วันที่ 26 มิถุนายน 2550
เวทีที่ 1. เวทีเสวนาชุมชนบ้านไร่บน หมู่ที่ 2 ตำบลท่าไร่ ณ ศาลาอเนกประสงค์องค์การบริหารส่วนตำบลท่าไร่่
ครูแต้วเมืองคอน ครูอาสมัครฯ ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียน อำเภอเมืองชี้แจงวัตถุประสงค์ของโครงการส่งเสริมความเข้มแข็งอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน โดยใช้ (KM ) เป็นเครื่องมือ บอกว่า ที่นัดให้สมาชิกชุมชนบ้านไร่บน มาเพื่อร่วมกันวางแผนในการขับเคลื่อนกิจกรรมของชุมชนบ้านไร่บนให้ พัฒนาไปสู่การอยู่ดี มีสุขอย่างสมบูรณ์และยั่งยืน
สิบเอกสมพงษ์ นาคสาคร พัฒนาการอำเภอ ทำหน้าที่เป็นวิทยากร กระบวนการกระตุ้นให้สมาชิกที่เข้าร่วมประชุมในวันนี้โดยได้เกริ่นนำ แหล่งเงินทุนที่มีอยู่ชุมชนบ้านไร่บนว่ามีหลายกองทุนด้วยกันที่สามารถ ฟื้นฟูให้เข้มแข็งขึ้นมาและนำมาใช้หมุนเวียนให้เกิดประโยชน์ได้ในทุก ๆ ด้านของชุมชนไร่บน
นายพรรษา ดาษนิกรเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนองค์การ บริหารส่วน ตำบล ท่าไร่ได้ชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสกัดความรู้ของสมาชิก โดยให้คิดถึง ทุนทางสังคมที่มีอยู่แล้วทำอยู่แล้วในวิถีชีวิตของชุมชน บ้านไร่บนให้ สมาชิกแบ่งกลุ่มออกเป็น 3 กลุ่ม และสมาชิกแต่ละ กลุ่มร่วมคิด ร่วมกันเสนอ สิ่งได้ทำอยู่ในครัว เรือนของตนเองว่า ทำ อะไรบ้างที่ทำให้ เพิ่มรายได้ให้ครอบครัว และลดรายจ่าย ได้ด้วย วิธี ใดบ้าง และออมกัน อย่างไร โดยให้เวลาคิดประมาณ 20 นาที พร้อม ทั้งให้บันทึกเพื่อให้ ตัวแทนกลุ่มนำเสนอด้วย
กลุ่มที่ 1 นำเสนอโดย นางจิราภรณ์ ปรีดาศักดิ์บอกว่า สมาชิกใน กลุ่มช่วยกันคิดวิธีการลดรายจ่ายได้หลายเรื่องด้วยกัน
-ลดอบายมุขทุกชนิด เช่นเหล้า บุหรี หวย
-ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นและมีประโยชน์
-ประหยัดการใช้ไฟฟ้าและน้ำ
-ลดการใช้โทรศัพท์มือถือให้น้อยลง
-หาอาหารจากแหล่งธรรมชาติทั้งปลา ปู กุ้ง หอย รวมทั้งพืชผักต่าง ๆ
ส่วนเรื่องการเพิ่มรายได้ของกลุ่มที่ได้รวมกันเสนอพอสรุปได้ดังนี้
-ทำอาชีพเสริม รับจ้างทั่วไป
-ปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินเหลือจากกินก็นำไปขาย
-สัตว์ เช่นวัว ปลา ไว้กินเหลือจากินขาย
และการออมของกลุ่มที่ 1
-ฝากออมทรัพย์
-เล่นแชร์
-ใส่กระปุกออมสิน
-ฝากธนาคาร
กลุ่มที่ 2 นำเสนอโดย คุณมานะ จันทร์สังข์สา
-ลดอบายมุขทุกชนิด เช่นเหล้า บุหรี หวย
-ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นและมีประโยชน์
-ประหยัดการใช้ไฟฟ้าและน้ำ
-ลดการใช้โทรศัพท์มือถือให้น้อยลง
-ทำปุ๋ยหมักใช้เอง
-ปลูกผักไว้กินเอง
ส่วนการเพิ่มรายได้ของกลุ่มนี้
-ทำอาชีพเสริม รับจ้างทั่วไป
-ปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินเหลือจากกินก็นำไปขาย
-สัตว์ เช่นวัว ปลา ไว้กินเหลือจากินขาย
-ทำนาข้าวไว้กินเหลือจากกินขาย
-ค้าขาย
และการออมของกลุ่มที่ 2
-ฝากออมทรัพย์
-เล่นแชร์
-ใส่กระปุกออมสิ
ดิฉันครูอาสมัครศูนย์บริการการศึกษานอก โรงเรียน อำเภอเมือง ได้เสนอแนวคิดเพิ่มเติมเรื่องของการปลูกพืชผักว่า ควรจะ เลือกปลูกพืชผักให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดในบ้างช่วง ด้วยจะทำให้ขายได้ราคาสูงขึ้น
กลุ่มที่ 3 นำเสนอโดย คุณวิเชียร เลขะแมนบอกว่า ทุกคนในกลุ่มได้ช่วยกันคิดออกมาได้เหมือน ๆกับกลุ่มที่ 1 และ 2
ลดรายจ่ายได้หลายเรื่องด้วยกัน
-ลดอบายมุขทุกชนิด เช่นเหล้า บุหรี หวย
-ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นและมีประโยชน์
-ประหยัดการใช้ไฟฟ้าและน้ำ
-ลดการใช้โทรศัพท์มือถือให้น้อยลง
-หาอาหารจากแหล่งธรรมชาติทั้งปลา ปู กุ้ง หอย รวมทั้งพืชผักต่าง ๆ
ส่วนเรื่องการเพิ่มรายได้ของกลุ่มที่ได้รวมกันเสนอพอสรุปได้ดังนี้
-ทำอาชีพเสริม รับจ้างทั่วไป
-ปลูกพืชผักสวนครัวไว้กินเหลือจากกินก็นำไปขาย
-สัตว์ เช่นวัว ปลา ไว้กินเหลือจากินขาย
และการออมของกลุ่มที่ 3
-ฝากออมทรัพย์
-เล่นแชร์
-ใส่กระปุกออมสิน
-ฝากธนาคาร
คุณวิเชียร เลขะแมน เน้นเรื่องการทำปุ๋ยหมักใช้เองว่า เป็นสิ่งที่ ี่ดีมาก สำหรับผู้ที่ปลูกพืชผักชุมชนบ้านไร่บน ลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ หลายเรื่อง อันดับแรกลดต้นทุนในการผลิตจาก ที่ซื้อปุ๋ยเคมีมาใช้ ในราคาที่แพง อีกประเด็นจะช่วยฟื้นฟูหน้าดินให้สมบูรณ์และยังส่งผล ต่อสุขภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีในชุมชนเพราะการใช้ปุ๋ยหมักแทนปุ๋ยเคมีลด สารพิษลงได้มากทีเดียว
ครูสุธาสินี เลขะจิตร ครูศูนย์การเรียนชุมชนตำบลบางจาก ให้แนว คิดว่า ให้ยึดปรัชญาพอเพียง คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุ มีผล จึงจะทำให้ชุมชนมีภูมิคุ้มกันได้และได้ฝากการบ้าน ให้สมาชิกไป ทำในสิ่งที่คิดว่าทำได้ทันทีและให้ ฝึกคิดวางแผนชีวิตของตนเอง ครอบครัวและให้ฝึกตั้งเป้าของสิ่งได้คิดในวันนี้ว่าจะทำอย่างไรให้ครอบ ครัวมีศักยภาพยิ่งขึ้นแล้วนำมาเล่ากันในเวทีที่ 2 วันที่ 12 กรกฎาคม 2550
ปิดการประชุมโดยผู้ใหญ่มณี ท่านบอกว่าให้ทุกคน อยู่อย่างพอเพียง ก็สามารถมีความสุขได้และถือโอกาสปิดการประชุมในวันนี้
ครูแต้วครับ
กรุณาไปที่นี่ ห้องเรียนเสมือนจริงของ น.ร. ร.ร.คุณอำนวยเมืองคอน และไปที่นี่ โรงเรียนคุณอำนวยเมืองคอน
ขอบคุณครับ