เวิร์คชอพเอ็นเนียแกรมครั้งแรกที่ผมเข้าเมื่อ 10 ปีก่อนนั้น ใช้เวลา สามวันสองคืน เนื่องจากเนื้อหาของเรื่องนี้ค่อนข้างมากและลึกซึ้ง
เวิร์คชอพเอ็นเนียแกรมที่ผมเริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อห้า-หกปีก่อนนั้น ใช้เวลา สองวันหนึ่งคืน
ต้นปีที่แล้ว ผมได้รับเป็นวิทยากรให้บริษัทฝึกอบรมแห่งหนึ่ง และได้ทดลองจัดหลักสูตรเอ็นเนียแกรม หนึ่งวัน ให้กับบุคคลทั่วไป และก็ได้ผลดี จนเป็นหลักสูตรประจำ และเริ่มทำให้กับองค์กรต่างๆ แบบสัมมนาภายใน
ปลายปีที่แล้ว ผมได้รับการติดต่อจากบริษัทในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ก่อสร้างขนาดใหญ่ (ผู้ผลิตปูนซิเมนต์รายหนึ่ง) ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้จัดหลักสูตรแนะนำ โดยใช้เวลา 3 ชั่วโมงที่แบ่งสรรจากกิจกรรมทีมบิวดิ้งของฝ่ายทรัพยากรบุคคล ก็ปรากฎผลเป็นที่พอใจและผู้เข้าร่วมก็ได้ประโยชน์จากเวลาสั้นๆ นี้
ปีนี้ผมได้รับการติดต่อจากบริษัทนี้อีก ให้ทำกิจกรรม 3 ชั่วโมงในลักษณะเดียวกัน กับหน่วยงาน Call Center และ Customer Support โดยแบ่งเป็น 2 รุ่น ครั้งนี้เป็นการแทรกเข้าไปในการสัมมนาเพื่อจัดทำ Individual Development Plan ของสองแผนกนี้
สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้รับการติดต่อจากฝ่ายการตลาดของบริษัทเดียวกันนี้ ให้ทำกิจกรรมนี้ แต่มีเวลาเพิ่มขึ้นในช่วงบ่ายอีกประมาณ 2 ชั่วโมง
ประสบการณ์ที่ทำเวิร์คชอพแนะนำเอ็นเนียแกรมในช่วงเวลาสั้นๆ ให้กับองค์กรแห่งนี้ ทำให้ผมมีความคิดที่เปลี่ยนไปในเรื่องนี้
เดิมผมคิดว่า การสัมมนาเรื่องนี้ต้องใช้เวลามาก เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจตนเองและผู้อื่น และนำความรู้นี้ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
ความคิดใหม่คือ ถ้ามีเวลาจำกัด เช่น แค่สามชั่วโมง เราก็สามารถใช้เวลาช่วงสั้นๆ นั้นได้ไม่น้อย
ยิ่งผมมาคิดถึงสมัยที่ยังทำงานอยู่ในบริษัทต่างๆ ซึ่งได้เข้าอบรมหลักสูตรต่างๆ บางครั้งก็หนึ่งวัน บางครั้งก็สองสามวัน เมื่อเปรียบเทียบกับสิ่งที่ได้จากเวลาสามชั่วโมงของการสัมมนาเอ็นเนียแกรมแล้ว เวลาสามชั่วโมงนี้เป็นการใช้อย่างคุ้มค่ากว่ามาก
คำตอบคือ ถ้าไม่ติดขัดเรื่องเวลา และงบประมาณ หลักสูตรแนะนำคือ สองวัน
แต่ถ้าไม่มีเวลามาก หลักสูตรหนึ่งวันก็สามารถทำให้เรามีความตระหนักรู้ในตนเอง และเข้าใจผู้อื่นเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก
แต่ถ้าไม่มีเวลามากพอเป็นวันที่จะจัดสรรสำหรับเรื่องนี้โดยเฉพาะ เช่น ไปทำกิจกรรมสร้างทีม การไป outing เพื่อสันทนาการนอกสถานที่ กิจกรรมวันปีใหม่ การสัมมนาแผนก การสัมมนาทำ action plan การประชุมเริ่มโครงการ (project kick-off) ฯลฯ
ถ้าสามารถแบ่งเวลามาสัก 3 ชั่วโมง ก็สามารถใช้เวลาช่วงสั้นๆ นี้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าด้วยการสัมมนาเอ็นเนียแกรม ทั้งในแง่ของ Team Building การสร้างความตระหนักรู้ในตนเอง หรือมีอีคิวที่สูงขึ้น
หลังสัมมนา ก็สามารถค้นคว้าเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นแง่ความรู้หรือการนำความรู้นี้ไปประยุกต์ใช้ในงาน ได้จากหนังสือที่เป็นส่วนหนึ่งของเอกสารประกอบการสัมมนา
หลังจากนั้นค่อยมาพิจารณาว่า เรื่องนี้มีประโยชน์มากพอที่จะขยายผลต่อเนื่องหรือไม่
ไม่มีความเห็น