สนามบินต่างประเทศของเมืองซิดนีย์มีขนาดใหญ่มาก มีคนมาก มีช่องให้เช็คอินหลายช่อง มีร้านขายของหลายร้าน ทั้งของกินและของที่ระลึก ผมกับพี่กฤชก็เดินดูกันไปเรื่อยๆ ดูแล้วสินค้าก็คล้ายๆกับข้างนอกแถมทำในเมืองจีนเหมือนกันอีก ก็เดินดูเฉยๆไม่ได้ซื้ออะไร จนถึง 14.00 น. ก็ไปดูที่บริเวณเช็คอิน ปรากฏว่าเปิดให้บริการแล้ว เราจึงได้เข้าไปเช็คอินเพื่อไม่ให้ยุ่งเวลาใกล้ๆเครื่องจะออก โดยไม่ต้องโหลดกระเป๋าอีกเพราะโหลดยาวจากแทมเวอร์ธถึงกรุงเทพฯเลย ประมาณ 15.30 น. ทีมที่ไปในเมืองก็กลับมาพร้อมกับข้างหมูแดง 2 กล่องจากร้านแถวไชน่าทาวน์ มาฝากผมกับพี่กฤช ก็ทานกันอย่างอร่อย และผมได้ฝากซื้อเชอรี่ไปฝากทางบ้านด้วย
ประมาณ 16.30 น. ก็เข้าไปข้างในเพื่อเตรียมขึ้นเครื่อง โดยผ่านด่านศุลกากรแต่ก็ไม่ยุ่งยากนัก มีการสุ่มตรวจกระเป๋าหิ้วด้วย แต่ผมไม่โดนสุ่ม แต่ดูแล้วไม่ยุ่งยาก และก็รวดเร็วด้วย ภายในมีที่จัดไว้ให้นั่งพัก รวมทั้งมีโต๊ะ เก้าอี้ ปลั๊กไฟสำหรับใช้คอมพิวเตอร์ได้ด้วย ผมได้โทรศัพท์ไปอวยพรวันเกิดลูกชายก่อนที่จะขึ้นเครื่อง
เวลา 17.00 น. ขึ้นเครื่องบิน เป็นเครื่องขนาดใหญ่ของการบินไทย โบอิ้ง 747 นั่งสบาย โดยเลือกนั่งที่นั่งริมทางเดินเพราะเป็นการเดินทางที่ใช้เวลาหลายชั่วโมงจะได้ลุกนั่งสะดวก ตอนนั่งรอเครื่องขึ้นนั้นได้เผลอหลับไปพอตื่นมายังรู้สึกว่าเครื่องจอดอยู่ที่เดิม ที่ไหนได้บินไปได้เกือบ 2 ชั่วโมงแล้ว เครื่องจะนิ่งและเรียบมาก พอตื่นก็ดูหนังบ้าง อ่านหนังสือบ้าง พิมพ์บันทึกบ้าง จนถึงเมืองไทยเวลา 23.00 น. พอลงจากเครื่องก็ได้ไปรับกระเป๋า ผ่านด่านต่างๆไม่มีปัญหา แลกเงินไทยคืนแล้วก็เดินทางกลับพิษณุโลกโดยรถตุ้ของคณะแพทย์กับพี่สุวรรณา พี่กฤช พี่เสรี นั่งหลับบ้างตื่นบ้าง
มาจนถึงที่พักที่จองไว้ที่บ้านคลองรีสอร์ท พอถึงที่พักประมาณตี 4 ก็ได้นอนพักต่อ เพื่อตื่นมาอย่างสดชื่นในตอนเช้าและจะได้พบกับครอบครัวที่จะเดินทางมารับและพาลูกๆเที่ยวที่พิษณุโลกต่อเป็นการฉลองวันเกิดให้เจ้าตัวเล็ก