สวัสดีค่ะ
ห่างหายกันไปนานพอสมควร วันนี้พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร มีเรื่องราวที่น่าสนใจในจังหวัดชุมพรมาฝากเพื่อนค่ะ เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวภูเขาและไหว้พระกันที่อำเภอท่าแซะ
ไปดูกันนะคะว่าที่ภูเขาแห่งนี้มีความสำคัญอย่างไรถึงได้รับการประกาศให้เป็นโบราณสถานของชาติค่ะ
ภูเขารับร่อ
ที่ตั้ง ตำบลท่าข้าม อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
ประวัติ/ตำนาน
ภูเขารับร่อ เป็นภูเขาหินปูน เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า เขาพระ ประกอบด้วย ๘ ถ้ำ โดยมีถ้ำสำคัญ ๓ ถ้ำ คือ ถ้ำไทร ถ้ำพระ และถ้ำอ้ายเตย์ ตามตำนานและนิทานพื้นบ้านเชื่อกันว่ารอบๆ บริเวณเขารับร่อเป็นที่ตั้งของเมืองโบราณชื่อ เมืองอุทุมพร ร่วมสมัยกับเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งสร้างโดยพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เมืองอุทุมพรนี้ เป็นเมืองท่ารักษาด่านทางข้ามคอคอดคาบสมุทรมลายูมีเรือสำเภา เข้ามาค้าขายมากมาย และได้รับอิทธิพลพระพุทธศาสนาจากเมืองนครศรีธรรมราช โดยมีการสร้างพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ เรียกว่า พระหลักเมือง หรือ พระปู่หลักเมือง ประดิษฐานเป็นพระประธานอยู่กลางถ้ำพระ ถ้ำนี้บางครั้งเรียกว่า ถ้ำทะเลเซียะ ตามชื่อคลองทะเลเซียะที่ไหลผ่านหน้าภูเขาทางด้านทิศใต้ เรื่องเล่าว่าเมื่อเสร็จจากการสร้างพระพุทธรูปหลักเมืองแล้วมีทรัพย์สินเงินทองที่ประชาชนนำมาร่วมกันสร้างเหลืออีกมากมายจึงนำมาฝังไว้ในถ้ำอีกถ้ำาหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียงกัน แล้วเขียนภาพพระพุทธไสยาสน์ไว้ที่ผนังถ้ำ ชาวบ้านเล่าต่อกันมาว่าภาพเขียนสีบนผนังถ้ำนี้สร้างไว้เพื่อเฝ้าสมบัติเรียกว่า อ้ายเตย์ และมีนิทานชาวบ้านเป็นปริศนาลายแทงว่า อ้ายเตย์ๆ เอาลูกใส่เปล เดาตีนคาใน น้ำมันสองขวดค่อยนวดค่อยไป ผู้ใดคิดได้อยู่ใต้อ้ายเตย์
จากหลักฐานทางโบราณคดีที่มีการสำรวจพบที่ภูเขารับร่อ(หลักฐานทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีส่วนใหญ่พบที่ถ้ำพระและถ้ำอ้ายเตย์) เช่น เศษภาชนะดินเผา เครื่องมือหินประเภทขวานหินขัด ทำให้สันนิษฐานได้ว่า ที่ภูเขารับร่อนี้มีมนุษย์เข้ามาอยู่อาศัยตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายไม่ต่ำกว่า ๒,๐๐๐ ปีมาแล้ว
สิ่งสำคัญ
๑.พระประธาน หรือ พระปู่หลักเมือง เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ประดิษฐานอยู่กลางถ้ำ สูง ๔ เมตร หน้าตักกว้างประมาณ ๓ เมตร ศิลปะอยุธยา นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูปปูนปั้นทรงเครื่องปางมารวิชัยขนากหน้าตัก ๑๔๐ - ๒๐๐ เซนติเมตร จำนวน ๓ องค์ สันนิษฐานว่าคงจะสร้างขึ้นในสมัยอยุธยาเช่นเดียวกัน
๒. อ้ายเตย์ คือ ภาพเขียนสีพระพุทธรูปไสยาสน์ในถ้ำอ้ายเตย์ ภาพอยู่เหนือพื้นถ้ำประมาณ ๔๐ เซนติเมตร องค์พระยาว ๔.๘๐ เมตร กว้าง ๒ เมตร การเขียนภาพพระพุทธรูปอยู่ในแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เขียนโดยใช้วิธีการตัดเส้นสีแดง ดำ เป็นโครงร่าง รอบองค์พระลงสีเป็นส่วนๆ พระเศียรและพระเกศาลงสีดำ พระพักตร์และพระกรลงสีขาว พระวรกายครองผ้ากาสาวพัสตร์สีเหลืองส้ม พระพักตร์ค่อนข้างเหลี่ยม พระอุษณีษะนูนสูงต่อด้วยเปลวรัศมีซึ่งลงสีขาวตัดเส้นสีดำ ไม่แสดงรายละเอียด พระเนตร พระนาสิก และพระโอษฐ์ จากลักษณะการเขียนภาพดังกล่าวน่าจะเป็นภาพที่ยังเขียนไม่เสร็จ และจากเค้าโครงของภาพอาจสันนิษฐานได้ว่าน่าจะเป็นภาพที่เขียนขึ้นในสมัยอยุธยา โดยอาจสืบทอดคติการสร้างภาพพระพุทธรูปไสยาสน์ในถ้ำตามแบบวัฒนธรรมทวารวดี เช่น ถ้ำฝาโถ ถ้ำจาม จังหวัดราชบุรี แต่เปลี่ยนจากการสลักภาพลงบนผนังหินเป็นการลงสีบนภาพอย่างเดียว
กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเขารับร่อ (ถ้ำพระ ถ้ำอ้ายเตย์ และถ้ำไทร รวมทั้งโบราณวัตถุภายในถ้ำ) เป็นโบราณสถานของชาติในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕๓ ตอนที่ ๓๔ เมื่อวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๔๙๗
เอกสารอ้างอิง
- ศิลปากร,กรม.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ชุมพร.กรุงเทพฯ:บริษัทอมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน), ๒๕๔๒.
-สำนักโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ ๑๑ นครศรีธรรมราช.โบราณสถานจังหวัดชุมพร. เอกสารประกอบการอบรมทบทวนอาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม (อส.มส.)จังหวัดชุมพร วันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๑.
ไม่มีความเห็น