ชีวิตที่พอเพียง : 293. สวมหมวกหลายใบ


         เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พรรคพวกที่ที่ทำงานของผมเอาบทความใน นสพ. สยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ มาให้อ่าน และบอกว่า "สัปดาห์หน้ารูปอาจารย์จะได้ลงหนังสือพิมพ์"     เพราะบทความนี้เขียนเป็นตอนๆ ตอนที่ ๒ ลงรูปท่านรองนายกไพบูลย์     ตอนที่ ๓ ลงรูป ศ. นพ. ประเวศ วะสี     เขาทำนายว่าตอนที่ ๔ จะลงรูปผม     แล้วเราก็เฮฮากัน

         วันนี้ (๒๙ พ.ค. ๕๐) ได้รับสำเนาบทความ นั้นตอนที่ ๔     ลงรูปผมจริงๆ      ผู้เขียนใช้นามปากกาว่า บดินทร์ ลิมปพัทธ์    ในคอลัมน์ "จี้จุด"  ชื่อเรื่อง "กองทุนสนับสนุนการพัฒนาสังคม 3 พันล้านบาทต่อปีเพื่อใคร?"     เป็นบทความตั้งข้อสงสัยกองทุนใหม่ที่จะเกิดขึ้น     โดยเอากรณีกองทุน สสส. มาเป็นข้อโจมตี ว่าการดำเนินการไม่โปร่งใส     มีการดำเนินการโดยคนกลุ่มเดียวแบบที่เรียกว่า "ผลประโยชน์ทับซ้อน"      และตัวผมก็เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยอย่างเต็มที่     แก้ตัวไม่ได้เลย หากจะมองแบบง่ายๆ ว่าในการทำงานต้องไม่มี ผลประโยชน์ทับซ้อนเลย แม้ชนิดที่ภาษาวิชาการด้าน CoI (Conflict of Interest) เรียกว่า Potential Conflict of Interest

          นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ของบันทึกนี้     ประเด็นสำคัญอยู่บทความตอนที่ ๔ ซึ่ง "จี้จุด" ที่ตัวผม     และบอกว่าผม "สวมหมวกถึง ๓ ใบ"     ที่เมื่อคณะทีมงานที่ สคส. ได้อ่านแล้วก็เฮฮากัน     ว่าโชคดีที่คุณบดินทร์ ลิมปพัทธ์ ไม่รู้รายละเอียดของผม     ไม่ได้อ่าน บล็อก Gotoknow ที่ผมเคยลงบันทึกไว้ว่าผมทำงานให้แก่หน่วยงานต่างๆ เกือบ ๓๐ หน้าที่     พูดภาษาของบทความนี้ คือ "สวมหมวกเกือบ ๓๐ ใบ"      และที่สำคัญ เป็นหมวกที่ผมไม่เคยไปแสวงหา     แต่มีคนเอามาสวมให้เอง      ที่จะขอถอด เขาก็ขอร้องว่าอย่าเพิ่ง     และยังมีคนเอาหมวกมาขอร้องให้สวมเพิ่มขึ้นอีก

          ที่สำคัญคือ เกือบทั้งหมด เป็นหมวกที่สวมแล้วมีแต่ "หนักหัว" เป็นภาระ    มีน้อยมากที่ "หนักกระเป๋า" คือได้เงินตอบแทนด้วย     เท่ากับเป็นการสวมหมวกเพื่อทำประโยชน์ให้แก่สังคม    ผลประโยชน์ที่ได้ไม่ใช่อำนาจหรือผลตอบแทนเชิงวัตถุ     แต่เป็นผลตอบแทนทางใจ และทางสังคม

          มองอีกมุมหนึ่ง การ "สวมหมวกหลายใบ" นี้     เป็น "การทำประโยชน์ (ให้แก่สังคม) ทับซ้อน"      คือเมื่อได้ไปนั่งอยู่ในตำแหน่ง "กำกับดูแล" (Governance) หลายที่      ก็จะสามารถเชื่อมโยงเครือข่ายทางสังคม เพื่อการทำประโยชน์ต่อบ้านเมือง ได้ดียิ่งขึ้น

          แต่สำหรับผม     ตัวผลประโยชน์ที่ได้มากที่สุด คือการเรียนรู้      ผมมีโอกาสได้เรียนรู้จากคนเก่งๆ คนดี มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ

วิจารณ์ พานิช
๒๙ พ.ค. ๕๐

หมายเลขบันทึก: 101454เขียนเมื่อ 7 มิถุนายน 2007 14:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 มิถุนายน 2012 19:09 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • ดีใจจังเลยค่ะที่ไม่หมวกให้ใส่
  • ตอนนี้ใส่แต่งอบค่ะ
  • 555555
รู้สึกดีครับที่อาจารย์นำมาเขียน เพราะหากผมได้อ่านสยามรัฐสัปดาห์วิจารณ์ฉบับดังกล่าวคงจะนึกไม่ออกว่าจะอธิบายเขาอย่างไร  ได้ปัญญาจากอาจารย์จริงๆ 
  • เป็นประโยชน์มาก ที่ได้มีโอกาสเรียนรู้จากคนเก่งๆ คนดีๆ
  • ขอบคุณค่ะ
เป็นอุทาหรณ์ว่า "สื่อ"ไหนๆก็ไม่มีทางรอบด้าน และต้องใช้วิจารณญาณของเราเองให้มากๆจริงๆค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท