GotoKnow

มาทำความเข้าใจร่างพรบ.ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและอัธยาศัย พ.ศ. .. กันเถอะ

ดร. ดิศกุล เกษมสวัสดิ์
เขียนเมื่อ 12 มิถุนายน 2550 14:54 น. ()
แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2555 10:31 น. ()

Roadshow(ร่าง) พระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย พ.ศ. ....               

 คำถาม : มีพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติอยู่แล้ว ทำไมต้องมี (ร่าง) พระราชบัญญัตินี้อีก

คำตอบ : พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติวางหลักการจัดการศึกษาไว้ว่าเป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน  และเน้นกระบวนการจัดการศึกษาที่ยึดหลักการมีส่วนร่วมของสถาบันสังคมทุกภาคส่วน แต่หลักการดังกล่าวนี้ขาดมาตรการเชิงกฎหมายที่จะผลักดันให้เกิดผลในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการบริหารและการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (ร่าง) พระราชบัญญัตินี้จึงบัญญัติขึ้นเพื่อหนุนเสริมให้หลักการดังกล่าวนำไปสู่การปฎิบัติที่มีความชัดเจน และหวังผลได้ว่าประชาชนได้รับการศึกษาอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตจริง 

คำถาม : ประชาชนและรัฐจะได้ประโยชน์อะไรจาก (ร่าง) พระราชบัญญัตินี้

คำตอบ: ประชาชนจะมีโอกาสและทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้นในการรับบริการการศึกษาที่สอดคล้องกับ ความต้องการ ศักยภาพ และวิถีชีวิตของแต่ละบุคคล เนื่องจากสถาบันสังคมต่างๆ จะเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้นการจัดการศึกษาอย่างกว้างขวางตามแนวทางที่ (ร่าง) พระราชบัญญัตินี้กำหนดไว้                รัฐจะประหยัดทรัพยากรการลงทุนต่อหน่วยประชากรอย่างสมเหตุสมผล สามารถบรรลุเป้าหมายการยกระดับการศึกษา/ การเพิ่มจำนวนปีการศึกษาเฉลี่ยของประชากรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศรวมทั้งการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ซึ่งจะบรรลุเป้าหมายในระยะเวลาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากการมีส่วนร่วมของสถาบันสังคมต่างๆ อย่างกว้างขวางตามแนวทางที่ (ร่าง) พระราชบัญญัตินี้กำหนดไว้ (สถาบันสังคมต่างๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมย่อมมีทรัพยากรในลักษณะต่างๆ อยู่แล้วจำนวนหนึ่ง ซึ่งโดยความน่าจะเป็นแล้ว (ในภาพรวม) ย่อมจะมีมากกว่าส่วนที่รัฐให้การสนับสนุน) 

คำถาม:การบริหารและการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ (ร่าง) พระราชบัญญัตินี้เป็นอย่างไร จะขัดแย้งกับการบริหารในรูปแบบของเขตพื้นที่การศึกษาและหลักการกระจายอำนาจหรือไม่ อย่างไร

คำตอบ: - ในระบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กำหนดให้มีผู้เกี่ยวข้องโดยมีบทบาทหน้าที่ที่ชัดเจน ประกอบด้วยผู้เรียน ผู้จัดการเรียนรู้ และผู้ส่งเสริมสนับสนุน                - ระบบการบริหารจัดการองค์กรเพื่อบริหารจัดการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยได้กำหนดโครงสร้างองค์กรที่เน้นความมีเอกภาพด้านนโยบาย การมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ และความมีประสิทธิภาพในการนำนโยบายสู่การปฏิบัติโดยสวมทับลงบนโครงสร้างองค์กรที่มีอยู่เดิมทั้ง 3 ระดับ (ส่วนกลาง ระดับจังหวัด และระดับสถานศึกษา) ประกอบด้วย คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (มีเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเป็นกรรมการและเลขานุการ) สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด และสถานศึกษา (ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย)                - ไม่ขัดแย้งกับการบริหารในรูปแบบของเขตพื้นที่การศึกษา แต่ยิ่งกลับส่งเสริมสนับสนุน เพราะโดยบทบาทหลักของเขตพื้นที่การศึกษาคือการดูแลจัดการที่เน้นหนักที่การศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะรูปแบบการศึกษาในระบบตามที่บัญญัติไว้ในกฎหมายหากแต่ว่าการให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายที่อยู่นอกระบบโรงเรียน ยังมีความจำเป็นและความต้องการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่จัดในรูปแบบการศึกษานอกระบบ  และการจัดการศึกษาทางไกล ซึ่งเป็นการจัดการศึกษาที่ให้บริการในหลายเขตพื้นที่การศึกษา ที่ปรากฏอยู่จริงในปัจจุบันเป็นการดำเนินการโดยสถานศึกษาการศึกษานอกโรงเรียนเป็นหลัก ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเสริมการบริหารและการจัดการของเขตพื้นที่การศึกษาตามมาตรา 37 (2) และ (4) ของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 นอกจากนี้สถานศึกษาการศึกษานอกโรงเรียนไม่ได้จัดการศึกษาเฉพาะการศึกษาขั้นพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังจัดการศึกษาในลักษณะอื่นๆ ด้วย ในลักษณะของการฝึกอบรมหรือที่เรียกว่าการศึกษาต่อเนื่องซึ่งจัดในรูปแบบการศึกษานอกระบบที่ไม่ได้ แบ่งระดับชั้น และการศึกษาตามอัธยาศัยอีกด้วย รวมทั้งจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ใช้ชุมชนเป็นฐานในรูปแบบที่หลากหลายและบูรณาการด้วย                - ไม่ขัดแย้งกับหลักการกระจายอำนาจ แต่ยิ่งส่งเสริมสนับสนุนการกระจายอำนาจเพราะมีบทบัญญัติที่ชัดเจนในการให้สถาบันสังคมทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม มีสิทธิ และหน้าที่ในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้แก่กลุ่มเป้าหมายของตน ไม่ผูกขาดอยู่เฉพาะสถานศึกษาเท่านั้น เพื่อเป็นการสร้างเจตนารมณ์ที่ชัดเจน (ร่าง) พระราชบัญญัตินี้ได้บัญญัติให้ หลักการกระจายอำนาจแก่สถานศึกษา เป็นหลักการที่ต้องยึดถือปฏิบัติในการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประการหนึ่งด้วย 

คำถาม: การมี (ร่าง) พระราชบัญญัตินี้จะก่อให้เกิดผลลัพธ์และผลกระทบที่สำคัญอย่างไร

คำตอบ: ผลลัพธ์               

- ผู้เรียน ในฐานะเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้และสามารถเลือกรับบริการได้หลากหลายตามความต้องการของแต่ละบุคคล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนทุกเพศ ทุกวัยจะได้รับบริการการศึกษา (โดยเฉพาะการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย) ในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นอย่างมาก (โดยปรกติแล้วเฉพาะที่สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียนจัดเองเป็นหลัก สามารถจัดบริการการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยได้รวมกันปีงบประมาณละประมาณ 18-19 ล้านคน : การศึกษานอกระบบประมาณ 4.9 ล้านคน และการศึกษาตามอัธยาศัยประมาณ 13.8 ล้านคน) ซึ่งเป็นการสร้างความเสมอภาค/ความเป็นธรรมในการได้รับโอกาสทางการศึกษาให้แก่ประชาชนได้อย่างกว้างขวางมากขึ้น               

- ผู้จัดการเรียนรู้ จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างกว้างขวาง โดยกระจายครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และมีหลากหลายภาคส่วน นอกเหนือจากสถาบันการศึกษาแล้ว ภาครัฐ ภาคเอกชนและชุมชนก็มีส่วนร่วมมากขึ้นซึ่งจะส่งผลให้สังคมมีความตื่นตัวในการมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษามากยิ่งขึ้น               

