนกอดดี อิอิ)
กด 3 กำลังนึกภาพ คุณเนปาลี เป็นเชียร์ลีดเดอร์.............. อืม คงน่ารักไม่แพ้ฟ้าเนี่ยแหละ เอิ๊กๆๆๆๆ
ขอบคุณมากนะคะ เดี๋ยวฟ้าเหลือ final อีกวิชานึงวันจันทร์ แล้วก็หมดละสำหรับเทอม summer ^_^
ระบบให้บริการอัตโนมัติน่ะ กดได้แค่ 1 กับ 2 ค่ะ ส่วน 3 มีไว้หลอกล่อเฉย ๆ
แหม แหม๊ ขี้อายระดับต้อมนี่ แค่เดินเข้าไปในสถานที่ที่มีคนมากกว่า 5 ก็สั่นเป็นเจ้าเข้าแล้ว จะให้เต้นเชียร์คุณฟ้าอีก คงลมจับตั้งกะตอนยกพู่ขึ้น เสียงดนตรีเพิ่งจะเริ่มอ่ะดิ อิอิ
เป็นกำลังใจให้คุณฟ้านะคะ ^_^
สวัสดีค่ะ คุณแผ่นดิน
อดีตอันเป็นความผิดพลาดที่เราถอดบทเรียนออกมาเป็นผลึกความคิด ..
ชอบมากเลยค่ะ
ตอนแรกฟ้าก็หงุดหงิด คิดมาก ใจร้อน แต่พอให้เวลาสักนิด คิดทบทวน เมื่ออารมณ์ถูกแทนที่ด้วยเหตุผล เราก็มองเห็นอะไรมากขึ้น ใจก็สบายขึ้นด้วยค่ะ
หากรู้ข้อผิดพลาดและพร้อมเตรียมการแก้ไขอย่างรู้เขารู้เรา คราวหน้าจะโอเค ขอให้กำลังใจครับ