เน้นให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับได้แสดงความสามารถของตนเองออกมาให้เกิดประโยชน์ต่องานและโรงพยาบาลมากที่สุด โดยไม่แยกข้าราชการหรือลูกจ้าง ไม่แยกว่าเป็นรุ่นน้องหรือรุ่นพี่ เปิดกว้างให้เขาได้ใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่,NATO (No Action, Talk Only),AFTA (Action First, Talk After)
ขุมทรัพย์แห่งอดีต ลายแทงสู่อนาคต เป็นการเล่าสรุปภาพอดีตที่ผ่านมาและ พยายามจะฉายภาพไปสู่อนาคตของโรงพยาบาลบ้านตากในมุมมองของผม และได้บันทึกแจ้งให้กับผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลบ้านตากได้รับทราบ(รวมแล้ว 70กว่าข้อ) ดังต่อไปนี้
-
การทำงานที่ผ่านมา พยายามเน้นให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับได้แสดงความสามารถของตนเองออกมาให้เกิดประโยชน์ต่องานและโรงพยาบาลมากที่สุด โดยไม่แยกข้าราชการหรือลูกจ้าง ไม่แยกว่าเป็นรุ่นน้องหรือรุ่นพี่ เปิดกว้างให้เขาได้ใช้ศักยภาพอย่างเต็มที่ ทำให้เรามีวิทยากรเก่งๆในโรงพยาบาลหลายคน หลายด้าน ซึ่งผมคิดว่า ถ้าใครก็ตามได้รับเชิญให้ไปเป็นวิทยากรที่อื่น ผมจะให้ไปหมด ไม่กำหนดวัน เพราะผมเชื่อมั่นว่าเจ้าตัวจะสามารถจัดเวลาไปไม่ให้งานเสียได้ และเมื่อได้ไปแล้วก็เป็นการสร้างชื่อเสียง สร้างการยอมรับให้กับโรงพยาบาลได้ดี เวลาขอประเมินหรือขอโควตาต่างๆจะทำได้ง่ายขึ้น ผมจึงไม่ได้จำกัดว่าจะให้ไปเป็นวิทยากรได้แค่ครั้งหรือสองครั้งต่อเดือน ซึ่งผมถือว่าเป็นการทำลายโอกาสของคนและขององค์กร
-
การส่งเจ้าหน้าที่ไปเรียนต่อ ผมถือว่าเป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาโรงพยาบาล เมื่อเรียนจบกลับมาก็ต้องมาทำงานให้กับโรงพยาบาลไม่น้อยกว่า 3-5 ปี เพราะขณะลาไปเรียนโรงพยาบาลก็ต้องหาคนเพิ่ม หรือขาดคนช่วยทำงานไป ไม่ใช่กลับมาแล้วขอย้ายไปที่อื่นเลย ยิ่งเรียนนานก็ต้องอยู่นานหน่อย เช่นทันตแพทย์ที่ไปเรียนจัดฟัน เราส่งไปเรียนสองคน กลับมาก็ต้องมาทำงานที่เรา มาทำคลินิกนอกเวลาเพื่อช่วยจัดบริการให้โรงพยาบาลด้วยเพราะช่วงที่ให้ไปเรียนเราเหลือทันตแพทย์แค่ 2 คน เป็นต้น
-
เรื่องการลาของเจ้าหน้าที่ เราใช้บรรทัดฐานเดียวกัน มีการยืดหยุ่นให้ทุกคนอยู่แล้ว เช่นลาพักร้อนฉุกเฉินได้ ส่วนการปฏิบัติงานของพยาบาลเวรบ่ายดึกไม่อนุญาตให้ลา ให้แลกเวรได้เท่านั้น แต่ถ้าเขามีปัญหาฉุกเฉินจำเป็นจริงๆ หัวหน้าต้องเข้ามาช่วยในการแลกเวรให้
-
การเซนต์แฟ้มของผม จะเซนต์วันต่อวัน เพื่อให้งานไปถึงผู้รับผิดชอบเร็วที่สุด จึงรับประกันได้ว่าจะไม่มีงานค้างที่โต๊ะผม ถ้าผมไม่อยู่ผมจะให้ผู้รักษาการเซนต์แทนได้เลย ไม่ให้บริหารกั๊กไว้
-
การโยกย้ายเข้า-ออก เราจะให้หัวหน้างานที่เกี่ยวข้องร่วมตัดสินใจ มีหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม
-
เพลงประจำโรงพยาบาล เป็นสิ่งที่ช่วยปลุกใจได้เยอะมาก ขอให้นำมาใช้ประโยชน์ อย่าทิ้งไป
-
การซ้อมแผนอุบัติเหตุหมู่เป็นสิ่งที่เราทำมาตลอดเป็นสิบปี รวมทั้งการซ้อมแผนรองรับอัคคีภัยก็ควรจะทำทุกปี
-
เวลาผมไปบรรยายทีอื่นผมมักเน้นให้บริหารคนสองกลุ่มในองค์กรให้สมดุลคือพวกNATO (No Action, Talk Only) พวกพูดเก่ง รู้เรื่องคนอื่นไปทั้งหมด แต่ไม่ค่อยทำ โดยเฉพาะงานของตนเอง ไม่ค่อยสนใจ ชอบไปสนใจเสนอแนะแต่งานของคนอื่น พวกนี้ถ้ามีมาก องค์กรจะไม่ค่อยเจริญ ยิ่งถ้าผู้บริหารชอบใช้คนแบบนี้หรือหลงคารมคนพวกนี้เพราะเจ๊าะแจ๊ะเก่ง จะเสี่ยงมาก อีกพวกคือพวกAFTA (Action First, Talk After) พวกนี้ชอบทำ ไม่ค่อยชอบพูด ทำงานของตนเองดีมาก มีความรับผิดชอบงานของตนเองพร้อมทั้งช่วยเหลืองานของคนอื่นด้วย พวกนี้ไม่ชอบเจ๊าะแจ๊ะหัวหน้า แต่หัวหน้าต้องมองเขา เชิดชูเขา ให้เขาได้พูด ได้แสดงออกและต้องสนับสนุนคนพวกนี้
-
ขอขอบคุณที่พวกเราได้ช่วยกันพัฒนาโรงพยาบาลมาจนได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในระดับประเทศในหลายวงการ ผ่านการพิสูจน์มาแล้วจากหลายผู้เยี่ยมสำรวจ ระบบงานในทุกเรื่องของเราจึงมีความเป็นมาตรฐานสูง อาจมีข้อด้อยอยู่บ้างแต่ก็เป็นในรายละเอียดเล็กน้อย จึงไม่ควรจะเลิกระบบเดิมเพื่อไปสร้างสิ่งใหม่ แต่ควรเป็นการต่อยอดมากกว่า ประสบการณ์และความสัมพันธ์ที่มีมาถึง 10 ปีจึงเป็นสิ่งมีค่าสำหรับผมมาก “มิตรภาพที่ดี ลืมได้ยาก”