 - ผู้ส่งเสริมสนับสนุน โดยเฉพาะสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียนจะมีความคล่องตัวและศักยภาพในการปฏิบัติภารกิจการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการยกฐานะขององค์กรจาก สำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน เป็นสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย               

- สังคม จะพัฒนาไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ที่กว้างขวางและเป็นไปในอัตราที่รวดเร็วยิ่งขึ้น อันเนื่องมาจากประชาชนมีโอกาสได้รับการศึกษากว้างขวางทั่วถึงมากขึ้น และผู้จัดการเรียนรู้ (ผู้จัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย) มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างกว้างขวางทุกภาคส่วนของสังคม               

 - ประเทศ จะประกอบไปด้วยประชากรที่มีคุณภาพ (มีการศึกษา มีศักยภาพในการผลิตในเชิงเศรษฐกิจและมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพราะประชากรของประเทศได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึงและต่อเนื่องตลอดชีวิต ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศมีศักยภาพ/ขีดความสามารถในการแข่งขันและการพัฒนาโดยรวมเพิ่มมากขึ้น               

ผลกระทบ               

 - รัฐ อาจจะต้องลงทุนทางการศึกษาเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการจัดสรรทรัพยากรและสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ที่มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กล่าวคือ

ผู้เรียนจะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อการศึกษา ได้รับการสนับสนุนสื่อและเทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ และสำหรับผู้พ้นวัยการศึกษาภาคบังคับแล้วแต่ยังไม่จบการศึกษาขั้นพื้นฐานจะได้รับการสนับสนุนเป็นค่าใช้รายบุคคล

ผู้จัดการเรียนรู้จะได้รับการสนับสนุนเงินอุดหนุนในการจัดการศึกษา การพัฒนาวิชาการ การพัฒนาบุคลากร การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเรียนรู้ ภาคีเครือข่ายที่มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยทุกภาคส่วนจะได้รับการจัดสรรทรัพยากรและเข้าถึงแหล่งเงินทุน และ

ผู้ส่งเสริมสนับสนุนจะได้รับการจัดสรรทรัพยากรเพิ่มขึ้นบางส่วนอันเนื่องจากการยกฐานะขององค์กรจากสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียนเป็น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย                - การปรับโครงสร้างองค์กรสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียนใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการและเป้าหมาย และการบริหารและการจัดการที่กำหนดไว้



ความเห็น

ammy
เขียนเมื่อ

ขอบคุณนะค่ะที่นำRoadshow(ร่าง) พระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มาลงให้เหล่ากศน.และทุกๆคนทราบถึงความก้าวหน้า ในการร่างพระราชบัญญัติ  เนื้อหาเยอะมากเลย 

 

นายเสน่ห์ อุ่นนาวงษ์ ศบอพนมสารคาม
เขียนเมื่อ

          ขอบคูณมากครับที่นำความรู้ร่างพรบ.ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กฎหมายผ่านสภา แล้วคงเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างสูง  องค์กรกศน. ก็จะทำงานอย่างเต็มที่ พราะมีกฎหมายรองรับในการทำงานครับ

นภัส
เขียนเมื่อ

พระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศํย นับว่าเป็นอีกก้าวหนึ่งของ การศึกษษนอกระบบที่มีกฎหมายมาเป็นแนวทางและดำเนินการอย่างชัดเจน

นางสาววราภรณ์ ทรัพย์ศฤงศิริ
เขียนเมื่อ

    ขอบคุณสำหรับข่าวสารประชาสัมพันธ์   บุคลากรทาง กศน. ควรมีความรู้เกี่ยวกับการร่าง  พรบ.การศึกษา เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่

    การเป็น ครู  ควรจะรอบรู้ทุกเรื่องที่ทันสมัย

นลินทิพย์ สังข์เจริญ ศบอ.แปลงยาว
เขียนเมื่อ

รับทราบค่ะ 

ขอบคุณ สำหรับเนื้อหาความเข้าใจร่าง พรบ. ส่งเสริมการศึกษานอกระบบฯ

รุ้งระพี
เขียนเมื่อ

ขอบคุณสำหรับความรู้ที่ท่าน ผอ.ได้ถ่ายทอดให้กับพวกเราค่ะ

คนนอกโรงเรียน
เขียนเมื่อ

ประเทศไทยมีประชากร 60 กว่าล้านคน อยู่ในระบบการศึกษาประมาณ 20 กว่าล้านคน อีกประมาณ 40 กว่าล้านคน คือคนส่วนใหญ่ในประเทศ ซึ่งยังมีผู้ขาดโอกาส ผู้พลาดโอกาส และผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา ขอสนับสนุน พ.ร.บ. ส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อการจัดการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับปวงชน.และการนำไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ และการพัฒนาประเทศสืบไป

H5N1
เขียนเมื่อ

ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆที่หามาให้นะคะ

 

ผู้ก่อการดี
เขียนเมื่อ

ขอขอบคุณคะสำหรับความรู้ยังอ่านไม่หมดจะทยอยอ่านเรื่อยๆ

เด็กบ้านสามขา
เขียนเมื่อ

ขอบคุณนะค่ะที่นำRoadshow(ร่าง) พระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย มาลงให้เหล่ากศน.และทุกๆคนทราบถึงความก้าวหน้า ในการร่างพระราชบัญญัติ  เนื้อหาเยอะมากเลยยังอ่านไม่หมดจะทยอยอ่านเรื่อยๆ สำหรับความรู้ดี ๆที่หามาให้ 

สายน้ำ
เขียนเมื่อ

ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบทุกอย่าง  ขอขอบคุณ…ที่อุดช่องโหว่ให้สมบูรณ์ขึ้น  และขอขอบคุณผอ.ดิศกุลที่ช่วยให้ความรู้ทำให้เข้าใจร่าง พรบ. ได้ดียิ่งขึ้น   

ขอบคุณทุกท่านที่มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ

ลูกหมู
เขียนเมื่อ

ขอขอบคุณสำหรับความรู้เรื่อง ร่าง พรบ.การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งเป็น พรบ.ที่คน กศน.จำเป็นต้องรู้ 

สิ่งใดที่ทำเพื่อประชาชนและให้ประชาชนมีส่วนร่วมสิ่งเหล่านั้นย่อมเกิดผลดีแน่นอน

     หากการดำเนินการในการจัดการศึกษาเป็นหน้าที่หลักของผู้ที่เกี่ยวข้องกับแวดวงการศึกษาทุกหน่วยงาน  ขอให้เห็นประโยชน์แก่พี่น้องประชาชนเถิด   แล้วจะก่อเกิดความมีสุข......  

เด็กดอยอมก๋อย เชียงใหม่
เขียนเมื่อ

ระบบการทำงานของศบอ.อมก๋อย เชียงใหม่ เป็นการทำงานที่ประจบสอพอกับผอ.ศบอ.อมก๋อย ข้าพเจ้ารู้สึกว่า"การทำงานในครั้งมีการแบ่งสรรปันส่วนเปอร์เซ็นต์ เช่น งบซ่อมแซมศศช.มีการกินเป็นทอดๆ และผอ.อมก๋อยไม่มีความยุติธรรมต่อครูผู้สอน"ข้าพเจ้าจึงอยากให้ท่านช่วยประสานงานผ่านทางการพัฒนาการศึกษานอกระบบแทนข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจึงอยากให้ผู้บริหารระดับสูงช่วยมาดูแลตรงจุดนี้ด้วย

ขอบคุณทุกท่านครับ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย