โลกร้อน (4) : Environment Change กับ Climate Change มีผลอย่างไรกับชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์


สวัสดีครับทุกท่าน

     วันนี้เอาบทความดีๆ จาก ดร.วัฒนา กันบัว มาฝากกันอีกแล้วครับ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลง ลองอ่านกันดูนะครับ

--------------------------------------------------------------------------  

Environment Change กับ Climate Change มีผลอย่างไรกับชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ เพราะมีคนปลุกกระแสโลกร้อน(Global Warming) โดยชี้ให้เห็นว่าสิ่งนี้จะส่งผลให้เกิด Climate Change รวมไปถึงการเกิดภัยธรรมชาติที่แรงขึ้น หรือ บ่อยขึ้น

ประเทศไทยตั้งอยู่ในพื้นดินที่อุดมสมบูรณ์ อากาศดีไม่ร้อนมาก หรือหนาวเย็นจนเกินไป มีฝนตกชุกในช่วงฤดูฝน ประเทศไทยประกอบไปด้วยภาคต่างๆ ซึ่งมีภูมิอากาศที่แตกต่างกันตามลักษณะภูมิประเทศ

คนไทยในอดีตนิยมตั้งบ้านเรือนอยู่ใกล้กับแม่น้ำ ลำคลอง เพราะเป็นการสะดวกในการอุปโภคบริโภค รวมไปถึงการคมนาคม หน้าน้ำมีฝนตกชุกทำให้เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ลุ่ม ทำให้คนไทยในอดีตปลูกบ้านสองชั้นใต้ถุนสูง เป็นการเข้าใจและปรับตัวเพื่อจะอยู่กับสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ และผลดีของน้ำหลากทำให้เกิดการกระจายพันธุ์ปลา หรือดินแดงจากภูเขาเมื่อน้ำลดก็เป็นปุ๋ยอย่างดี กระจายในหลายพื้นที่โดยไม่ต้องซื้อปุ๋ย

ระบบนิเวศในอดีตดีมากจนมีคำกล่าวว่า "ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว" อุดมสมบูรณ์จริงๆ

พอการศึกษาเขามาโลกเปลี่ยน คนที่ไปศึกษาทางโลกตะวันตก รวมไปถึงอเมริกา นำวิธีการกินอยู่ การปลูกบ้านแบบฝรั่ง ซึ่งเป็นเมืองหนาว เขาออกแบบบ้านให้กันความหนาวเย็นโดยจะต้องเก็บความร้อนไว้ เพื่อนให้คนอยู่อาศัยอบอุ่น ประเทศไทยก็เอาบ้าง แต่อยู่ไม่ได้ ก็มันร้อนเลยต้องติดแอร์ ก็เป็นที่มาของก๊าซเรือนกระจก

การสร้างบ้านแปลงเมือง เริ่มมีการเทปูนมากขึ้นในหัวเมืองต่างๆทำให้น้ำซึมผ่านไม่ได้ หรือได้น้อย จะเห็นรายงานฝนจากกรมอุตุฯในทุกๆเช้าจากในอดีตถึงปัจจุบันว่า พบว่าในอดีตปริมาณฝนตกมากในหลายพื้นที่ แต่ไม่เกิดน้ำท่วม เนื่องจากมีแก้มลิงมาก หรือ พื้นที่ว่างเปล่า ไม่มีคนอยู่อาศัยมีมาก เป็นที่พักน้ำ

ต่อมาที่ดินมีราคาแพง มีประชากรมากขึ้น มีการทำรั่วหรือเขื่อนกันน้ำที่จะเข้ามาในพื้นที่ของตน ทำให้น้ำไม่มีที่อยู่ไหลบ่าเข้าเมือง เมื่อเกิดฝนตกเพียงเล็กน้อย แต่เป็นเวลานาน ก็เกิดน้ำท่วมในหัวเมืองต่างๆ เพราะระบายน้ำไม่ทัน เนื่องจากระบบท่อระบายน้ำ ไม่ได้โตตามเมือง

ที่กล่าวมาข้างต้น เป็น environment change ซึ่งอยู่ใกล้ตัวเรามาก เราได้สนใจประเด็นนี้แล้วหรือยัง ถึงเวลาหรือยังที่เราจะปรับเปลี่ยนการสรางบ้านแปลงเมืองให้เหมาะกับชีวิตไทย อยู่อย่างไทย

ณ เวลานี้ Environment Change น่าจะส่งผลต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์มากกว่า ซึ่งเราปรับเปลี่ยนได้ ส่วน Global Warming คงจะต้องเป็นการปรับตัวของโลกซึ่งเราคงต้องรณรงค์ ให้ใช้พลังงานอย่างประหยัด และอยู่อย่างพอเพียง อยู่กับจริงของชีวิต ภัยธรรมชาติเป็นระบบปกติในการสร้างสมดุลของธรรมชาติ จากความร้อนน้ำทะเลจากอากาศที่มีความชื้น ความกดอากาศที่แตกต่าง จนต่ำลงกลายเป้นพายุหมุนเขตร้อน และก็ปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปของฝน และลม และอื่นๆ หลังจากนั้นก็สงบลง เป้นแบบนี้มาพันๆปีแล้ว

 Environment Change เกิดมาไม่นานนัก และเกิดกว่า Climate Change ด้วย

---------------------------------------------------------------------------

บทความดีๆ จาก http://weather.nakhonthai.net/webboard/index.php?PHPSESSID=0cd9eeb655011a72602bdaa770c7fdf6&topic=31.0

บทความโลกร้อนที่เขียนไว้ก่อนหน้านี้

ขอบพระคุณมากครับ

เม้ง  สมพร ช่วยอารีย์

หมายเลขบันทึก: 110331เขียนเมื่อ 10 กรกฎาคม 2007 21:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 มิถุนายน 2012 20:36 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีครับ

  • ตั้งแต่มาจับเรื่องโลกร้อนนี่  
  • รูปที่บล็อคเด็กตรงกลางเป็นลูกอาจารย์เม้งหรือครับ   ดูพ่อ-แม่  ดำหมดเลย
P
TAFS  

สวัสดีครับพี่แท็ฟส์

ขอบคุณมากครับ

โลกร้อน ร้อนมากๆ ก็ตัวดำครับ แต่หากร้อนเพิ่มเข้าไปอีก อาจจะเปลี่ยนเป็นใจดำครับ หากถึงขั้นใจดำ แล้ว....งานนี้ก็ต้องบอกว่า เชิญเถิดเชิญย่ำใจผมให้จม.... ฮ๋าๆๆๆๆ


พี่คิดว่าพี่เห็นรูปนั้นแล้ว พี่จะตีความว่าอย่างไรครับ
ลองให้ความหมายดูครับ หากให้ความหมายโดนใจ หรือโดนสมอง จะหามาให้ตีความกันอีกครับ

ขอบคุณมากครับ

สนใจเรื่องโลกร้อน พยายามหาข้อมูลใน Internetอยู้บ่อย คือ  จุดประสงค์ คือต้องการเผยแพร่เรื่องธรรมชาติถูกทำลาย  กับภาวะโลกร้อน   ตัวเองเป็นพยาบาลผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลชุมชน  ทุกเช้ามีหน้าที่ต้องพูดแนะนำการบริการ  ขั้นตอนการบริการ  ให้สุขศึกษา เน้นการป้องกันโรค   ทุกวันจะต้องสอดแทรกเรื่องภาวะโลกร้อน  ให้ประชาชน  ผู้รับบริการทราบ  มีคนทักท้วงว่าพูดเรื่องอะไร..ไม่เห็นเกี่ยวกับการส่งเสริม   และ  ป้องกันโรค  แต่จะทำต่อไป.. เพราะคิดว่ามันเป็นปัจจัยของการเกิดโรคอย่างหนึ่ง ของโรคภูมิแพ้  และอีกหลายๆโรค  โดยเฉพาะ โรคเครียด  ที่เป็นปัจจัยสาเหตุของ โรคความดันโลหิตสูง  พอดีเปิดพบข้อมูลโดยบังเอิญ  ดีใจมาก..ขอบคุณจริงๆค่ะ  ที่เขียนเรื่องดีๆ ให้ได้อ่าน

ไม่มีรูป
สุดารัตน์  

สวัสดีครับคุณสุดารัตน์

ขอบคุณมากๆ เลยครับที่เข้ามาให้ความเห็นและเล่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นะครับ และขอชื่นชมพร้อมเป็นกำลังใจให้นะครับ ในการรณรงค์เรื่องนี้นะครับ

คือคุณจะจับเรื่องใดมาพูดก็ได้ครับ เพราะทุกเรื่องก็เกี่ยวข้องกันหมดเลยครับ เพียงแต่จะโดยตรงหรืออ้อมครับ แต่ผมเชื่อว่าเกี่ยวข้องกันหมดครับ โดยเฉพาะเรื่องโรคครับ อย่างที่หนาวๆ ก็ไม่ค่อยมียุง ไมม่มีแมลงวัน แต่หากหน้าร้อน ก็จะมีแมลงวันเยอะครับ แต่ละช่วงฤดูก็จะต่างๆ กันครับ

ยกตัวอย่างพร้อมเชื่อมให้สิ่งนั้นเชื่อมกับโลกร้อนครับ คนฟังเค้าจะมองภาพออกครับ แล้วหากได้บอกต่อไปว่าผลที่จะเกิดขึ้นเป็นอะไร และกระทบต่อเราอย่างไร เค้าจะตื่นกันมากขึ้นครับ

แค่ใจร้อนก็ส่งผลให้โลกร้อนได้แล้วครับ....

ขอบคุณมากครับ มีอะไรเข้ามาเล่าไว้ได้นะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

สวัสดีครับพี่เม้ง

  • วันนี้ขอเข้ามาเยี่ยมตอนเช้าครับ
  • ติดตามเรื่องนี้มาเรื่อยๆครับ
  • เข้าใจว่าตอนนี้โลก  คงต้องร้อนขึ้นเรื่อยๆ  และก็เชื่อในนักวิทย์..สิ่งแวดล้อมโลก ว่าคงไม่สามารถแก้ไขได้ที่จะต้องเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น 
  • มีแต่ว่าผลที่จะเกิดขึ้นจะมากกน้อยเพียงใด
  • จะว่าไปถ้ามองโลกเป็นสิ่งที่มีชีวิตเช่นเดียวกับเรา  เขาก็คงแค่ต้องการที่จะปรับตัวเพื่อให้ตัวเขาอยู่รอดเท่านั้นเองนะครับ
  • อาจจะเป็นกรรมหมู่ของมนุษย์โลกทั้งหมดที่ต้องพบกับผลที่เกิดขึ้นครับ
  • แต่วานนนี้ไปอ่านที่เวบของ  เสมสิกขา   ก็มีบทความที่มองตรงกันข้ามกับเรื่องโลกร้อนนะครับ  ตอนนี้กำลังงงๆๆ อยู่กำลังคิดพิจารณาว่าจริงๆแล้วมันน่าจะเป็นไปอย่างไรครับ
  • ขอบคุณครับ  8.30 แล้ว ต้องตรวจคนไข้คนที่1 ของวันนี้แล้วละ
  • คิดถึงนะครับ

 

  • Climate Change หรือเปล่าที่มีส่วนให้อาร์เจนตินามีหิมะตก
  • วันก่อนพี่ดูทีวีได้ความรู้เพิ่มว่าต้นยางพารามีส่วนช่วยภาวะร้อนได้เหมือนกัน เพราะยางพาราดูดซับก๊าซคาร์บอนฯ และเก็บไว้ในต้นซึมซับสะสมอยู่ในต้นยางค่ะ
  • ภาวะโลกร้อนทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นปีละ 1 องศา
  • ใครมีสวนยางพาราก็มีส่วนช่วยภาวะโลกร้อนใช่มั้ยคะ?
P
kmsabai  

