ตายรังที่ Emacs


บันทึกนี้เกี่ยวกับ text editor ที่ผมใช้ในการเขียนโปรแกรมครับ อ้อ text editor สำหรับการเขียนโปรแกรมเดี๋ยวนี้เขาไม่เรียกอย่างนี้แล้ว เขาเรียกว่า Integrated Development Environment (IDE) หรูเชียว

IDE คือระบบที่เราใช้ในการพัฒนาโปรแกรมของเรานั่นเอง อธิบายง่ายๆ คือ text editor ที่มี features and functions มากกว่า text editor ธรรมดา โดยที่ features and functions เหล่านั้นออกแบบมาให้โปรแกรมเมอร์พัฒนาโปรแกรมได้ง่ายและเร็วขึ้น

editor ที่ผมใช้มีเพียงแค่สองตัวคือ vi กับ Emacs

ก่อนหน้านี้ผมใช้ vi เป็นหลัก แหมนับดูแล้ว ผมใช้ vi มาสิบห้าปีกว่าครับ (ที่จริงไม่ใช่ vi แต่เป็น Vim)

มีอยู่ช่วงที่ตอนเขียน simulation สำหรับ dissertation ที่ผมใช้ Emacs เพราะผมต้องเขียนภาษา Lisp ซึ่ง vim ไม่่ค่อยเหมาะเท่าไหร่สำหรับการเขียนภาษา Lisp

หลังจากนั้นผมก็เป็นคนลูกครึ่งมาตลอด ครึ่ง vi ครึ่ง Emacs

ผมเป็นคนแปลก เพราะปกติถ้าคนใช้ vi จะไม่ใช่ Emacs ส่วนคนใช้ Emacs จะไม่ใช้ vi มันเป็นสงครามระหว่างความเชื่อว่าอะไรดีกว่ากัน

แต่ผมใช้ทั้งสองอย่าง โถ ระหว่างในหมู่ geeks ด้วยกันยังอุตส่าห์นอกคอกอีก

ที่จริงแล้วไม่ใช่นอกคอก ขอบอก แต่ผมเป็นพวกชอบนอกใจ

ผมพยายามหาอย่างอื่นมาใช้ตลอดเวลาละครับ ด้วยความเชื่อว่ามันน่าจะมีอะไรดีกว่า vi และ Emacs ละน่า

ก็ทั้ง vi และ Emacs เริ่มพัฒนาตั้งแต่สมัยยุคเจ็ดศูนย์ สามสิบกว่าปีที่ผ่านมาจะไม่มีอะไรดีกว่าให้โปรแกรมเมอร์ใช้เชียวเรอะ

ตอนเขียนโปรแกรมบน Windows ผมก็ใช้ Microsoft Visual Studio อยู่พักนึง ก็ใช้ได้ ก็โอเค พอไหวพอทน

พยายามเอา Eclipse มาใช้ โอ้ว ไดโนเสาร์เดินได้ ช้าอืดเอื่อย และไม่มีอะไรที่ Emacs ทำไม่ได้

หลายต่อหลายวันก่อนพยายามใช้ TextMate เห็นเขาว่าดีนักแลสำหรับการพัฒนา Rails application สุดท้ายก็กลับไปใช้ Emacs เหมือนเดิม TextMate นี่มัน Emacs clone เห็นๆ ใช้ Emacs ของจริงจะดีกว่า

วันนี้เอา NetBeans 6 มาใช้ เพราะเห็นว่าสนับสนุน Ruby on Rails ด้วย ใช้อยู่ได้สองชั่วโมง เลิก เพราะถ้า Eclipse เป็นไดโนเสาร์แล้ว NetBeans นี่มันไดโนเสาร์อ้วนนี่หว่า MacBook รับไม่ไหว ทนไม่ได้

สุดท้ายกลับมาตายรังที่ Emacs

โดยปกติเขาบอกว่าโปรแกรมเมอร์ที่ใช้ Emacs นี่แสดงว่าแก่แล้ว เอาเถอะ จะว่ายังไงก็ว่ากัน ยอม

หมายเลขบันทึก: 106455เขียนเมื่อ 26 มิถุนายน 2007 13:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 พฤษภาคม 2012 20:58 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ที่ว่าผมใช้หมดเลยครับ :-P vi ก็ใช้บ้างตอนลง NetBSD พอต่อ net ได้รีบ ลง vim เลย เวลาเขียน Ruby Python ชอบใช้ TextMate แต่ว่าบน Ubuntu มันไม่มีนิ บน Mac OS X ก็แพง ก็เลยใช้ Emacs ด้วย 

เขียน Python บน Emacs ต้องแก้ shell script ก็เปิด terminal + vim มาแก้แทนที่จะใช้ Emacs ที่เปิดอยู่แล้ว  พอแก้เสร็จก็กด ^X^S แล้วก็งงว่าทำไมมันไม่ save -_-! 

การใช้โปรแกรมเดิมนานๆ + ใช้ key เดิม อาจจะส่งผลต่ออาการเจ็บนิ้ว :-P 

ผมก็กลัวใช้ Emacs นานๆ จะเจ็บนิ้วเหมือนกัน แต่อาจารย์ผมอายุ 60 กว่าแล้วยังใช้ Emacs ได้ไม่เห็นเป็นอะไรครับ

ทีแรกผมใช้ vim ครับ
เคยลองหัด emacs แล้วไม่ไหว ท้อซะก่อน

ตอนนี้ใช้ทั้ง vim แล้วก็ TextMate 

ผมจะผิดไหมครับ ถ้าใช้ emacs ไม่เป็น
เพราะเริ่มต้นจาก Microsoft Platform ครับ ก็ใช้ Notepad เขียนมาเลย จนเดี๋ยวนี้พัฒนาเป็น Notepad++

พอเปลี่ยนมาใช้ Unix ก็เริ่มใช้ vim ได้นิดหน่อย

ถ้าบน Ubuntu ก็ใช้ gedit ที่มันมีติดมา หรือไม่ก็ SciTE ครับ

P แต่ผมเจ็บอะครับ T_T
 
อาจารย์อายุ 60 ปี  อาจจะมีเคล็ดอะไรหรือเปล่าครับ? 
P อ.อายุ 60 ท่านมีท่า เลี่ยงการบาดเจ็บหรือเปล่าครับ? (ผมเจ็บ)

ไม่ใช้ Emacs ก็ไม่ผิดครับ ที่จริงแล้ว Emacs เป็น software ที่แย่มากเมื่อคำนึงถึงหลัก usability ครับ

ผมไม่เคยถามอาจารย์เหมือนกันนะว่าท่านมีเคล็ดลับถนอมนิ้วอย่างไรหรือเปล่าครับ รู้แต่ว่าท่านใช้ Mac มาตลอดตั้งแต่ช่วงยุคแปดศูนย์ครับ

P บางคนมีท่าสลับปุ่มอะครับ ผมก็สลับ caps lock กับ control ก็พอช่วยได้บ้าง
 
สงสัยผมต้องลองซื้อ keyboard ของ apple มาใช้บ้างเพื่อเกี่ยว :-P 

ผม Textmate ครับ

Highlight สวยดี 

Font ก็สวย :) 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท