นาฏศิลป์มีประโยชน์และมีคุณค่าในฐานะที่เป็นศิลปะประจำชาติ เป็นศิลปะแห่งการแสดงที่ให้ทั้งความบันเทิงและความรู้ มีความสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต เป็นพื้นฐานด้านจิตใจ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้เป็นบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์ มีความซาบซึ้ง และเข้าใจในศิลปะวัฒนธรรมของชาติ สามารถสร้างผลงานการแสดงได้อย่างมีคุณค่า
ทางกลุ่มวิชานาฏศิลป์ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาของนักเรียนตามข้อความดังกล่าวและได้จากวิสัยทัศน์ของโรงเรียนที่กล่าวว่า “...พัฒนาผู้เรียน ครบทุกมิติ” จึงได้พยายามจัดการแสดงนาฏศิลป์ให้มีคุณค่าและมีคุณภาพ
การจัดการแสดงทุกครั้ง ครูทุกท่านในชมรมนาฏศิลป์จะนึกถึง Concept ของงานที่ได้รับมอบหมาย นำมาศึกษาว่าจะจัดการแสดงในรูปแบบใด โดยการสรรหาบทเพลงที่มีอยู่แล้วมาเอื้อต่อการแสดง หรือจัดแต่งบทกลอนใหม่ให้เป็นเหตุการณ์เฉพาะ เช่น งานวันแม่แห่งชาติ งานวันพ่อแห่งชาติ งานฉลองศาสนนาม งานเฉลิมฉลองครบรอบ ๖๐ ปี แห่งการครองราช งานวันครอบครัวพระมารดาฯ งานแสดงต้อนรับคณะกรรมการมาตรวจเยี่ยมในโอกาสต่างๆ เป็นต้น แล้วนำมาบรรจุดนตรี โดยครูชมรมดนตรีไทยจะศึกษา กำหนดทำนองเพลง แล้วส่งวิทยาลัยนาฏศิลป์บรรจุเพลง
เมื่อได้รับเพลงที่บรรจุเนื้อร้องและท่วงทำนองเพลงแล้วครูในชมรมนาฏศิลป์ จะร่วมกันคิดประดิษฐ์ท่ารำ การแปรแถว การแต่งกายประกอบการแสดงอย่างพิถีพิถัน หลังจากนั้นจะร่วมกันฝึกซ้อมครูในชมรมก่อน จึงจะถ่ายทอดความรู้แก่นักเรียน
สำหรับนักเรียนที่แสดงนั้น จะมีชื่ออยู่ในทะเบียนชมรมนาฏศิลป์ ครูผู้ฝึกซ้อมจะคัดนักเรียนตามความสามารถ ตามความยากง่ายของบทเพลง ของท่ารำแล้วฝึกซ้อมนอกชั่วโมงเรียน หากมีนักเรียนคละชั้นกันมากไม่สามารถ นัดแนะเวลาเดียวกันได้ ก็จะทำเรื่องขอชั่วโมงแนะแนวบ้าง จริยะศึกษาบ้าง เพื่อฝึกซ้อม
ครูชมรมนาฏศิลป์มีความมุ่งมั่นในการสรรค์สร้างผลงานแต่ละครั้งด้วยความพิถีพิถันประณีต เพื่อให้เกิดความงดงาม อ่อนช้อย คิดประดิษฐ์ท่ารำ การแปรแถวที่มีความหมาย สวยงาม ความพร้อมเพรียง สิ่งสำคัญก็คือ ครูทุกคนในชมรมมีความเคารพซึ่งกันและกัน มีความรับผิดชอบต่อการแสดงอย่างสูงเมื่อมีการแสดงเมื่อใด ครูชมรมนาฏศิลป์จะมาแต่เช้าเพื่อแต่งหน้า แต่งกาย เตรียมความพร้อมให้แก่นักเรียนโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ขอให้งานออกมาอย่างมีคุณภาพ นี่คือ จุดเน้นของครูนาฏศิลป์ โรงเรียนพระมารดานิจจานุเคราะห์
พรสิริ พงษ์สิริ
ไม่มีความเห็น