สวัสดีครับน้อง

สบายดีไหมครับผม ขอให้ทำงานสนุกนะครับ

ดินน้ำลมไฟ อยู่ในตัวเราครับ ขอให้เราอยู่กับโลกอย่างเข้าใจ เค้าปรับตัวของเค้าอยู่เหมือนกันครับ เป็นไปตามกฏเกณฑ์ ครับ

เห็นพายุในภาพดาวเทียมด้านซ้ายไหมครับ พายุลูกนั้นก็เช่นกัน เป็นผลจากการปรับตัวเช่นกันครับ

เราจะอยู่กับพายุได้อย่างเข้าอกเข้าใจกันอย่างไร เพื่อไม่ให้เสียหาย หากอยู่อย่างเข้าใจ ก็จะรอดครับ หากไม่เข้าใจก็จะวอดครับ

หากมีแนวคิดด้านอื่นๆ เอามาฝากๆ ไว้ได้นะครับผม ยินดีจะมองในทุกๆ ด้านครับ

ขอบคุณมากๆ นะครับ และสนุกในการตรวจคนไข้นะครับ

P

สวัสดีครับพี่อัมพร

สบายดีไหมครับ ทุกอย่างคงเกิดเป็นไปตามเหตุปัจจัย เกิดสภาพแบบนี้ อะไรบ้างจะเกิดได้บ้าง แต่ละสิ่งแต่ละอย่างก็มีโอกาสในการเกิดตามปัจจัยนั้นๆ การแสดงออกมาให้เห็นทำให้เราทราบในสิ่งที่เราทราบได้ แต่สิ่งที่เราไม่ได้เห็นหรือไม่ได้สัมผัสไม่ได้หมายความว่า สิ่งนั้นจะไม่เกิดหรือไม่มี เพราะช่วงแห่งการรับรู้สัมผัสของคนเรา มีจำกัดครับ ดังนั้นเรื่องหิมะที่อาร์เจน หรืออาจจะเกิดที่เมืองไทย ก็เป็นได้ หากสภาพมันพร้อม

สำหรับเรื่องต้นยางพารา มีการนำก๊าซเสียเหล่านี้ไปใช้ในการสังเคราะห์แสงเป็นพื้นฐานอยู่แล้วครับ จริงๆ ก็ตั้งแต่หญ้าถึงป่าใหญ่นะครับ ต้นไม้ส่วนใหญ่ หรือผู้สร้างส่วนใหญ่ ต้องนำเข้าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อสร้างอาหารครับ เพียงแต่ว่าปริมาณการใช้ต่างๆ กันตามศักยภาพและความต้องการ (ตามความเพียงพอ พอเพียงครับ หากไม่พอเพียงก็ไม่สมบูรณ์)

มีสวนยางก็คงทำให้ข้างบ้านเย็นกว่าไม่มีสวนยางครับ มีป่าไม้ที่หนาทีบ ก็คงทำให้ข้างบ้านเย็นกว่าสวนยางครับ

อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเพียงแค่หนึ่งองศาเซลเซียส แต่มีผลระบบมากเลยครับ ทั้งในทะเลและบนบกครับ ดูเหมือนๆ ว่าจะน้อยๆ แต่ไม่น้อยครับ

แต่คนเราลืมง่ายครับ ตอนนี้รู้สึกว่าร้อนๆ เดี๋ยวไปซักพักเราเย็นๆ หรือเย็นลง เราก็ลืมใช้และเสพกันหนักๆ อีกเช่นเดิมครับ..... ไม่ค่อยต่อเนื่องครับ แต่หากเราทำต่อเนื่องเราจะเจอจุดสมดุลในพื้นที่ที่เราขออาศัยอยู่ครับ

ขอบคุณมากครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท