ทลายเซ็กซ์โฟน จับเจ้าของ14นศ.

เพศสัมพันธ์

ทลายเซ็กซ์โฟน จับเจ้าของ14นศ. [27 มิ.ย. 50 - 04:36]

ที่มา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์  ไทยรัฐ  วันที่ 27 มิถุนายน  2550

เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 26 มิ.ย. พ.ต.อ.นรศักดิ์ เหม-นิธิ รอง ผบก.ปดส. พร้อมกำลัง นำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นบริษัทไม่มีชื่อ เลขที่ 252/16 ตั้งอยู่ชั้น 12 อาคารเมืองไทยภัทรคอมเพล็กซ์ ทาวเวอร์ เลขที่ 1 ถนน รัชดาภิเษก แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. หลังสืบทราบว่าเป็นบริษัทให้บริการโทรศัพท์แชตไลน์สายด่วน หมาย เลข 1900-555-556 ให้บริการ “เซ็กซ์โฟน” โดยมีหญิงสาวเป็นพนักงานรับโทรศัพท์พูดสายโต้ตอบ เพื่อสำเร็จความใคร่ให้กับลูกค้า  ภายในบริษัทพบหญิงสาววัยรุ่น 14 คน นั่งประจำตามโต๊ะที่มีโทรศัพท์วางอยู่โต๊ะละ 1 เครื่อง มีนายณัฐพล หรือเบิ้ม เกตุโกมล อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/3 หมู่ 4 ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี แสดงตัวเป็นผู้ดูแล จึงจับกุมตามหมายจับศาลอาญาในข้อหาเพื่อ ประสงค์แห่งการค้าเผยแพร่สิ่งลามก และเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป พาไป เพื่อให้บุคคลอื่นกระทำการค้าประเวณี พร้อมคุมตัวนายณัฐพลและหญิงสาวทั้ง 14 คน ไปสอบสวนที่ บก.ปดส. โดยยึดโทรศัพท์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องอีกหลายรายการมาตรวจสอบ  การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากมูลนิธิกระจกเงา ประสานมายัง พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.ปดส. ว่า มี การเปิดให้บริการสายด่วนเบอร์เดียวไม่มีเหงา ตลอด 24 ชั่วโมง หมายเลข 1900-555-556 โดยโฆษณาผ่านสื่อสิ่งพิมพ์หลายฉบับ จากการตรวจสอบพบว่ามีการให้บริการเซ็กซ์โฟนแอบแฝง มีพนักงานสาวพูดจาโต้ตอบในเชิงลามกอนาจาร ใช้ถ้อยคำด้วยน้ำเสียงกระเส่าเร่าร้อน เชิญชวนให้บังเกิดความรู้สึกเหนือจินตนาการ จนลูกค้าที่โทร. เข้ามาใช้บริการสำเร็จความใคร่ไปด้วยตัวเอง พล.ต.ต.วิมล จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.นรศักดิ์สืบสวนหาเบาะแส ส่งสายลับเข้าไปสมัครเป็นพนักงานรับโทรศัพท์ รวบรวมหลักฐานจนเป็นที่แน่ชัด ก่อนขออนุมัติหมายจับนายเอกอนันต์ สิงห์จำนงค์ อายุ 52 ปี เจ้าของ นายณัฐพล หรือเบิ้ม เกตุโกมล อายุ 22 ปี และนายวิภาค เกตุโกมล อายุ 26 ปี 2 พี่น้อง ซึ่งเป็นหัวหน้างานและผู้ดูแลบริษัท ในข้อหาเดียวกันทั้งหมด ก่อนนำหมายศาลเข้าตรวจค้น น.ส.บังอร (นามสมมติ) อายุ 20 ปี พนักงานรับโทรศัพท์ที่ถูกเชิญตัวมาสอบสวน เปิดเผยว่า เป็นนักศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ที่มาหารายได้พิเศษ เพราะไม่อยากทำงานต้อนรับหรือเชียร์เครื่องดื่มตามสถานบันเทิงในเวลากลางคืน เมื่อ มีเพื่อนบอกต่อๆกันมา จึงสนใจทำงาน เพราะไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือเสี่ยงอันตราย สำหรับพนักงานรับโทรศัพท์ที่นี่ ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาที่มาหารายได้พิเศษกันทั้งนั้น โดยรายได้จะตกเดือนละประมาณ 6,000 บาท พนักงานรับโทรศัพท์สาวกล่าวด้วยว่า ส่วนใหญ่ ร้อยละ 95 ของลูกค้าที่โทร.มา ต้องการให้บริการเซ็กซ์โฟน พนักงานรับโทรศัพท์ก็ทำเสียงครวญครางไปตามประสา เพราะต้องทำยอดเวลาให้ถึง 300 นาที ถึงจะได้เงินพิเศษ แต่พนักงานจะรับสายลูกค้าประเภทนี้หรือไม่ก็ได้ บริษัทไม่ได้บังคับ อย่างตนไม่ชอบก็บอกลูกค้าให้โทร.กลับมาใหม่ จะมีพนักงานคนอื่นรับสายแทน จากการทำงานรับโทรศัพท์มาพอสมควร เชื่อว่าลูกค้าที่โทร.เข้ามามีน้ำเสียงเหมือนคนที่มีงานการทำดีทั้งนั้น โดยแต่ละรายจะใช้เวลาพูดคุยกับพนักงานไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง สูงสุดที่เคยคุยสายนานถึง 5 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าพนักงานทั้ง หมดไม่ได้ให้บริการทางเพศ นอกเหนือจากการรับโทรศัพท์ ถ้าบริษัททราบเรื่องจะถูกไล่ออกทันที  ต่อมาพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวนายเอกอนันต์ สิงห์จำนงค์ อายุ 52 ปี เจ้าของบริษัทมาพบ ก่อนแจ้งข้อหาตามหมายจับศาลอาญาในข้อหาเดียวกับนายณัฐพล โดยทั้งคู่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่าให้บริการพูดคุยโทรศัพท์เป็นเพื่อนเท่านั้น ไม่ทราบว่าลูกน้องจะไปทำเป็นอย่างอื่น ส่วนนายวิภาค ผู้ต้องหาที่ศาลออกหมายจับ อยู่ระหว่างติดตามจับกุมมาดำเนินคดี  มีรายงานด้วยว่า พนักงานเซ็กซ์โฟนสาวทั้ง 14 คน ที่เชิญตัวมาสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพร้อมกันตัวทั้งหมดไว้เป็นพยาน โดยให้การไปในทางเดียวกันว่า บริษัทจะคิดค่าบริการพูดสายคลายเหงานาทีละ 13 บาท โดยแบ่งรายได้ให้การสื่อสารนาทีละ 6 บาท ส่วนบริษัทจะได้รับเงินนาทีละ 7 บาท หลังสอบปากคำเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวไปทั้งหมด โดยไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบค่าใช้จ่ายของบริษัทพบว่า มีรายได้สูงถึงเดือนละ 5 ล้านบาท  สำหรับข้อหาเพื่อประสงค์แห่งการค้าเผยแพร่สิ่งอื่นใดอันลามก และเพื่อสนองความใคร่ผู้อื่นเป็นธุระจัดหา ล่อไป พาไป เพื่อให้บุคคลอื่นกระทำการค้าประเวณีนั้น เป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 (1) และพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี มาตรา 9 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท ตามลำดับ