วีวันเชื่อว่าผู้อ่านทุกคนคงจะเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับความขัดแย้งกับผู้อื่นมากันทุกคนและตัววีวันเองก็เป็น บ่อยด้วยซ้ำ และตัวการขอความขัดข้องหมองใจนั่นก็คือ ความคิดเห็น หรือว่าเจ้าตัวมุมมองนั่นแหละ เพราะต่างคนต่างมีความคิดที่ไม่เหมือนกันจะให้เหมือนกันไปหมดซะทีเดียวคงจะเป็นไปไม่ได้
คุณครูฉันเคยเล่าให้ฟังว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งเขาให้เด็กนักเรียนของลงไปนอนที่สนามฟุตบอล แล้วให้ทุกคนวาดรูปสิ่งที่ตัวเองเห็นบนท้องฟ้า ไม่นานเด็กๆก็นอนกระจัดกระจายเต็มสนามฟุตบอลน้อยๆของโรงเรียน
เด็กๆตื่นเต้นกันใหญ่ ชี้ไม้ชี้มืออย่างออกรสออกชาติ ไม่นานก็หมดเวลา เมื่อครูของฉันถามเด็กแต่ละคน คำตอบที่ได้ก็ไม่เหมือนกันซักคน สิ่งที่เด็กแต่ละคนเห็นนั้นแตกต่างกันออกไป
แล้วคุณครูฉันก็สอนว่า นี่แหละคือมุมมอง ถึงแม้จะมองฟ้าเดียวกัน แต่จุดที่แต่ละคนเลือกที่หยุดแล้วมองมันต่างกัน และสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ประสบการณ์ที่ผ่านมาของแต่ละคน สิ่งที่พบเจอมาในอดีตนั้นเป็นสิ่งที่มีผลต่อการคิดและตัดสินใจของแต่ละคน
เด็กบางคนไม่เคยเห็นกระต่ายอาจจะมองก้อนเมฆก้อนนั้นว่าเป็นหนู แต่เด็กอีกคนหนึ่งบอกว่า เมฆก้อนนั้นเป็นกระต่าย เพราะที่บ้านเค้าเคยเลี้ยงเลยทำให้เค้าคิดและเชื่อว่ามันคือสิ่งนั้น
ไม่แปลกที่คนแต่ละคนจะมีมุมมองและความคิดที่ต่างกัน แต่จะแปลกมากถ้าเราไม่รู้จักที่จะเปิดรับมุมมองของผู้อื่นว่ามั๊ย
ใช่ คนเราก็มีหลายมุมมอง หลายมุมมอง ถ้าเราเปิดรับมุมมองของคนอื่น แล้วเอาตรงนั้นมาคิดแล้วปรับแต่งให้กับชีวติตนเอง จะดีไม่ใช่น้อย เนาะวีวัน
คนเราก็มีมุมมองหลายมุมมอง อยู่ที่ว่าเราจะเลือกมองมุมไหนทั้งของตัวเราเองและของผู้อื่น มุมมองเป็นสิ่งที่เราเลือกมองมันได้ จะมีทั้งสุขและทุกข์
อ่านแล้วประทับใจในความรู้สึกนึกคิด แล้วจะติดตามต่อไปครับ