เพลงพิษฐาน: ความรักสนุก..แต่ยึดมั่นในศาสนา ..ของชาวสองพี่น้อง
จังหวัดสุพรรณบุรี
ผมได้ติดตามอ่านผลงานการค้นคว้าที่ยิ่งใหญ่ของคุณเอนก นาวิกมูล เรื่องเพลงพื้นบ้านต่างๆมาตลอด แต่เป็นการอ่านแบบผสมเล็กผสมน้อย จะหาซื้อหนังสือเพลงนอกศตวรรษอ่านซักเล่ม ก็หายาก
เมื่อวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๐ ได้ร่วมงานเสวนากันที่หอสมุดแห่งชาติ ถามคุณเอนก นาวิกมูล ท่านบอกว่ากำลังจัดพิมพ์ใหม่ ผมจะรอซื้อ ตอนนี้นำผลงานบางส่วนมาคุยกับเพื่อนๆชาวโกทูโนว์ของผมก่อน
คุณเอนก อธิบายว่า เพลงพิษฐาน (เพี้ยนมาจาก อธิษฐาน) เป็นเพลงที่ร้องโต้ตอบกันในโบสถ์ กล่าวเชิงอธิษฐาน มีเอกลักษณ์ ขึ้นต้นด้วยคำว่า “พิษฐานเอย.....” นิยมเล่นหน้าตรุษ สงกรานต์ มีพบกระจายตามที่ต่างๆ เช่น จังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ กาญจนบุรี สุโขทัย ราชบุรี อยุธยา
คุณเอนก หยุดตัวอย่างไว้เพียงเท่านี้ ผมเลยน้อยใจว่า ทำไมไม่มีจังหวัดสุพรรณบุรีของผมด้วย คงลืมไปละมั้ง
แต่พอมาติดตามอ่านผลงานประกอบการสัมมนาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของจังหวัดสุพรรณบุรี คุณเอนก ได้เขียนเรื่องเพลงพื้นบ้านในจังหวัดสุพรรณบุรีคุณเอนกบอกรายชื่อเพลงพื้นบ้านที่เคยร้องในจังหวัดสุพรรณบุรีไว้มากมายแต่ก็ยังคงไม่มีเพลงพิษฐาน
ผมจึงไปศึกษาค้นคว้าอย่างง่ายๆก็พบว่า ที่บ้านผม คืออำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ก็เคยเล่นเพลงพิษฐานกัน เนื้อเพลงผมจำได้ไม่ครบ ตรงไหนนึกไม่ออกหรือจำไม่แม่นก็ขอเติมให้เต็มเลยนะครับ เนื้อเพลงว่าดังนี้
ชาย พิษฐานเอย มือหนึ่งถือพาน พานดอกจอก
ลูกคู่รับ(น่าจะรับว่า) มือหนึ่งถือพาน พานดอกจอก
ชาย เกิดมาชาติใดแสนใด ขอให้ได้พวกบ้านกระบอก
ลูกคู่รับ(น่าจะรับว่า) พิษฐาน วานไหว้ ขอให้ได้ดั่งใจที่คิด พิษฐานเอย
หญิง พิษฐานเอย มือหนึ่งถือพาน พานปากกระจับ
ลูกคู่รับ(น่าจะรับว่า) มือหนึ่งถือพาน พานปากกระจับ
หญิง เกิดมาชาติใดแสนใด ขออย่าให้ได้พวกบางพลับ
ลูกคู่รับ(น่าจะรับว่า) พิษฐาน วานไหว้ ขอให้ได้ดั่งใจที่คิด พิษฐานเอย
ผมสันนิษฐานว่าเพลงนี้คงร้องกันในโบสถ์วัดท่าจัด(ตำบลบางพลับ) หรือไม่ก็วัดโคกเหล็ก(วัดร้างที่อยู่ตรงข้ามวัดท่าจัด อยู่ในตำบลหัวโพธิ์ไม่ไกลบ้านกระบอก) จากเนื้อเพลงนี้บ้านกระบอก เป็นชื่อหมู่บ้าน ส่วนบางพลับเป็นชื่อหมู่บ้านอีกหมู่บ้านหนึ่ง และเป็นชื่อตำบลหนึ่งในอำเภอสองพี่น้อง
นั่นแสดงว่า เพลงพิษฐานเคยร้องกันที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี
การแต่งกาย ชาย หญิง นุ่งโจงกระเบน สวมเสื้อ ห่มผ้าตามสมัยนิยม
อุปกรณ์ประกอบการแสดง ดอกไม้ (หรือมีพานด้วย)
วิธีการเล่น ผู้เล่นชักชวนกันเข้าไปร้องเพลงในโบสถ์ โดยนั่งคุกเข่าว่าเพลงพิษฐานเป็นเชิงขอให้ได้กับคนนั้นคนนี้ ขณะว่าก็พนมมือถือดอกไม้ไว้ด้วย คนอื่นช่วยเป็นลูกคู่ร้องรับ ไม่ต้องปรบมือ ในตำราหลักภาษาของอาจารย์กำชัย ทองหล่อ เล่าไว้ว่า เพลงพิษฐานใช้ร้องในยามสงกรานต์ หลังทำบุญสรงน้ำพระแล้ว ชายหนุ่มหญิงสาวก็พากันเข้าโบสถ์ ห่มผ้าสไบเฉียง มือถือพานดอกไม้ ฝ่ายชายเป็นผู้อธิษฐาน ขอให้ได้หญิงชื่อนั้นชื่อนี้(ในตัวอย่างของผมเป็นบ้านนั้นบ้านนี้) เป็นคู่ครอง ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายอธิษฐานหนี
กลอนเพลงพิษฐานเป็น กลอนเพลงสั้นๆ เปลี่ยนคำและสัมผัส ไม่กี่จุด มักเอาชื่อดอกไม้ต่างๆ มาตั้ง แล้วหาคำที่คล้องจองมารับ ดังตัวอย่างที่แสดงไว้
พิษฐานเอย มือหนึ่งถือพาน พานเอาดอก..........(O)O
ลูกคู่รับ ตั้งแต่ มือหนึ่งถือพาน พานเอาดอก..........(O)O
เกิดมาชาติใด(มักใช้คำว่าแสน หรือสมัยหรืออื่นๆที่เหมาะสม)....ใด
ขอให้ได้....(..OO)OO
ลูกคู่รับ พิษฐาน.............OO ให้ได้ดังใจที่..(คิด)...พิษฐานเอย
เพลงพิษฐาน แสดงให้เห็นว่าชาวไทยของเราถึงแม้จะรักสนุกกันอย่างไรก็ยังไม่ลืมพิธีกรรมทางศาสนา ยังยึดมั่นฝังลึกอยู่ในหัวใจของทุกคน ทุกข์ สุข สรรเสริญ นินทา มียศ เสื่อมยศ มีลาภ เสื่อมลาภคนไทยก็ระลึกถึงพระศาสนาอยู่เสมอ อย่างนี้ต้องบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญด้วยไหมนี่ แฮะๆอดเกี่ยวการเมืองไม่ได้อีกแล้ว
สวัสดีค่ะท่าน...พิสูจน์
ขอบคุณค่ะ..อาจารย์มีความมุ่งมั่นดีมากเลยค่ะ
ภูมิใจในเอกลักษณ์ของไทยครับ
อ.พิสูจน์
อธิษฐานเอย สองมือจับพาน พานดอกพิกุล
(ลูกคู่) สองมือจับพาน พานดอกพิกุล
จะเกิดมาชาติใด ฉันใด ขอให้ใจเที่ยงกุล
(ลูกคู่) ชาติใด ฉันใด ขอให้ใจเที่ยงกุล
ชาตินี้เหมือนมีกรรม ขอเข้าวัดทำ แต่ส่วนบุญ
(ลูกคู่) ขอเข้าวัดทำ แต่ส่วนบุญ
ชาติหน้า นะพ่อคุณ พิสูจน์ช่วยหนุน พี่หน่อยเอย
(ลูกคู่) อธิษฐานส่งใจ ขอให้สมประสงค์ เถิดเอย
(ชำเลือง มณีวงษ์ / ว่ามาเลยคนเก่ง)
สวัสดีค่ะ...ปรมาจารย์ทั้งสอง
ขอบคุณค่ะ
พิษฐานเอย มือหนึ่งถือพาน พานเอาดอกดาวเรือง
เกิดชาติใดแสนใด ให้เก่งคล้ายคล้ายพี่ชำเลือง
ให้เก่งร้องเก่งรำ ให้เลิศล้ำลือเลื่อง
ศิลปะหรือทำขวัญ ทุกเชิงชั้นนามกระเดื่อง
พิษฐานวานไหว้ ให้ได้ดังใจที่คิด ผมขอพิษฐานเอย
ดีใจที่ได้พบวัฒนธรรมที่ยังสืบทอดกันอยู่ของบทเพลงอพิษฐาน