45 : ข้อสังเกตุเรื่องหลังตรง ขาลีบช้า


45 : ข้อสังเกตุเรื่องหลังตรง ขาลีบช้า

สวัสดีครับ ตอนนี้ผมอยากจะเขียนให้เพื่อนๆ อ่านเกี่ยวกับเรื่อง " เวลานั่ง หลังของผมจะตรง " และ " ขาของผมลีบ ค่อนข้างช้า "

เกี่ยวกับ " หลังของผม " ตั้งแต่ผมรถคว่ำ จนเป็นผู้ทุพพลภาพ ในช่วงแรกผมไม่สามารถนั่งได้ และคุณหมอที่ทำการผ่าตัดผม ก็มั่นใจว่าผมต้องเป็นผู้ทุพพลภาพอยู่แล้ว จึงสามารถออกใบรับรองแพทย์ให้ได้ทันที แต่หลังจากที่ผมย้ายมารักษาตัวที่พญาไท 1 ผมจึงได้พอมีโอกาสได้นั่งบ้าง ไม่กี่ครั้งเพราะผมยังมีแผลกดทับขนาดใหญ่ที่ก้นกบอยู่ ซึ่งปรากฏว่า " แผ่นหลังของผมเวลานั่งแล้ว ตรงเป๊ะ " ตามรูปที่เห็นครับ ทั้งๆ ที่ระดับของการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง (spinal cord injury) ที่ตำแหน่ง C6-7 นั้น หลังของผมต้องอ่อน งอ ไม่ควรตรงแบบนี้

หรืออาจจะมีเหตุผลอื่นๆ ด้วยก็ได้ ประกอบกัน เช่น ถ้าคุณหมอที่พญาไท 1 จะมั่นใจว่าผมเป็นผู้ทุพพลภาพ จำเป็นต้องดูผลจาก MRI ก่อน จนผลออกมาแล้ว คุณหมอก็ออกใบรับรองแพทย์ให้ ดังนั้นตัวผมเองก็ครุ่นคิดมาตลอดเป็นระยะๆ ว่า ที่หลังของผมตรงเกิดจากอะไร เพราะตามหลักการของอาการป่วย ไม่ควรเป็นแบบนี้

ผมเริ่มนึกไล่ย้อนไปเรื่อยๆ เมื่อมีเวลาว่างที่จะนึกถึง ผมเคยปวดเอวจากการขับรถมาก ซึ่งก็ไม่น่าจะเกี่ยวเท่าไหร่ แต่ก็ทิ้งประเด็นนี้ไม่ได้ เพราะอาจเกี่ยวข้องไม่มากก็น้อย ผมนึกต่อ เวลาผมนั่งเหยียดขา เมื่อผมจะพยายามให้ตัวตรง หรือถ้าจะให้เห็นภาพชัดเจน คือนั่งเหยียดขากับพื้น แล้วเอาหลังพิงกำแพงให้ตั้งฉาก ปรากฏว่า " ผมจะปวดหลังมาก " และผม " ไม่สามารถโน้มตัว เอาปลายนิ้วมือ ไปแตะปลายนิ้วเท้าได้ " คือหลังของผมจะไม่โค้งงอ มันจะไปทั้งแผ่นหลัง ผมไม่รู้ว่าจะพอเรียกว่า " หลังแข็ง " ได้ไหม ไม่แน่ใจ แล้วนี่จะเป็นสาเหตุที่ทำให้ผมหลังตรงใช่หรือไม่ ผมก็ไม่รู้อีกจนได้ เพราะปัจจุบันก็ยังหาคำตอบไม่ได้ แต่ไม่ใช่ว่าผมสั่งการกล้ามเนื้อได้อย่างแน่นอน เพราะผมไม่รู้สึกอะไร

ภาพขณะกำลังทำกายภาพ นั่งบนเตียง ห้อยขามาวางบนเก้าอี้ ฝึกการทรงตัวครับ


แล้วผมทำไมหลังถึงตรงแบบนี้ ผมยังคงพยายามนึกต่อ จนวันหนึ่งได้พูดคุยกับนักกายภาพ และผมก็แว๊บเข้ามาในหัวว่า ตอนเด็กๆ ผมฝังใจมากว่า มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกผมว่า " เด็กดี ต้องนั่งหลังตรง " ผมจึงนั่งหลังตรงมาตลอด เวลาเรียนผมจะไม่เอาหลังพิงพนักเก้าอี้ ยกเว้นเวลาคลายเครียดหรือพักผ่อน จนกลายเป็นนิสัย ปฎิบัติตั้งแต่เด็กจนโต แม้แต่ก่อนรถคว่ำก็ตาม ผมคิดว่านี่น่าจะเป็นสาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้ผม "หลังแข็ง" จนทุกวันนี้ นี่ไม่ใช่บทสรุปนะครับ เป็นแค่ข้อสันนิษฐานส่วนตัวเท่านั้น

ลองมาดูอีกเรื่องของผม คือ " ขาผมไม่ค่อยลีบเท่าไหร่ " หรืออาจจะมองได้ว่า " ลีบช้า " ก็ได้ แต่ผมก็มั่นใจว่ายังไงๆ ก็ต้องลีบ เพราะนั่ง - นอน อยู่แต่บนเตียง เพียงแต่ถ้ามองผิวเผินเหมือนไม่ลีบเท่านั้นเอง ดังนั้นจึงต้องคิดต่อครับว่า " ทำไมดูไม่ลีบ หรือ ลีบช้า "

ผมคิดเองจากเหตุผลที่ว่า โดยปกติ ขาของผมจะมีอาการเกร็ง เป็นระยะๆ ทุกวัน ซึ่งนักกายภาพบำบัดเคยบอกว่า การมีอาการเกร็งนั้นดีกว่าไม่มี แต่มีมากก็ไม่ดี กรณีของผมมีอาการเกร็งที่ไม่สร้างปัญหาในการดำเนินชีวิต ผมคิดเอาเองนะครับว่า " อาการเกร็ง " น่าจะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ขาไม่ลีบ แต่หลังจากที่ได้มีโอกาสคุยกับนักกายภาพฯ ก็พอจะเข้าใจว่าอาการเกร็งมีผลน้อย และการที่ผมทำกายภาพฯ เป็นประจำก็ไม่น่าจะเป็นเหตุผลที่จะมีน้ำหนักพอว่าทำให้ขาไม่ลีบ


 

ผมนำภาพถ่ายช่วงขาของผมมาให้ดูครับ ขายังไม่ลีบเท่าไหร่ทั้งๆที่เป็นผู้ทุพพลภาพมา 5 ปี 8 เดือนแล้ว

 

 

การที่ขาไม่ลีบ หรือลีบช้า น่าจะเกิดจากการที่ว่า ผมมีปัญหาที่ " ไขสันหลัง " ไม่ใช่ที่ " เส้นประสาท " ถ้าเป็นที่เส้นประสาทเสียหาย หรือ ขาด น่าจะทำให้กล้ามเนื้อขาลีบเร็วกว่านี้ ดังนั้นแล้วการที่ขาของผมลีบช้า คงมีหลายเหตุผลมา support เช่น 1.บาดเจ็บที่ไขสันหลัง ไม่ใช่เส้นประสาท 2.ทำกายภาพฯ เป็นประจำ 3.มีอาการเกร็งเป็นประจำในระดับที่พอเหมาะ

บทความในตอนนี้ เป็นเพียงข้อสันนิษฐานส่วนตัว ที่ไม่ได้มีการพิสูจน์อย่างถูกต้อง แต่ผมก็อยากจะเล่าสู่กันฟัง ให้ได้อ่าน เผื่อจะเป็นข้อคิดให้กับเพื่อนๆ ได้บ้าง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วย หรือญาติผู้ป่วย

ขอบคุณครับ


ปรีดา ลิ้มนนทกุล
mobile : 089-6910225, 089-3263248
Tel. & Fax.: 02-9232724

Blog แนะนำ : Preeda Building

email : [email protected]
email : [email protected]
website : http://www.gpaymentservice.com/
update : July 15, 2007
คำสำคัญ (Tags): #ผู้ทุพพลภาพ
หมายเลขบันทึก: 111856เขียนเมื่อ 16 กรกฎาคม 2007 00:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤษภาคม 2012 11:55 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

     สวัสดีค่ะดิฉันเป็นนักกายภาพบำบัดได้เข้ามาอ่านบทความที่เขียนถึงเรื่องราวอาการของคุณปรีดาเองได้อย่างดีมากๆบอกรายละเอียดได้อย่างเข้าใจขอชมเชยค่ะ.....จริงๆแล้วอาการของขาลีบช้าลงที่เป็นข้อสงสัยว่ามีปัจจัยอะไรบ้างมีหลายอย่างด้วยกันค่ะ

   ข้อแรกเป็นไปได้น่ะค่ะว่าแต่ก่อนกระดูกช่วงเอวดีไม่มีการกดทับเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงบริเวณขาจึงทำให้เส้นประสาทที่เลี้ยงกล้ามเนื้อบริเวณนั้นดีจากการที่นั่งหลังตรงมาตลอด

  2.การทำกายภาพบำบัดทุกวัน......ชะลอการฝ่อลีบของกล้ามเนื้อ(ไม่ทราบว่ารักษาด้วยเครื่องมือใดบ้างค่ะมีการกระตุ้นด้วยไฟฟ้าบ้างหรือเปล่าค่ะ)เป็นการกระตุ้นการไหลเวียนลดภาวะอารการแทรกซ้อนต่างๆที่จะตามมา

  3.ภาวะจิตใจที่ดี....เมื่อเราไม่มีความเครียดร่างกายและกล้ามเนื้อก็จะไม่เครียดการไหลเวียนดีcellทุกcell active เป็นสาเหตุหนึ่งเช่นกัน

ถ้ามีอะไรสงสัยอีกพอที่จะตอบได้ก็ยินดีน่ะค่ะจะเข้ามาเยี่ยมเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

 

กราบสวัสดีครับ...ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกๆท่านโดยเฉพาะคุณปรีดา ผมได้อ่านประวัติ

และบทความของคุณปรีดาแล้วรู้สึกชื่นชมในความสามารถและความอดทน ในฐานะที่ผมก็เป็นบุคคลทุพพลภาพเหมือนกัน(เกือบ2ป๊)ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆท่านที่ประสบปัญหาและขอให้ทุกๆท่านมีสุขภาพที่ดีขึ้นเร็ววัน...สวัสดีครับ

ทุกชีวิตต้องดำเนินไป...............

นี่เป็นครั้งที่2ในชีวิตของผมที่ได้พิมพ์ข้อความผ่านinternet(ครั้งแรกก่อนหน้านี้ไม่ถึง 5นาที) ผมค่อนข้างจะlowtech ขอบอกตรงๆถ้าไม่เป็นบุคคลทุพพลภาพ คงไม่ได้ชื้อ คอมพ์

     ผมขอเล่าประวัติของผมพอคร่าวๆนะครับ ผมอายุ37ปี มีภรรยาและลูกอีก2คนครับ คนโตอายุ7ขวบ ส่วนคนเล็ก1ขวบ5เดือน ตอนผมเกิดอุบัติเหตุ แฟนผมตั้งครรภ์ได้3เดือน ผมขับรถตอนตี5ไปส่งลูกสาวคนโตที่บ้านแม่ยายแล้วขับกลับคนเดียวเกิดหลับใน ฝนก็ตก(ไม่ได้ดื่ม...ปกตินานๆครั้ง) แพทย์ลงความเห็นว่ากระดูกชี่ที่C6C7และT1หัก ผมนอนอยู่รพ.11เดือนตี2แล้วผมเริ่มง่วงแล้วครับเอาไว้ค่อยเจอกันใหม่นะครับ สวัสดีครับ.....

 

 

ผมประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ถูกชนท้าย เกิดไฟไหม้ (ประมาณ 30%) หลังผ่าตัด ชอ็คหมดสติ เข้าห้อง iCU รักษาตัวเกือบ 4 เดือน กล้ามเนื้อขาลีบ อ่อนแรง เดินไม่ได้ต้องใช้ไม้เท้า ยืนทรงตัวไม่ได้ต้องมีสิ่งยึดเนี่ยว เดินระยะทางยาว จะอ่อนแรงทรุด ทุกวันนี้เดินไปทำงานได้แต่ต้องใช้ไม้เท้าช่วย เดินไม่ต้องใช้ไม้เท้าได้ แต่การทรงตัวไม่ดี ระยะหลังปวดสันหลังบริเวณเอว ถึงชายโครงทั้งสองข้าง ปลายเท้ากระดิกไม่ได้ แรกๆบังคับไม่ได้เลย ระยะหลังพอจะขยับนิ้วเท้าได้บ้าง พยายามออกกำลังกายโดยขี่จักรยานอยู่กับที่ บริหารร่างกายในท่านั่ง นอน พอได้ แต่ท่ายืนไม่ได้เลย ผมเป็นอะไรครับ ตอนที่รถไฟไหม้ จำได้ว่าพุ่งตัวออกมาจากรถ หน้าผากกระแทกกับพื้น เดินขึ้นรถแท็กซี่ไปโรงพยาบาลได้ ต้องพบแพทย์ทางด้านไหน พอจะรักษาได้บ้างไหมครับ ช่วยตอบให้ผมคลายกังวลบ้าง ขอบคุณมากครับ สวัสดีปีใหม่ 2553 ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท