คือพระอรหันต์ ผู้บรรลุนิพพานซึ่งเป็นความดีสูงสุดในพระพุทธศาสนา เป็นจุดมุ่งหมายของชีวิตมนุษย์ การบำเพ็ญบุญกุศลต่าง ๆ เพื่อจุดหมายสูงสุดคือนิพพาน
ถือว่าเป็นจุดสิ้นสุดของสังสารวัฏ (การเวียนว่ายตายเกิด) นิพพาน คือความดับสิ้นแห่งกิเลสทั้งมวล
คำว่านิพพานนี้ มีใช้มาก่อนการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า แต่ใช้ในความหมายอื่น ดั่งเช่นคำอุทาน
ของพระนางกีสาโคตมี เมื่อได้ดูลักษณะของเจ้าชายสิทธัตถะว่า
"นิพฺพุตา นูน สา มาตา นิพฺพุโต นูน โส ปิตา
นิพฺพุตา นูน สา นารี ยสฺสายํ อีทิโส ปตี"
คำว่า นิพพาน โดยพยัญชนะหรือตามอักษร นิพพาน มาจาก นิ + วาน (นิ อุปสรรค
แปลว่า ออกไป หมดไป ไม่มี เลิก วาน แปลว่า พัด ไป หรือเป็นไปบ้าง เครื่องร้อยรัดบ้าง)
ใช้เป็นกิริยาของไฟ หรือการดับไฟ หรือของที่ร้อนเพราะไฟ แปลว่า ดับไฟ หรือดับร้อน หมายถึง
หายร้อน เย็นลง หรือเย็นสนิท (แต่ไม่ใช่ดับสูญ) แสดงภาวะทางจิตใจหมายถึงเย็นใจ สดชื่น ชุ่มชื่นใจ
ดับความร้อนใจ หายร้อนรน ไม่มีความกระวนกระวาย หรือแปลว่า เป็นเครื่องดับกิเลส หรือทำให้ราคะ
โทสะ โมหะ หมดสิ้นไป ในคัมภีร์รุ่นรองและอรรถกกถาฎีกาส่วนมากนิยมแปลว่า ไม่มีตัณหาเครื่อง
ร้อยรัด หรือออกไปแล้วจากตัณหาที่เป็นเครื่องร้อยติดไว้กับภพ (พระธรรมปิฎก, 2542:261)
เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสรู้แล้ว เห็นว่าคำว่า นิพพาน เป็นคำที่สามารถใช้เรียกแทน
ธรรมที่พระองค์ทรงบรรลุหรือเป็นนามบัญญัติ แต่ก็ยังมีคำอื่น ๆ ใช้แทนกันได้ (ไวพจน์) เช่น วิราคะ
ความมีราคะไปปราศแล้ว ตัณหักขยะ ความสิ้นไปแห่งตัณหา มทนิมมทนะ ความบรรเทาความมัวเมา
ปิปาสาวินยะ การนำออกไปเสียได้ซึ่งความกระหาย เป็นต้น ท่าน พุทธทาสภิกขุ (2542 : 3, 22-23) กล่าวว่า
สวัสดีค่ะอาจารย์...วรรธนชัย ๏(。◕‿◕。)๏ ♫ ♬ ♪ ♩ ♭