พ.ร.ฎ. ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.2546 ได้กำหนดแนวทางการบริหารราชการเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 3 ด้าน คือ การปรับปรุงประสิทธิภาพ การพัฒนาคุณภาพ และการเสริมสมรรถนะขององค์กร เพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ให้พร้อมต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ โดยมีหลักสำคัญ 7 ประการ อาจจะถือได้ว่าเป็นหัวใจของการนำไปปฏิบัติให้เกิดผล คือ
1. ต้องปฏิบัติโดยคำนึงถึงประโยชน์สุขของประชาชน ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง
2. ต้องคำนึงถึงผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐ และต้องบริหารแบบบูรณาการ
3. ต้องมีประสิทธิภาพ และต้องบริหารให้เกิดความคุ้มค่า โปร่งใสตรวจสอบได้
4. ต้องลดเวลาและขั้นตอนการปฏิบัติงาน
5. ต้องมีการปรับปรุงภารกิจของราชการอยู่เสมอ
6. ต้องอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน
7. ต้องมีการประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ
ลองมาดูมาตราที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความรู้ขององค์การตรง ๆ คือ
มาตรา 11 ส่วนราชการมีหน้าที่พัฒนาความรู้ในส่วนราชการ เพื่อให้มีลักษณะเป็น องค์การแห่งการเรียนรู้ อย่างสม่ำเสมอ โดยต้องรับข้อมูลข่าวสารและสามารถประมวลผลความรู้ในด้านต่าง ๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วและเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งต้องส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถ สร้างวิสัยทัศน์และปรับเปลี่ยนทัศนคติของข้าราชการในสังกัดให้เป็นบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและมีการเรียนรู้ร่วมกัน ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการให้สอดคล้องกับการบริหารราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ตามพระราชกฤษฎีกานี้
อันนี้เชื่อมโยงกับทิศทางการพัฒนาในระยะแผนฯ 10 ที่ได้จากการสัมมนาของหน่วยงานวางแผนภาครัฐ 20 หน่วยงาน ประเด็นที่ 1 คือการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้: พัฒนาสมรรถนะและขีดความสามารถของคนไทย เสริมสร้างองค์ความรู้และภูมิปัญญาแก่คนไทย รวมทั้งการปฏิรูประบบการเรียนการสอน (บันทึกไว้แล้วที่ ทิศทางการพัฒนาในระยะแผนฯ 10) และผมขอต่อเองเพิ่มเข้าไปอีกว่า “โดยเน้นที่การมุ่งยกระดับศักดิ์ศรีของคน ของชาวบ้าน เคารพความรู้ในตัวคน และนำไปสู่การปลดปล่อยมนุษย์ สู่ศักยภาพ เสรีภาพ และความสุข” แบบสำเนามาจากที่ ศ.นพ.ประเวศ วะสี กล่าวไว้ตอนงาน KM Forum II ครับ สำหรับรายละเอียดประเด็นนี้หาอ่านได้จากหนังสือที่ Link ... นี้เลยครับ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช นำเสนอไว้แล้ว