Hospital OS โปรแกรมบริหารระบบการจัดการสารสนเทศโรงพยาบาล
Hospital OS Hospital OS โปรแกรมบริหารระบบการจัดการสารสนเทศโรงพยาบาล ianalysis คลังข้อมูล Hospital OS (โปรแกรม โรงพยาบาล)

Episode III: Hospital OS เดินทางสู่เป้าหมายที่ 1


“หมอ คืนนี้นะ หมอจะได้ยินเสียงหญ้าแทรกดิน”

โดย หมอก้อง

 

หลังจากที่เราตัดสินใจเลือกที่จะเดินทางไปที่รพ. ทุ่งหัวช้าง จังหวัดลำพูน พี่อ๊อด หนึ่งในทีมงานยุคแรกของเราก็เอาแผนที่มากาง เพื่อหาว่าอยู่ที่ไหน ตอนนั้น GPS และ Google Earth ยังไม่มีใช้ครับ และเราก็ประสานไปยังผู้ดูแลระบบ ได้ทราบว่าใช้โปรแกรม Stat อยู่ และสอบถามความพร้อม ก็ได้รับคำตอบที่เต็มไปด้วยความมั่นใจว่า

พร้อมครับ

เราก็วางแผนการเดินทางผมจำได้ว่าผมไปประชุมที่เมืองกาญฯ ทีมงานขับรถกะบะสองตอนตามขึ้นมาและแวะรับผมขึ้นไปด้วยกัน ออกกันตั้งแต่เช้ามืด ขับเข้าสุพรรณ แล้วมาออกสายเอเชีย ผมขับเอง เพราะชอบขับรถอยู่แล้ว ทีมงานก็นั่งหลับกันไป บางคนขอไปนั่งที่กระบะหลัง ขับไปกินข้าวเช้าที่นครสวรรค์ พงศ์ธรเขาเป็นคนแนะนำร้าน เขาบอกว่าคุณพ่อกับคุณแม่เขาเคยพามากินร้านนี้ เราก็เลยย้อนรอย ไปกินด้วย กินข้าวเสร็จก็ออกเดินทางกันต่อ ขับมาถึงตากเห็นต้นไม้แห้งแล้ง ไม่ค่อยเหมือนทางใต้เลย ขับเพลินๆ โดนตำรวจเรียก

จะไปไหนกันครับ ตำรวจถาม

คุณตำรวจถามไม่ถามเปล่า มองไปในรถ เห็นคนนั่งหลับกันสลอน (ทีมงานไปกันกี่คน ติดตามได้จาก บทความของสุรชัยนะครับ)

ไปรพ. ทุ่งหัวช้างครับ

ไปทำไมครับ ตำรวจเริ่มสอบสวน

อ้อ พวกผมเป็นนักวิจัยครับ ผมเป็นหมอครับ จะไปทำวิจัย ผมตอบไป ใจก็คิดว่า เขาจะเชื่อไหมเนี่ย

งั้นคุณหมอก็อย่าขับเร็วนักนะครับ เชิญครับ

 

รอดตัวไป

    เราขับมาจนเลยเขตลำปาง ก็เริ่มโทรถามทาง คุณอุทัยก็บอกให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเล็กๆ ช่วงนี้พี่อ๊อดช่วยผมขับต่อ ก็ดูแผนที่ไปขับไป เป็นถนนเล็กๆครับ ลัดเลาะไปตามเขา มองไปเห็นหมอกแม้ว่าจะเป็นเวลาบ่าย เริ่มเห็นความเขียวของป่า และความเย็นของอากาศข้างนอก ขับดุ่มๆไปสักชั่วโมงกว่าก็ถึงอำเภอเล็กๆ ก็โทรถามอีก ก็ได้รับคำตอบว่าใกล้แล้วอีกสักชั่งโมงคงจะถึง เราก็ออกรถต่อ ในที่สุดก็ไปถึง

