โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ นครสวรรค์ มีบุคลากรทำหน้าที่ให้คำปรึกษาเป็นทีมใหญ่ โดยเกิดจากแนวนโยบายของท่านผอ.ศูนย์ ฯ สมัยเป็นผอ. รพ. ท่านพัฒนาบุคลากรเกือบ 100 % ให้มีทักษะพื้นฐานการให้คำปรึกษา เพื่อนำมาใช้ในการบริการ เช่น ทักษะการฟังอย่างตั้งใจ การเห็นอกเห็นใจ และมีการมอบหมายให้ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาก่อนการตรวจวินิจฉัยโรค ให้รับการอบรมฟื้นฟูทุกปี เพื่อฝึกฝนทักษะอย่างต่อเนื่อง
จากการประชุมทีมวิทยากรอบรมฟื้นฟูการให้การปรึกษาโรคเอดส์วันนี้ เจ้าภาพ คือ งานแม่และเด็ก กลุ่มงานพัฒนาวิชาการส่งเสริมสุขภาพ บรรดารุ่นพี่วิทยากรมือเก่ามานั่งฟังรุ่นน้องวิทยากรมือใหม่ ให้การสนับสนุนน้องเต็มที่ เพื่องานนี้จะเป็นเวทีแรกที่ทีมวิทยากรของศูนย์ฯ ได้ฝึกฝีมือ ฝีปากกัน ถ้าผ่านก็อาจมีโอกาสบินทะยานสู่เวทีระดับจังหวัด ระดับเขต ซึ่งเป็นความฝัน ประมาณ Dream Team
ตัวดิฉันด้วยนิสัยคิดใหญ่ เลยเสนอให้มีชั่วโมงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การใช้ทักษะการให้การปรึกษา แทนที่จะเป็นการสอนบรรยาย เพราะทุกคนเป็นผู้ให้คำปรึกษา ผ่านการอบรมฟื้นฟูหลายครั้ง น่าจะมีเรื่องเล่าพอที่จะแลกเปลี่ยนและต่อยอดกันได้ พอเตรียมประเด็นพูดคุย ทำใหดิฉันเข้าใจตัวเองว่า ความรู้จริงในกระบวนการ KM ยังมีน้อยจนไม่มั่นใจ ก่อนหน้านี้ตั้งใจจะขอคำแนะนำจากคุณหมอก้องหรือน้องที่ไปอบรมมา แล้วก็เดินหน้าใช้เลย แบบมวยวัด
ที่จริงก็เคยเป็น FA ในกระบวนการพัฒนาคุณภาพ HA มาแล้ว แต่ก็นานจนขาดความมั่นใจ ยิ่งผ่านการสั่งสอนจากอาจารย์มาว่า...ถ้าไม่รู้จริงอย่ามั่ว สุดท้ายด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานา สอนหลายหัวข้อบ้าง เป็นวิทยากรสาธิตบ้าง เลยขอความช่วยเหลือจากทีม ก็ได้รับความเมตตาจากพี่เจ้าของงานรับเป็นวิทยากรหลักในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
งานนี้หนีได้ แต่งานหน้าถ้ามีโอกาสได้พัฒนาความรู้ ประสบการณ์ KM หลาย ๆ บทบาท ก็จะพยายามสู้ ๆ ค่ะ
DAENG...D
สวัสดีค่ะ
มาเยี่ยมและให้กำลังใจค่ะ
ขอบคุณอจ.หมอนน เพื่อนร่วมทางมากค่ะ ขออนุญาตเป็นศิษย์นะคะ เพราะตอนนี้ยังไม่เป็นจระเข้เลย ดูจะคล้ายเป็ดมากกว่า
ได้รับทั้งกำลังใจและความรู้ วันนี้จะนำไปบอกพี่ Fa ให้ลองปรับดูค่ะ เพราะที่คุยกันก็ใช้คำ "ความสำเร็จ" "ความล้มเหลว" ใช่เลยค่ะ ยังคิดอยู่ว่า ถ้ามีแต่ล้มเหลว จะกระตุ้นให้ช่วยกันคิดแนวทางพัฒนาได้หรือเปล่า ครั้งนี้เป็นการอบรมผู้ให้การปรึกษาก็คงใช้ "สรุปความรู้ที่ท่านได้จากการใช้ทักษะการให้การปรึกษา"
และได้ประเด็นเพิ่มที่น่าสนใจ คือ ในทีมวิทยากรมือใหม่ก็น่าจะมี BAR และการ ลปรร. เรื่อง "สรุปความรู้ที่ท่านได้จากการเป็นวิทยากรให้การปรึกษา"
แล้วจะมารายงานผลให้ทราบค่ะ
DAENG...D
คุณ sasinanda
ดีใจมากค่ะที่ให้เกียรติมาทักทายลูกเป็ดขี้เหร่
ขอบคุณกำลังใจค่ะ จะพยายามพัฒนาตัวเองให้ขี้เหร่น้อยลงเรื่อย ๆ ค่ะ
ตามไปอ่านบันทึกที่อจ.หมอนนได้แนะนำไว้แล้ว ได้ทั้งความรู้ แถมพกความรักมาด้วยค่ะจาก http://gotoknow.org/blog/beyondkm/103044
แว่บแรก...สงสารเป็ดที่ถูกพาดพิง
ถ้าเราจำเป็นต้องทำงานหลายอย่างทั้งที่ไม่เชี่ยวชาญจริงเลยสักอย่าง ควรหัดปล่อยวาง หยุดทะเลาะกับตัวเองให้ได้ก่อน รวบรวมสติ ลอยตัวเหนือผิวสัมผัสต่าง ๆ อย่างนิ่ง ๆ เหมือนเป็ดลอยน้ำ แล้วค่อยว่ายต่อ
สุดท้ายได้คำตอบเหมือนที่คิดไว้ค่ะ คือ ถ้าชวนให้คิดถึงความภาคภูมิใจจากสิ่งที่ได้รับในการปรึกษา แล้วคิดไม่ออกเพราะงานนี้ไม่ใช่งานประจำ นาน ๆ จึงจะได้รับมอบหมาย ทักษะอาจไม่พอที่จะทำให้เกิดความภาคภูมิใจ
ถ้าเรื่องที่เล่ามีแต่ความลำบาก อึดอัดใจ ยุ่งยาก หรือปัญหา คงจะชวนให้ช่วยกันคิดถึงการแก้ไขปัญหา รับฟัง สุดท้ายการตระหนักถึงคุณค่าของงาน การให้กำลังใจซึ่งกันและกัน น่าจะนำไปสู่การเรียนรู้ร่วมกันได้ เหมือนใน G2K
ขอบคุณอจ.ที่ให้โอกาสค่ะ
DAENG...D
หนูรู้ว่าพี่ทำได้ เพียงแค่พี่ลดความกังวลและอย่าคาดหวังว่าครั้งแรกต้องสมบูรณ์แบบ 100 % เพราะชีวิตต้องเรียนรู้นะตัวเอง....ไม่มีใครเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบน่ะ
โดยปกติไม่เคยได้เข้ามาดูอะไรทางเว็ปต่างๆ แต่วันนี้มีโอกาสดีที่ได้ลองมาศึกษาว่า การเข้าgotoknow เป็นอย่างไร ก็มาอ่านพบ ลูกเป็ดตัวนี้เข้าให้ ได้เห็นฝีมือแล้ว อย่าถ่อมตัวไปหน่อยเลย เพียงแต่ให้ลดความกดดันในตัวเองให้น้อยลง แล้วจะมีความสุขกับการเป็นวิทยากรค่ะ
ไม่ได้เข้ามานานมากกกกกกกกกกค่ะ แวะเวียนมาอ่าน แต่ไม่ได้เขียนเลย รู้สึกแย่พอสมควร การเรียนรู้ช่วงนี้ ได้แต่แลกเปลี่ยน ไม่ค่อยได้บันทึกการเรียนรู้ เพราะหมดแรง
วันนี้เปิด blog ของตัวเองก่อน หลังผ่านการระบายความเครียดจากการกระทบกระทั่งในงานให้เจ้านายฟัง
เป็นฟ้าหลังฝนค่ะ เพราะอ่านแล้วก็ต้องขอบคุณทุกกำลังใจ กัลยาณมิตรทุกคนที่ทำให้เราต้องหยุด แล้วมองตัวเองซ้ำ ๆ ว่า ความคาดหวังสูงทำให้เราประเมินเรื่องที่เข้ามากระทบว่าไม่ถูก ไม่ใช่ ไม่ได้ แม้แต่กับตัวเอง
จะพยายามยอมรับเชื่อมั่นว่าเราทำได้ และไม่มีใครดีที่สุดค่ะ
DAENG