"เรื่องจริง"......ภาค ๒


ขอนำ "เรื่องจริง"....ภาค ๒   ร้อยกรองมาฝากให้อ่านกันต่อ
เพื่อครบถ้วนกระบวนความตามที่บอกไว้ครับ

......................
 
เรื่องจริง ( ๒ )
-------------

พ่อขับรถ เลี้ยวไป เข้าในปั๊ม                 
เด็กเล็กย้ำ "ลุงเชิญเช็ด กระจกก่อน"
"ไม่ต้องหรอก ขอบใจนะ อย่าอาวรณ์"
พ่ออาทร ควักยี่สิบ ยื่นเด็กไป

ลูกถามพ่อ "ให้เขาไป ทำไมเล่า"
"ไม่เห็นเขา มาเช็ด กระจกให้"
ครั้นพ่อบอก ลูกก็ พอเข้าใจ
"เขาเช็ดให้ เท่ากับจ้าง เขานะซี"

"พ่อเห็นเขา อุส่าห์ มาทำงาน
น่าสงสาร ยังเป็นเด็ก เล็กอยู่นี่
ค่าแรงคง ไม่เท่าไร คิดให้ดี
เหตุฉะนี้ พ่อจึงได้ ให้เขาไง"

หลังบ้านมี มะม่วงดก ห้อยนอกรั้ว
เด็กหญิงตัว ผอมกะหร่อง มองอยากได้ 
บุกข้ามน้ำ ข้ามบึง ดึงเอาไป   
เก็บหวังให้ น้องเธอมี สามสี่คน

กระต๊อบเก่า ค่ำคร่า ที่อาศัย
ที่ผู้อื่น มิมีใคร ไหนเขาสน
มองของกิน เสาะหา ประสาจน
จึงดั้นด้น ดังว่า น่าเห็นใจ

แม่มาเห็น เด็กน้อย สอยมะม่วง
บอก"ไม่หวง ควรขอ รอก่อนไหม
เหลือติดต้น ผลแก่ค้าง บ้างเป็นไร
ที่เก็บแล้ว  ป้าให้ หนูหมดเลย"
            

"จ้ะ" เด็กเอ่ย รับคำ ตามแม่ขอ
แม่ไม่รอ เชื่อวจี ที่เธอเอ่ย
มะม่วงหาย มิได้เห็น เหมือนเช่นเคย
เด็กเสบย มีมะม่วง กินอีกนาน

แม่นั่งรถ สามล้อ จากปากซอย
บอกสามล้อ ให้คอย ที่หน้าบ้าน
กระหืดกระหอบ เข้าข้างใน ไปจัดการ
แม่คิดอ่าน เก็บเสื้อไว้ ให้สามล้อ  

พ่อถาม"เอา เสื้อผ้าไป ทำไรเล่า"
"แม่จะเอา ให้เขาไป ไงล่ะพ่อ
เสื้อผ้าเก่า ใส่เห็นรู ดูมอซอ"
และแล้วพ่อ ค้นให้ด้วย ช่วยกันไป

วันไหนเพิ่ม มื้ออาหาร ทานกันหนอ
แม่บอก"พ่อ ช่วยล้าง จานได้ไหม"
ลูกถามว่า "เราจะล้าง เองทำไม"
"คนล้างมี แล้วไง เราจ้างมา"

ลูกตัวน้อย ไม่เข้าใจ จึงได้ถาม
แม่ตอบความ เพื่อลด หมดกังขา
"เขาล้างให้ เราทุกมื้อ ทุกเวลา"
"ควรเมตตา เขาพักบ้าง ก็ยังดี"

แม่เอ่ยบอก แม่บ้าน ท่านเป็นห่วง
"หากกลางวัน เธอง่วง นอนได้นี่"       
"ฉันเองนั้น กลางวัน ง่วงทุกที"
ความอารี  อิ่มอาบ ซาบซึ้งใจ๚
  ...................................

ท่านที่อ่าน"เรื่องจริง"จบทั้งสองตอนแล้ว 
มีความคิดเห็นประเด็นใดเป็นการต่อยอดบ้าง เชิญตามอัธยาศัยครับ

...........................................................

หมายเลขบันทึก: 103335เขียนเมื่อ 14 มิถุนายน 2007 21:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอชี้แจงแถลงไขในการนำ"เรื่องจริง" ทั้ง 2 ตอน มาฝากให้อ่านก็ด้วยเห็นว่าสังคมไทยเราปัจจุบัน  ความเอื้ออารี มีน้ำใจต่อผู้ด้อยกว่า นับวันเหลือน้อยเต็มที เป็นสังคมที่ส่งเสริมความเห็นแก่ตัวมากขึ้นทุกวัน

เมื่อพบเห็น ได้ยินได้ฟังเรื่องดีๆ  จึงควรนำมาแบ่งบอกกล่าวให้ได้ชื่นอกชื่นใจกัน

จาก"เรื่องจริง"(๑)เราจะเห็นว่า ครอบครัวนี้  มีแม่และพ่อเป็นเยี่ยงอย่างให้ลูกได้เห็นในเรื่องความใจบุญสุนทานการรู้จักแบ่งปันเผื่อแผ่ตั้งแต่ต้น

 เข้าทำนอง  "ทำให้ดู อยู่ให้เห็น" อะไรปานนั้น

"แม่เพิ่มซอง หนึ่งไว้  ให้สามล้อ /ที่คอยรอ ถ่ายบาตรพระ สนับสนุน"
...เริ่มจาก...ความมีน้ำใจของแม่แก่สามล้อ

ภาพที่คุณยายหาบถั่วแระ หรือเก็บผักมาขาย  ยังคงมีให้เห็นอยู่บ้างตามตลาดในเมืองทั่วไป  การสนทนาระหว่างแม่กับยาย  ทำให้เราเห็นว่า ทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขายต่างฝ่ายต่างมีน้ำใจต่อกัน

"ยายบอกมัด ละสิบ หยิบตามใจ / ซื้อสามมัด ลดได้ อีกนะคะ"
แสดงว่า...ยายมีน้ำใจไม่เอาเปรียบลูกค้า...ไม่เหมือนแม่ค้าหน้าเลือด ปากจัด ในปัจจุบัน ครับ

แม่บอกว่า ไม่ต้องลด อีกแล้วค่ะ / หากขายหมด กลับบ้านไว ไงละจ๊ะ / ให้ใบละ ยี่(สิบ)สองใบไม่ต้องทอน"

แสดงถึง...ความห่วงหาอาทรของแม่ต่อยาย  เห็นนั่งขายหลังขดหลังแข็งทั้งวัน
...เลยหยิบยื่นให้ยาย 40 บาท...โดยไม่ต้องทอน(ทิป)

ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในสายตาผู้เป็นลูก  นับว่าเป็นการปลูกฝังความดีงามโดยไม่ต้องพร่ำสอนบอกกล่าวให้ยาวความ

ขอจบ"เรื่องจริง" ( ๑ ) ด้วยประโยคว่า "ความดีไม่มีขาย อยากจะได้ต้องทำเอง"

.........................................................................

 

สวัสดีค่ะ พี่ Augustman

 ตามมาอ่าน"เรื่องจริง"ภาค ๒  อ่านแล้วให้ข้อคิดดีมากค่ะ

ชอบประโยคที่ว่า "ทำให้ดู อยู่ให้เห็น" และ"ความดีไม่มีขาย อยากจะได้ต้องทำเอง" 

ขอบคุณมากค่ะพี่ :D

 

สวัสดีครับ   น้องนุภา
................................

เรื่องจริงคิดคนึงจึงมาฝาก
ซึ้งใจมากเมื่อคนดีมีให้เห็น
ท่ามสังคมนิยมเงินเกินจำเป็น
สำนึกเน้นมุ่งอำนวยช่วยเติมเต็มฯ


ขอบคุณ น้องนุภามากที่แวะมาชื่นชม ครับผม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท