"เส้นทางแม้ว่าจะเอื้ออำนวย และมีโอกาส แต่หากขาดวาสนา หรือความรู้ความสามารถที่แท้จริงก็คงไม่ได้เป็น"
ประเทศไทย เป็นประเทศที่กำลังพัฒนาพยายามจะนำระบอบประชาธิปไตยมาบริหารประเทศ แต่ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เราจำความกันได้มาจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยมีการล้มลุกคลุกคลานกับการบริหารประเทศ ด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร ด้วยเหตุผลกลใดไม่ขอเอื้อนเอ่ย แม้อดีตจะเป็นบทเรียน แต่ก็ไม่สามารถเรียนรู้ได้หมดเสมอไป
ปัจจุบัน จากเหตุการณ์ปฏิวัติโดยกลุ่มทหารที่เรียกตนเองว่า "คมช"(แปลตามสบาย) แล้วได้มีการจัดตั้งรัฐบาลขิงแก่ มาบริหารประเทศชั่วคราวพร้อมทั้งพยายาม "ร่างรัฐธรรมนูญ" โดยการใช้สโลแกน ร่วมคิด ร่วมร่าง ร่วมสร้างรัฐธรรมนูญ เพื่อให้มีการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม ศกนี้ ซึ่งหากรัฐธรรมนูญปี 2550 ผ่านสภาฯรับรองได้ว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มีราคาแพงที่สุดที่ประเทศไทยมีมา
เหตุการณ์ต่างๆหลังการปฏิวัติ ได้ปรากฎขึ้นเป็นขั้นเป็นตอนที่สำคัญๆอย่างชัดเจน 2 ประเด็นใหญ่ๆ (ไม่รวมประเด็นดีอดีตนายกทักษิณฯ)
1. มีการประท้วงและสดงความคิดเห็นอย่างรุนแรงในการร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะกรณีที่ชาวพุทธศาสนาออกมาเรียกร้องให้ "บรรจุพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ"
2. คดียุบพรรคไทยรักไทย พร้อมคณะกรรมการบริหาร 111 คนถูกสั่งห้ามเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีความผิด โดยคำพิพากษาของตุลากรรัฐธรรมนูญ
จากเหตุการณ์คดียุบพรรคไทยรักไทยดังกล่าว สถานการณ์ทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ได้เปรียบทางกรเมืองทันที นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เริ่มมีเส้นทางสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปทันที จนเกิดการกระแซะว่าหัวหน้าพรรคฯ ท่านนี้ยังหน่อมแน้มไม่เหมาะสม ประเด็นนี้ก็ชื้ให้เห็นลางๆว่า "เส้นทางแม้ว่าจะเอื้ออำนวย และมีโอกาส แต่หากขาดวาสนาหรือความรู้ความสามารถที่แท้จริงก็คงไม่ได้เป็น"
ท่านเป็นเจ้าของประเทศ ท่านเป็นคนไทย และเหตุการณ์บ้านเมืองยังไม่นิ่ง การทำกิจกรรมทางการเมืองยังไม่ชัดเจน มา ณ วันนี้ท่านอยากได้ใครเป็นนายกฯ และคุณสมบัติอย่างไร และบรรดาหัวหน้าพรรคฯทั้งหลายในเมืองไทยเหมาะสมหรือไม่ ?