อริยมรรค4


นักปราชญ์ย่อมกล่าวศีลกับปัญญาว่าเป็นยอดในโลก เหมือนบุคคลล้างมือด้วยมือ หรือล้างเท้าด้วยเท้าฉะนั้น

วาจาชอบ,การงานชอบ,เลี้ยงชีวิตชอบ

อริยมรรคทั้งสามนี้ เป็นส่วนของศีลหรือวินัย คำว่าศีลและวินัยนี้ จะกล่าวว่าเป็นสิ่งเดียวกันก็ถูก หรือจะแยกให้มองเป็นคนละอย่างก็ได้ คือ วินัย เป็นกฎระเบียบหรือกรอบบังคับที่ตราขึ้นมาสำหรับฝึกหัด มีบทบัญญัติลงโทษเมื่อปฏิบัติผิด แต่หากปฏิบัติจนเป็นปกติแล้วจัดเป็นศีล

วินัยนั้น กล่าวโดยหลักปฏิบัติสำหรับบุคคลแบ่งเป็นสองอย่างคือ วินัยส่วนตัวที่แต่ละคนบัญญัติขึ้นเพื่อฝึกหัดตนเอง และวินัยส่วนรวม ซึ่งแบ่งเป็นสองอย่าง คือ วินัยของคฤหัสถ์เช่นศีลห้าเป็นต้น หรือวินัยต่างๆเช่นวินัยของทหาร ตำรวจเป็นต้น และวินัยของนักบวชเป็นต้น

 

 เมื่อมีความดำริหรือมุ่งหมายถูกต้องแล้ว ประการต่อมาจึงต้องสร้างวินัยสำหรับการแสวงหาคือ

วาจาชอบ ได้แก่ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการพูดเท็จ เจตนาเครื่องงดเว้นจากการพูดส่อเสียด เจตนาเครื่องงดเว้นจากการพูดคำหยาบ เจตนา เครื่องงดเว้นจากการพูดเพ้อเจ้อ

การงานชอบ คือ เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการฆ่าสัตว์,เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้แล้ว,เจตนาเป็นเครื่องงดเวจากการประพฤติที่ไม่ประเสริฐ

เลี้ยงชีวิตชอบ คือ ละการเลี้ยงชีวิตที่ผิด ประกอบด้วยสัมมาอาชีวะ

วินัยนี้ กล่าวโดยประโยชน์อย่างสูงสุด คือ วินัยที่พระอริยเจ้าพอใจหรืออริยวินัย คือวินัยที่เป็นเบื้องต้นของพรหมจรรย์

ในโสณทัณฑสูตร พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่าดูก่อนพราหมณ์ ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ข้อนี้เป็นอย่างนั้น ปัญญาอันศีลชำระให้บริสุทธิ์ ศีลอันปัญญาชำระให้บริสุทธิ์ ศีลมีในบุคคลใด ปัญญาก็มีในบุคคลนั้น ปัญญามีในบุคคลใด ศีลก็มีในบุคคลนั้น ปัญญาเป็นของบุคคลผู้มีศีล ศีลเป็นของบุคคลผู้มีปัญญา และนักปราชญ์ย่อมกล่าวศีลกับปัญญาว่าเป็นยอดในโลก เหมือนบุคคลล้างมือด้วยมือ หรือล้างเท้าด้วยเท้าฉะนั้น
คำสำคัญ (Tags): #อริยมรรค
หมายเลขบันทึก: 107721เขียนเมื่อ 1 กรกฎาคม 2007 01:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 20:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท