จากการได้อ่านblog ของคุณก้ามปู ช่วยให้หนูได้เรียนหน่อยคะ จึงได้ไอเดียที่นำมาต่อยอด เกี่ยวกับการจัดการศึกษาของผู้พิการค่ะ แอบหวังว่า จะได้มุมมองของสหวิชาชีพนะคะ “สังคมอยู่เย็นเป็นสุขและไม่ทอดทิ้งกัน”
หนิงได้ไปให้ ความคิดเห็นไว้
“ การศึกษาของผู้พิการ มีข้อคับข้องอยู่หลายส่วนค่ะ ดิฉันค่อนข้างเห็นใจและเข้าใจข้อคับข้องของทุกส่วนนะคะ ไม่ว่าจะทางสถานศึกษาหรือผู้ปกครอง ไหนจะความพร้อมและนโยบายอีกด้วยจากที่ข้อมูลที่ให้มาเบื้องต้นนี้ ดิฉันเข้าใจว่าน้องคงจะเป็นเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ (Learning Disability : LD) ใช่หรือไม่คะ
การศึกษาของผู้พิการมีรายละเอียด และค่อนข้างอ่อนไหวค่ะ อย่างไรก็ดี ลองหาข้อมูลและปรึกษา ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัด หรือ ศูนย์การศึกษาพิเศษของมหาวิทยาลัยราชภัฏ ที่ใกล้บ้านนะคะ จะได้ข้อมูลที่ชัดเจนและทำได้จริงกว่าค่ะ
ถ้าน้องคือ เด็ก LD (จริงอย่างที่ดิฉันเข้าใจ) การจัดการศึกษาของน้อง ไม่ใช่แค่ให้เรียนผ่านชั้นไปเท่านั้นนะคะ เพราะการที่โรงเรียนหรือครู สอนแบบ"เอื้ออาทร" ไม่ใช่เน้นที่"การพัฒนาศักยภาพ"จริงๆ และปล่อยให้ผ่านชั้นมาด้วยความสงสารเรื่อยๆ แม้น้องจะสำเร็จการศึกษาผ่านในระดับชั้นต้นๆมา
แต่เมื่อต้องเปลี่ยนโรงเรียนเพื่อผ่านไประดับชั้นสูงขึ้น ต้องมีการสอบประเมินใหม่ ถ้าน้องไม่ได้ตามเกณฑ์จริงๆ และโรงเรียนใหม่ไม่มีนโยบายหรือความพร้อมด้านบุคคลากรที่จะดูแลน้องเป็นพิเศษ (ครูการศึกษาพิเศษหรือครูเรียนร่วม) ก็คงจะลำบากใจในการรับเข้าเรียนอ่ะค่ะ
ยิ่งเป็นการศึกษาที่สูงขึ้นย่อมต้องเรียนรู้มากขึ้น ต้องการการดูแลมากขึ้นค่ะ
โดยส่วนตัวแล้ว เท่าที่ดิฉันทำงานการจัดการศึกษาของผู้พิการอยู่ จะได้ยินคำถามจากอาจารย์ผู้สอนที่สนใจเด็กๆเหล่านั้นว่า จะสอนอย่างไร จะต้องระดับเข้มข้นขนาดไหน
ดิฉันจะเรียนชี้แจงเสมอว่า ดิฉันไม่ต้องการให้อาจารย์แต่ละท่านอ่อนเข้มลงเพียงเพราะว่า เด็กพิการ ดิฉันเชื่อมั่นว่า ลูกๆทำได้ค่ะ เพราะอย่างน้อยเด็กที่นี่ก็ผ่านการสอบเข้ามาช่องทางเดียวกันกับเด็กทั่วไป ถ้าจะเรียนปริญญาตรี ก็ต้องเรียนเหมือนเด็กทั่วไป ศึกษาค้นคว้า ทำรายงานเหมือนเด็กอื่นๆ ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน เพียงแต่บางครั้ง(บางกรณี) เด็กๆอาจจะส่งงานช้ากว่าเพื่อนเล็กน้อย เพราะเด็กๆอาจจะไม่สามารถเข้าถึงสื่อการเรียนรู้ได้ เช่น เด็กตาบอด ดิฉันจะต้องมาทำเป็นสื่อเสียง หรือ สื่อเบรลล์ก่อน
เพราะเมื่อลูกๆของ DSS สำเร็จการศึกษาเขาจะต้องไปหางานทำในแหล่งงานเดียวกันกับคนทั่วไป อันนำไปสู่การดำรงชีวิตอิสระ (Independent Living: IL) ถ้าเขาได้รับปริญญาเอื้ออาทร เพราะว่าเขาพิการ เขาจะมีความสามารถทัดเทียมเด็กอื่นได้อย่างไร
ในภาวะการณ์ที่ต้องแข่งขัน เช่นนี้นายจ้างจะให้โอกาสเขาเข้าทำงานหรือ ในเมื่อเขาเองก็มีความบกพร่องทางร่างกายให้เห็นอยู่แล้ว แถมพ่วงมาด้วยปริญญาเอื้ออาทร
โดยส่วนตัวดิฉันเห็นว่า... การศึกษาทุกระดับสำคัญมาก คุณภาพของแต่ละระดับต้องได้เรื่องของการพัฒนาศักยภาพของแต่ละระดับจริงๆ ไม่เช่นนั้นเราจะมีคนพิการที่สำเร็จการศึกษาสูงขึ้น (ฟังเหมือนดูดีนะคะ ว่าคนพิการมีการศึกษาสูงขึ้น) แต่ไม่สามารถทำงานได้ เช่นคนทั่วไปที่สำเร็จการศึกษาในระดับเดียวกัน
คนพิการไม่มีใครอยากเป็นภาระของสังคมค่ะ ทุกคนมีความวิริยะมาก เราผู้อยู่ในวงการศึกษาต่างหาก อดทนกับการพัฒนาศักยภาพที่แท้จริงของเขาหรือยัง
บางครั้งบางเรื่องเด็กๆต้องการเวลาในการเรียนรู้มากกว่าคนอื่นนะคะ เพราะเขามีข้อจำกัดในการเข้าถึงสื่อการเรียนรู้มากกว่าคนทั่วไป อย่าจำกัดหรือประเมินการศึกษาแค่ตามเวลา ต้องดูที่เป้าประสงค์การศึกษานั้นๆว่าผ่านเกณฑ์หรือยัง
อื้มมม...ก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ จากประสบการณ์ของพยาบาลวิชาชีพ ที่ทำงานด้านการจัดการศึกษาของผู้พิการในมหาวิทยาลัยค่ะ
งานบริการสนับสนุนนิสิตพิการ กองกิจการนิสิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ค่ะ http://www.msu.ac.th/sa/dss/
หนิงจะบอกลูกๆเสมอว่า เราปฏิเสธความพิการไม่ได้แล้วนะคะ ความพิการรักษาไม่หาย
แต่เราสามารถเป็นคนพิการที่มีศักยภาพสูงและดำเนินชีวิตได้ไม่แตกต่างกับคนทั่วไป ด้วยการตั้งใจศึกษาพัฒนาตัวเอง
อยากทำอะไร อยากได้อะไรให้บอกพี่หนิง เพราะบางครั้งบางอย่างพี่ไม่รู้ หนูต้องบอกพี่นะคะ เพราะงานบริการสนับสนุนนิสิตพิการต้องสู้ไปด้วยกัน
เราจะต้องเป็นตัวอย่างและกำลังใจให้คนพิการที่ยังไม่อยู่ในระบบการศึกษาด้วยนะลูก
คนพิการต้องเรียน ต้องรู้ ต้องพัฒนาตนเองเสมอ