จากพระราชนิพนธ์เรื่อง "ไกลบ้าน" ตอนหนึ่งความว่า
ในคราวนั้นเสด็จพระราชดำเนินลงเรือชื่ออัลเบียน จากท่าเรือเมืองเบอร์เก้นเมืองท่าใหญ่ด้านทิศตะวันตกของประเทศนอรเวย์ไปยังเมืองเบรวิก และเสด็จฯโดยรถไฟไปยังเมืองสกีน จากเมืองสกีนเสด็จฯลงเรือกลไฟชื่อวิกตอเรีย เดินเรือผ่านทะเลสาบขึ้นไปในระดับความสูง ๓ ระดับด้วยกัน เมื่อจะเปลี่ยนระดับน้ำเรือต้องเข้าไปในช่องระหว่างประตูน้ำ ๒ ด้าน แล้วปล่อยน้ำจากด้านสูงลงไป เมื่อได้ระดับจึงเปิดประตูให้เรือแล่นออกมา ลองนึกภาพดูว่ากว่าจะถึงตำบลโนโตดเดนซึ่งอยู่ด้านเหนือสุดของทะเลสาบนอร์ดเซอ ต้องใช้เวลาเสด็จฯระหกระเหินถึง ๖ วัน โดยวันสุดท้ายต้องเสด็จฯโดยรถ ซึ่งทรงเล่าว่า“...หนทางเป็นโคลนเฉอะแฉะไปหมดทั้งนั้น น่ากลัวรถจะลื่น พ่อออกคร้ามๆ ดูมันน่ากลัวจะเลยลงไปในช่องเขา...ถ้าขึ้นสูงทีไรต้องใช้ถึงเกียร์ ๑ และเปิดเต็มแรงจนลั่นตูมๆ ออกจะน่ากลัวอันตราย ควันขึ้นกลุ้มๆแต่กระนั้นแห่งหนึ่งที่สูงชัน คนขับเผลอไปไม่ได้ลดเกียร์ ๑ ...ตกลงต้องลงเข็นส่งขึ้นไปถึงยอด มีติดจริงๆ อยู่แห่งเดียวเท่านั้น นอกจากนั้นก็มาได้แต่เขย่าขย่อนเหลือกำลัง ฟัดโงกเงกกันมาจนตลอดทาง...”
ต้องทนทรมานพระวรกายมาเพื่อทอดพระเนตรโรงงานนี้เพื่ออะไรถ้าไม่ใช่เพื่อความสมบูรณ์พูนสุขของประเทศชาติและประชาชนชาวไทย การที่ได้ทรงรู้มาก...เห็นมาก ในความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการสมัยใหม่ เพื่อจะได้ทรงนำมาพัฒนาประเทศชาติให้เจริญทัดเทียมอารยประเทศ ระหว่างวันที่ ๕-๑๕ มิถุนายน ๒๕๕๐ นับเป็นโอกาสดีที่ผมได้เดินทางร่วมกับคณะกรรมการคุรุสภาและกรรมการมาตรฐานวิชาชีพไปศึกษาดูงานด้านการศึกษาและองค์กรวิชาชีพครูในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย สแกนดิเนเวีย” ชื่อที่เรียกขานดินแดนสี่ประเทศของยุโรปเหนือ แดนประวัติศาสตร์และที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ร่วมกัน โดยมีแหลมสแกนดิเนเวียเป็นแกนกลาง ดินแดนนี้คือที่ตั้งของประเทศเดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน ซึ่งมีพื้นที่รวมกัน ๑,๑๕๕,๐๐๐ตารางกิโลเมตร โดยมีพื้นที่ประมาณ ๑ ใน ๓ ของพื้นที่ทั้งหมดตั้งอยู่แถบขั้วโลกเหนือ
ผู้ที่ผ่านมาท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียจะประจักษ์ได้ว่าภายใต้ความหลากหลายของภูมิประเทศที่น่าประทับใจของดินแดนแห่งนี้ มีความคล้ายคลึงกันทั้งด้านทิวทัศน์และภูมิอากาศอีกทั้งยังมีประวิติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เหมือนกัน และสืบเนื่องกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี
ความคล้ายคลึงกันของวัฒนธรรมนี้ได้ช่วยหล่อหลอมให้ผู้คนในดินแดนแห่งนี้ดำเนินชีวิตในรูปแบบที่เหมือนกัน นั่นคือชีวิตตามแบบฉบับสแกนดิเนเวียมีชีวิตที่โชกโชนกับการต่อสู้ดิ้นรนกับอดีตที่ผ่านมา ซึ่งชาวสแกนดิเนเวียไม่ว่าจะเป็นชาวเดนมาร์กผู้รักเงียบขรึมและเก็บตัว ต่างก็มีความรู้สึกภาคภูมิใจในการเป็นชาวสแกนดิเนเวียเท่าเทียมกัน
ชาวสแกนดิเนเวียเป็นผู้ที่ชื่นชอบและรักความงามของธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเขาจะเก็บความรู้สึกเช่นนี้สะท้อนออกมาในความสมบูรณ์แบบของศิลปะและลวดลายของสแกนดิเนเวีย พวกเขาไม่เคยเบื่อในการแสวงหาความสงบร่มรื่นของธรรมชาติและชอบใช้ชีวิตอยู่อย่างชาวบ้านธรรมดาในกระท่อมฤดูร้อน หรือ ตามเนินทรายธรรมชาติที่ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าเขียวชอุ่ม หรือฝั่งไกลโพ้นของทะเลสาบในประเทศฟินแลนด์สแกนดิเนเวีย มีประชากรอาศัยอยู่เบาบางมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในยุโรป คือมีอัตราประชากรโดยเฉลี่ย ๑๕ คนต่อพื้นที่ ๑ ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศมีเทือกเขาที่ทอดยาวตลอดระหว่างประเทศนอร์เวย์และสวีเดน เปรียบดั่งเช่นกระดูกสันหลังของแหลมสแกนดิเนเวีย อีกทั้งยังมีที่ราบสูงและยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเลถึง ๒,๕๐๐ เมตร
ในประเทศสวีเดน ทางทิศตะวันตกของเมืองคิรุน่าจะมียอดเขาสูงที่มีธารน้ำแข็งปกคลุมอยู่ตลอดปี ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของฟยอร์ดต่าง ๆ ส่วนตามแนวฝั่งทะเลของประเทศนอร์เวย์ เดนมาร์ก และฟินแลนด์จะมีภูมิประเทศที่ราบเรียบกว่า โดยเดนมาร์กมีทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์เป็นส่วนใหญ่และฟินแลนด์ได้ถูกขนานนามว่าเป็นดินแดน ๑๐๐,๐๐๐ ทะเลสาบและป่าสน
สแกนดิเนเวีย เป็นดินแดนที่น่าท่องเที่ยวทั้ง ๔ ฤดู ในฤดูใบไม้ผลิท่านจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ปลอดโปร่ง อากาศบริสุทธิ์ที่ปราศจากมลพิษและเต็มไปด้วยดอกไม้พฤกษานานาพรรณ อีกทั้งผลไม้นานาชนิดของแถบขั้วโลกเหนือที่น่าตื่นตาตื่นใจ ส่วนในฤดูร้อนเป็นเวลาที่ดวงอาทิตย์จะฉายแสงอยู่เกือบตลอดทั้งวัน ซึ่งในแถบขั้วโลกเหนือและเขตอาร์กติคในระหว่างเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม จะเป็นเทศกาลพระอาทิตย์เที่ยงคืน ซึ่งดวงอาทิตย์จะไม่ตกลับตาไปเลย ฤดูนี้เป็นเวลาแห่งเทศกาลต่าง ๆ ทั้งศิลปะ การศึกษา การกีฬา ดนตรีลากรรื่นเริงต่าง ๆ ในฤดูใบไม้ร่วง สีสันตระการตาของใบไม้ต่าง ๆ จะเป็นที่รื่นรมย์ และแปลกตาแก่ผู้มาเยือนอย่างยิ่ง และเมื่อยามฤดูหนาวจะเป็นฤดูแห่งการกีฬาในฤดูหนาวโดยเฉพาะ เช่น สุนัขลากเลื่อน สโนว์โมบิล สกี สโนว์กอล์ฟ และที่ไม่ควรพลาดก็คือการไปเยี่ยมเยือนซานตาคลอสที่หมู่บ้านซานต้าในประเทศนอร์เวย์ ที่แหลมนอร์ทเคป และที่เมืองรากุนดาในประเทศสวีเดน ยังมีพลับพลาที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ เคยเสด็จประพาสมาแล้วตั้งอยู่ โดยพลับพลานี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ว่าพระองค์เคยเสด็จมายังสถานที่แห่งนี้มาแล้ว
สแกนดิเนเวีย เคยเป็นดินแดนแห่งเทพนิยายในอดีต นักเขียนที่โด่งดังชาวเดนมาร์กที่มีชื่อว่า ฮานส์ คริสต์เตียน แอนดอร์สัน ได้เขียนเทพนิยายสำหรับเด็ก ๆ ซึ่งเป็นที่เลื่องลื่อจนกระทั่งจุดประกายให้วอล์ท ดีสนีย์มีความคิดที่จะสร้างดีสนีย์แลนด์ที่สหรัฐอเมริกาในเวลาต่อมา นอกจากเทพนิยายแล้วประเทศเดนมาร์กยังมีเลโก้แลนด์ที่เมืองบิลลุนด์ที่ที่ท่านจะได้ชมตุ๊กตาโบราณและของเล่นเด็ก ๆ สร้างขึ้นด้วยตัวต่อเลโก้และสวนสนุกต่าง ๆ
สแกนดิเนเวีย ยังเป็นดินแดนแห่งยุคไฮเทคต่าง ๆ ในด้านโทรคมนาคม มีอู่ต่อเรือเดินสมุทรที่โอ่อ่ามโหฬาร อีกทั้งด้านแฟชั่นและสถาปัตยกรรมต่าง ๆ มากมาย สินค้าประเภทเครื่องใช้ในครัวเรือนและเฟอร์นิเจอร์สไตล์สแกนดิเนเวียยังเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่าทันสมัยและให้ความสะดวกสบายในการใช้ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่ง รวมถึงของน่ารักอย่างตุ๊กตากระเบื้องเคลือบของเดนมาร์ก เครื่องประดับสุภาพสตรีและบุรุษที่บางเฉียบสไตล์เรียบแต่หรู คริสตัลของสวีเดน และอื่น ๆ อีกมากมาย