รพ. ทุ่งหัวช้าง

    ป้ายเล็กๆสีขาวเป็นพื้น ตัวหนังสือสีเขียว จำได้แม่นว่าตรงข้ามด้านหน้าโรงพยาบาลมีต้นตะเคียน ขนาดใหญ่อยู่หลายต้น ดูน่าเกรงขามมาก เราลงกันจากรถ ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ระยะทาง 1300 กว่ากิโลเมตร ไม่ได้เป็นอุปสรรค เรามาถึงแล้ว ก้าวที่ 1 กำลังจะเริ่มขึ้น

 

ทีมงานก็เริ่มขนของลง คุณอุทัยก็มาต้อนรับ และมีเจ้าหน้าที่อีกหลายท่านที่ผมอาจจะจำชื่อไม่หมด มีผู้อำนวยการฯ คุณหมอจิ๊ หมอแจ๊ค เป็นแพทย์อีกท่าน เภสัชกรผู้ชายอีกท่านหนึ่งผมจำชื่อท่านไม่ได้ เนื่องจากวันที่ผมไปถึงนั้นเป็นวันศุกร์ เภสัชก็บอกกับผมว่า

หมอ คืนนี้นะ หมอจะได้ยินเสียงหญ้าแทรกดิน

ตอนแรกผมยังไม่รับมุข ว่าหมายถึงอะไร ต่อมาถึงได้รู้ว่า เขาหมายถึงทุกวันศุกร์มันจะเงียบมากเพราะทุกคนกลับเข้าเมืองหมด ตอยกลางคืนที่นั่นจะเงียบมาก จนได้ยินเสียงหญ้าแทรกดิน

    หลังจากขนของลงแยกย้ายกันไปเข้าที่พัก คุณอุทัยก็พาออกไปกินข้าว ซึ่งเป็นร้านอาหารเดียวในอำเภอ ข้าวมื้อแรกอร่อยดีครับ และหลังจากนั้นเวลาผมไปก็ได้รับความกรุณาจากคุณอุทัยเลี้ยงข้าวที่บ้านพักคุณอุทัย ในรพ. เป็นครอบครัวที่น่ารักมีลูกเล็กๆด้วย และที่บ้านนี้ผมได้เรียนรู้วิธีกินข้าวเหนียวที่อร่อยมากกว่าเดิม คือ เดิมนั้น คนกรุงเทพอย่างผมก็ใช้ส้อมบ้าง มือบ้างหยิบข้าวเหนียวส่งเข้าปาก แต่คุณอุทัยสอนผมว่า

หมอ อากาศมันเย็น หมอต้องเอาข้าวเหนียวร้อนๆมาปั้นกับมือก่อน มือจะได้อุ่น และข้าวเหนียวจะนุ่มด้วย

ตั้งแต่นั้น ผมก็ปั้นข้าวเหนียวกินมาตลอด และอร่อยมากจริงๆ

 

หมดเรื่องกินแล้ว ก็มาเรื่องงานต่อ

    ผมประชุมกับทีมว่าเราจะทำอะไรกันบ้าง เราคาดว่าเราจะใช้เวลาสองอาทิตย์ในการดำเนินการให้เสร็จและขึ้นระบบ ทุกคนแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน มีคนรับผิดชอบเรื่องโปรแกรม ฐานข้อมูล เครื่องแม่ข่ายและ Network ทุกคนกำหนดการทำงานของตัวเองชัดเจน หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันทำงาน

เมื่อเรามาประชุมกันอีกครั้ง เราก็พบว่า เครื่องที่ทางรพ. เตรียมเป็นเครื่องแม่ข่ายนั้นเป็น Pentium III (น่าจะจำไม่ผิดนะ)  และเครื่องลูกข่ายนั้น ล้วนเป็นเครื่องที่เก่าและมีไม่กี่เครื่องที่ใช้งานได้กับโปรแกรมของเราซึ่งเป็นจาวาที่ทำงานโดยต้องการทรัพยากรมากพอควร network ที่แจ้งว่ามี พอสำรวจแล้วหลายจุดยังไม่พร้อมใช้

เมื่อได้ข้อมูลดังกล่าว ทีมงานก็เริ่มกังวล เราจะทำอย่างไรดี เราจะกลับดีไหมแล้วรอให้เขาพร้อม หรือสอนไปก่อนแล้วให้เขาขึ้นเอง หรือขึ้นไปทั้งแบบนี้ คำตอบคือ

ไม่รู้

    เป็นคำตอบหลักประจำโครงการครับ เพราะก็ไม่รู้จริงๆ ก็เชิญคุณอุทัยมาหารือ คุณอุทัยบอกว่า ของบไปแล้วสำหรับคอมฯ น่าจะได้เร็วๆนี้ แต่ไม่รู้เมื่อไหร่นะ

 

    เอาหละยังพอมีหวังบ้าง ผมตัดสินใจให้ลุยไปก่อน ทีมงานก็ตกลง เราก็เริ่มงาน โดยได้รับอนุเคราะห์ห้องที่ชั้นสองเป็นห้องทำงาน ห้องอบรม และทุกๆอย่าง ทำกันที่ห้องนี้

พอวันเสาร์ผมต้องกลับมาก่อนเพราะต้องมาทำงานที่ภูเก็ต ก็ประสานงานโทรติดต่อกับทีมเป็นระยะ พอวัพฤหัสก็ขึ้นไปอีกและอยู่กับทีมงานสองวันก็กลับมาอีก

 

    ตอนที่ทีมงานอยู่ที่นั่นก็ตั้งใจทำงานกันอย่างดี แต่เราก็มีข้อผิดพลาดบางอย่างเช่นการไม่บอกกล่าวกันทำให้เกิดอุบัติเหตุไปลบฐษนข้อมูลที่เตรียมไว้ ทำให้ต้องมาทำอีกรอบ ทีมงานก็ดำเนินงานไปจนส่งสัญญาณบอกผมมาว่า น่าจะพร้อมขึ้นระบบแล้ว แต่เราพบว่า

 

คอมฯที่นัดไว้ยังไม่มา

 

เกิดเรื่องแล้ว เพราะหากคอมฯใหม่ไม่มา ก็น่าจะขึ้นระบบใช้งานไม่ได้ ทำไงดี เวลาผ่านมาสองอาทิตย์แล้ว ผมเองก็กลุ้ม เพราะเงินวิจัยไม่ได้ขอมาซื้อเครื่องให้กับรพ. แต่หากไม่มีเครื่อง การเดินทางครั้งนี้ก็อาจจะไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าโปรแกรมของเราใช้งานได้ ทำไงดี ทุกคนในทีมถาม ผมก็ตอบไปว่า

ถอยไม่ได้แล้ว มากันจนถึงขนาดนี้แล้ว

ผมตัดสินใจลงมาที่กรุงเทพ เข้าไปที่ฟอร์จูน เดินหากคอมฯ ตาม spec ที่จะสามารถใช้ได้ เดินมาจนถึงร้านนึงอยาใกล้บัดไดเลื่อน เห็นคอมตัวเล็กๆ เลยเข้าไปถาม จำได้ว่าเจ้าของร้านชื่อคุณเสถียร (ยิ่งทำให้มั่นใจว่า คอมฯ คงจะ เสถียรใช้ได้) ไปคุยกับเขาบอกว่าผมอยากได้คอมตาม spec แบบนี้ราคาไม่สูงนัก เขาถามว่า จะเอาไปทำอะไร ก็บอกว่าจะเอาไปใช้ที่รพ. ชุมชนที่ลำพูน เพื่อใช้โปรแกรมบริการคนไข้ เขาบอกว่า เขาก็ขายคอมราคาพิเศษให้กับโครงการหลวงเช่นกัน เขายินดีช่วย เขาเดินหายไปพักนึง กลับมาบอกผมว่า

คุณหมอ ผมช่วยจัดให้ได้ชุดละ ประมาณ หมื่นกว่าๆ รวมหมดทุกอย่าง แต่คอมฯมันจะหน้าตาแปลกๆหน่อยนะ

ตอนนั้นคอมฯตั้งโต๊ะราคาสักสองหมื่อนห้าขึ้นไปมั้ง ผมก็ตอบไปว่า หน้าตาไม่สำคัญ ขอให้ใช้ได้เป็นพอ

 

หน้าตาคอมฯนั้นเป็นอย่างไร จะให้ทีมงานถ่ายรูปมาให้ดูครับ

 

ผมก็เลยตัดสินใจ ซึ้อไปโดยออกเงินส่วนตัวไป ซื้อไป 5 หรือ 6 เครื่องนี่หละจำไม่ได้ และขอให้เขาส่งไปที่โรงพยาบาลให้ด้วย

 

เอาหละแก้ปัญหาเรื่องคอมฯไม่มีไปได้ ทีนี้ก็รอที่จะขึ้นระบบแล้ว

 

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการเดินทางมาสัมผัสโรงพยาบาลนี้ คือได้เห็น  "ความตั้งใจ"  เริ่มตั้งแต่ท่านผู้อำนวยการโรงพยาบาล ที่ท่านอยู่รพ.เล็กๆนี้มานานหลายปี อาจจะถึง 10 ปี และได้ทราบว่าท่านประสงค์จะอยู่ที่รพ. นี้ไม่ย้ายไปไหน แม้ว่า ซี จะสูงมากแล้วก็ตาม ได้พบปะคุณอุทัย ที่มีความมุ่งมั่น และความตั้งใจสูงมาก ในการที่จะเกื้อหนุนให้เราขึ้นระบบให้ได้ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ในหลายๆส่วน ซึ่งยืนยันคำกล่าวที่ว่า

"Small is Beautiful" 

บนความไม่มีนี้ ก็สามารถสร้างสิ่งดีๆขึ้นมาได้ ก็เพราะ "ความตั้งใจเพียงอย่างเดียว" ผมและทีมงานเป็นเพียงเฟืองตัวเล็กๆที่เข้าไปช่วยขับเคลื่อน "ความตั้งใจดี" ให้หมุนต่อไปข้างหน้าได้

อุปสรรคตางๆจึงหมดไป ด้วยความตั้งใจดีของทั้งสองฝ่าย 


 

Episode IV: Hospital OS Go Live !!!!
ติดตาม เรื่องราวการขึ้นระบบครั้งแรก ของ Hospital OS เร็วๆนี้ครับ 

คำสำคัญ (Tags): #hospital os
หมายเลขบันทึก: 112921เขียนเมื่อ 19 กรกฎาคม 2007 23:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน 2012 18:18 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เป็นเรื่องราวที่เล่าในวันเดียวไม่หมดจริงๆ แล้วจะรออ่านตอนต่อไปค่ะ

ปล.อยากฟังเสียง"หญ้าแทรกดิน" บ้างจัง

ขอเป็นกำลังใจ ให้ทีมงาน และคุณหมอครับ

เท่ากับเป็นการช่วยชาติ

ผมไม่แน่ใจ เลยเดินไปดู ที่หน้าจอคอม ทีห้อง er. ครับ  ใช้ hospital os  ครับ  โอ้ สุดยอด จริงๆๆครับ

ผม พึ่งมาทำงานที่น่าน เป็น วันที่2 ครับ  ยังใช้โปรแกรมไม่เป็นครับ  พรุ่งนี้จะให้น้องสอนการใช้งานไห้ครับ

ถ้ามีโอกาศ ไปเที่ยวภูเก็ตจะไปเยี่มครับ

คนน่าน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท