AnthroCat-Thailand
นาย ปรัชญาณินทร์ วงศ์อทิติกุล

รถควันดำ กับ ตำรวจจมูกเหล็ก


           เป็นเพราะต้องเป็น "ประชาชน" คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ มหานคร(ใหญ่?) และยังไม่มี รถยนต์ส่วนตัว เพื่อใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง ซึ่ง รถยนต์นี้ก็ดีอย่างคือ เวลานั่งอยู่ภายในแล้ว ห้องโดยสารสามารถกั้นมลพิษต่าง ๆ ที่อยู่ภายนอกได้

          อันที่จริงแล้ว กฎหมายเกี่ยวกับการจราจร และ/หรือพระราชบัญญัติการขนส่ง (มั๊ง ไม่แน่ใจ) เคย ออกข้อกำหนดในการจัดการกับรถควันดำ ครับพี่น้อง !!!!!

          และก็ เคยได้รับการปฏิบัติกันอย่างครื้นเครง เพราะมีการติดตามแหละ เห่อ กฎใหม่นี้ อย่างเห็นได้ชัด เพราะมีภาพข่าวของกลุ่มนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายท่านลงพื้นที่กำกับการตรวจและจับ "รถ" ประเภทต่าง ๆ อ้อ...ไม่นับ ซาเล้งปั่น กับ รถจักรยาน นะครับ ถ้ารถคันไหนเจ้าของไม่ดูแลปล่อยควันขาว ควันดำ จำปรับ กัน

          ในด้านการปฏิบัติก็ไม่ใช่ว่าจะมีแค่กฎกับการมองสังเกตด้วยสายตาว่า คันไหนปล่อยควันดำควันขาว แต่ถึงขั้นจัดสรรงบประมาณจัดซื้อ เครื่องมือและอุปกรณ์ตรวจวัดกันเลยทีเดียว

           มาตรการนี้ ทำเอาเจ้าของรถยนต์ทั่วไป ถึงกับ ขนหัวลุกและอกสั่นขวัญแขวนกันไปได้มาก และก็เป็นที่โจษจันกันทั่วบ้านทั่วเมือง

          แต่มาวันนี้ ทุกวันนี้ พี่น้อง!!!!!!

          มองไปทางไหนเหมือน กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่อยู่บนภูเขาสูง มีความกดดันอากาศหนาแน่น จนอากาศไม่สามารถลอยตัวขึ้นให้พ้นจากภาคพื้นดินได้ ราวกับมีหมอกปกคลุม แหม เหมือนเป็นเมืองอยู่บนดอยอินทนนท์ ที่สูงที่สุดในประเทศไทย แต่กลับไม่ใช่ ครับพี่น้อง !!!!! ไอ้ที่เห็นเป็นกลุ่มก้อนสีเทามัว ๆ และปกคลุมเมืองอยู่นั้น คือ ไอควันจากรถยนต์ และไอฝุ่นที่ฟุ้งกระจายขึ้นไปในอากาศ เพราะ กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่รถวิ่งขวักไขว่อยู่ตลอดเวลา

          และในบรรดารถที่วิ่งตลอดวันนี้ ก็คือ กลุ่มรถโดยสารประจำทาง ทั้งของ ขสมก. และ เอกชน

          จากการสังเกตของผมนะ (ไม่อ้างอิงของใคร) ผมเห็นและพบว่า รถโดยสารประจำทางที่วิ่งบนท้องถนนนั้น รถของบริษัทเอกชน เป็นรถที่ปล่อยควันดำมากที่สุด โดยเฉพาะรถที่นำมา "ย้อมแมว" ใหม่ ทำสีจาก สีเหลือง-แดง เดิม ๆ มาเป็น ขาว-น้ำเงิน ภายนอกดูสดใหม่ แต่พอขึ้นไป เดิม-เดิม (อ.ว.ท.ม. - เอา ไว้ ทำ ไม) แต่ที่ไม่ เดิม-เดิม คือ ราคา แพงขึ้น เพราะเจ้าของบริษัทเดินรถ อ้างว่า ปรับปรุงดีแล้ว และ ค่าสัมปทานแพงขึ้น (จ่ายให้ ขสมก.) ซึ่ง ขอแวะไปที่เรืองราคาตั๋วโดยสารสักนิดนะ เผื่อว่าใครไม่เคยขึ้นรถสาธารณะและอาจเลิกขึ้นนานแล้ว เพราะมีฐานะรวยพอที่จะใช้รถยนต์ส่วนบุคคล

            ราคาตั๋วรถเมล์ ร้อน ขสมก. ครีม-แดง 7 บาท เอกชน เหลือง-แดง 7 บาท เท่ากัน แต่ น้ำเงิน-ขาว 8 บาท อ้อ มินิบัส มหันตภัย วิ่งบ้างประปราย 5.50 หรือ 6 บาท ไม่แน่ใจเพราะผมหลีกเลี่ยงการขึ้นรถมินิบัส มาโดยตลอด

            มาที่ ควันดำ ๆ ที่พวยพุ่งออกมาจากปลายท่อไอเสียกัน และผมก็เห็นว่า รถเมล์ของ ขสมก. น้อยคันนักที่จะมีควันดำ (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ปล่อยมลพิษนะครับ ปล่อยเหมือนกัน) ย่อมดีกว่ารถ "ย้อมแมว" ที่ผมว่า

           เห็นได้ว่า บริษัทเดินรถเอกชน ไม่ค่อยมีความสำนึกในการรับผิดชอบต่อสังคมในระดับที่มากพอ ถ้านำไปเทียบกับการขอขึ้นราคาค่าโดยสาร ที่นับวันแต่จะขอขึ้นท่าเดียว นอกจากสภาพรถที่ว่า "ผิวนอกขรุขระ ข้างใน ขรุขระยิ่งกว่า" ก็พอทนแล้ว แต่นี้ ยังไม่มีการซ่อมบำรุงรถให้มีสภาพที่อยู่ในขั้นมาตรฐาน และทำให้สงสัยว่า ผ่านการตรวจสภาพรถ มาได้อย่างไร (ตรงนี้ มีหลายฝ่ายเกี่ยวข้องนะ)

          การปล่อยควันดำ ก็เลย เป็นเรื่องที่ หันซ้ายหันขวา ก็เห็น และก็ สูดดมกันโดยทั่วถ้วนหน้า ยืนไป ยืนมา ตาก็มองเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ที่ยืนโบก ให้สัญญาณ และควบคุมการจราจรอยูกลางถนน

          อืม ตำรวจจราจรมีสิทธิและมีอำนาจอย่างเต็มที่ในการจับรถควันดำ ผมเชื่ออย่างนั้น แต่ ทำไมไม่จับ และเชื่อว่า สองดวงตาของท่านก็มองเห็นว่ารถปล่อยควันดำเช่นเดียวกับที่ประชาชนตำดำที่ต้องสูดควันดำเห็น

          กฎหมายจราจรข้อนี้ หายไปไหน หรือว่า ถูกล้มไปพร้อมกับ รัฐธรรมนูญ 2540 ผมไม่เชื่อหรอก มันคนละเรื่องกัน

           นอกจากไม่จับแล้ว ยังยืน สูดควันดำ ที่รถเมล์เหล่านั้น ปล่อยและพ่นออกมา "ใส่หน้า" ไม่ยี่หระ เหมือนกับว่า โดนตบหน้า แต่ก็ทำเฉย ทั้งที่ตนเองมีอำนาจจัดการ เชื่อไม่เชื่อ คนขับรถก็คงจะพูดได้ว่า ตำรวจไม่จับ ไม่จับ เพราะ จับไง คนขับรถก็จะบึ่งให้มีควันดำให้มากกว่าเดิม เห็นไหมว่า กฎหมายกลายเป็นดาบที่อยู่ในฝัก ไม่มีใครไปหยิบออกมาใช้ ก็เป็นแค่ดาบ กระดุกกระดิก ขยับเขยื้อนไม่ได้

           การที่เห็นและไม่จับนี้ คงไม่มีใครไปทำอะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ จะไปบังคับได้ไหม สำหรับประชาชนคนธรรมดาตาดำ ๆ สูดควันดำๆ แต่ ประชาชนไม่ได้เป็น มนุษย์จมูกเหล็ก ปอดเหล็ก และที่สำคัญ กฎหมายก็ถูกตรามาจากความต้องการของสังคม โดยให้ท่านเป็นผู้นำไปใช้ แต่ท่านไม่ใช้ ไม่ทำ และทีท่านทนยืนทนสูดควันดำอยู่กลางถนน ประชาชนก็คิดได้ว่า อ้อ.... ตำรวจจมูกเหล็ก เลยทนได้

           

 

 

หมายเลขบันทึก: 103754เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2007 22:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2012 02:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

วันหน้าจะได้เข้ามาอ่านและใช้ข้อมูลครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท