ปาฏิหาริย์แห่งการวิ่ง (6) เพิ่มประสิทธิภาพ...ในการทำงาน


ปาฏิหาริย์แห่งการวิ่ง (6) เพิ่มประสิทธิภาพ...ในการทำงาน
ปาฏิหาริย์แห่งการวิ่ง (6) เพิ่มประสิทธิภาพ...ในการทำงาน

 

             ผมไม่ใช่นักวิ่ง และไม่เคยวิ่งในสนามแข่งขันไหนมาก่อน ผมเริ่มสนใจการวิ่งเพื่อสุขภาพครั้งแรกตอนอายุ 40 ปี ช่วงนั้นผมค่อนข้างเครียดมาก เนื่องจากเพิ่งดำรงตำแหน่งเป็นคณะบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ใหม่ๆ ปัญหาในการบริหารคณะแพทย์มีหลายเรื่องให้ต้องคิด จึงทำให้เกิดความเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่สบายบ่อย คือเป็นไข้หวัดบ่อยมาก และเป็นครั้งละนานๆ และแต่ละครั้งจะมีอาการออย่างรุนแรง และไอนานเป็นสัปดาห์ และยังเป็นโรคกระเพาะอาหาร มีอาการปวดท้อง ทุกครั้งที่เป็นหวัดจะเป็นนานกว่าคนอื่นในครอบครัว ส่วนโรคกระเพาะนั้น ก็ต้องกินยาเคลือบกระเพาะเป็นประจำ ปาฏิหาริย์แห่งการวิ่ง (6) เพิ่มประสิทธิภาพ...ในการทำงาน ปาฏิหาริย์ของการออกกำลังกาย            ท่านอาจารย์ ประเวศ วะสี ได้มาแนะนำว่า การวิ่งนั้นมีผลดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก และอยากให้ผมลองหัดวิ่งเผื่อว่าจะทำให้สุขภาพดีขึ้นกว่าเดิม ผมจึงได้ไปหาหนังสือที่แนะนำเรื่องการวิ่งมาอ่านหลายเล่ม จนเข้าใจวิธีการอย่างชัดเจนและลองหัดวิ่งด้วยตัวเอง ตอนเริ่มต้นวิ่งนั้นนับว่ายากที่สุด แรกๆ ผมต้องใช้วิธีวิ่ง 20 ก้าว สลับกับเดินพักจนหายเหนื่อยแล้วค่อยวิ่งต่ออีก 20 ก้าว สลับกันไปอย่างนี้ตลอดจนได้ระยะทาง 2-3 กิโลเมตร ปรากฏว่าวิ่งไปอย่างนี้สัก 2 สัปดาห์ ผมก็วิ่งได้คล่องโดยไม่ต้องหยุดพักแบบเดิมอีก จนระยะต่อมาผมสามารถวิ่งได้ครั้งละเป็นชั่วโมงได้อย่างสบาย             หลังจากวิ่งอย่างต่อเนื่องผมพบว่าสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดไม่เจ็บป่วยบ่อยเหมือนเดิม เรียกว่าตรงกันข้ามกับของเดิมแบบขาวกับดำเลย ผมแทบจะไม่ป่วยเป็นไข้หวัดอีกเลย ถึงเป็นก็มีอาการเพียงเล็กน้อยและหายเร็วมาก ส่วนโรคกระเพาะก็หายเป็นปลิดทิ้ง ไม่ต้องพึ่งยาเคลือบกระเพาะอีก รวมทั้งไม่ต้องใช้ยากล่อมประสาทในการลดความเครียดอีกเลย             ผมพบว่า การวิ่ง ช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเป็นอย่างมาก เดิมกลัวว่าการวิ่ง จะทำให้เสียเวลาทำงาน แต่ปรากฏว่า การวิ่งช่วยให้ผมทำงานได้ดียิ่งขึ้น เพราะในระหว่างการวิ่ง ผมมักจะคิดเรื่องต่างๆไปด้วย และเป็นช่วงเวลาที่สมองแล่นมาก และหลังจากการวิ่ง ร่างกายก็สดชื่น หัวสมองปลอดโปร่ง สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าเดิม             นอกจากนี้ยังไม่เจ็บป่วยบ่อยเหมือนเดิมไม่ต้องเสียเวลาไปนอนรักษาตัวเองเหมือนเดิม ผมอาศัยการวิ่งเป็นเครื่องมือในการรักษาพลังในการทำงานได้เป็นอย่างดี เช่นตอนที่ผมย้ายไปเป็นผู้อำนวยการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย(สกว.) ผมก็ยังวิ่งเป็นประจำ เรียกว่าถ้าไม่วิ่งคงไม่สามารถทนแรงบีบคั้นในการทำงานที่ยากขนาดนั้นได้             เดี๋ยวนี้ เรียกว่าผมติดการวิ่งแล้ว และเรียกว่าการวิ่งเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ผมไม่ใช่คนที่วิ่งเร็ว และไม่ชอบไปวิ่งแข่งกับใคร ปัจจุบันผมจะวิ่งอาทิตย์ละ 5-6 วัน ดวลาเดินทางไปไหนไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ ผมก็จะพกรองเท้าวิ่งติดตัวไปด้วย และทุกครั้งที่มีโอกาสก็จะคว้ารองเท้าออกมาวิ่งเสมอ              ผมมีข้อสังเกตมาแลกเปลี่ยนอีกอย่างหนึ่งคือ ในบางช่วงที่ผมรู้สึกไม่ค่อยสดชื่น ซึ่งอาจเป็นเพราะอดนอน งานมาก เครียด หรือสาเหตุอื่นๆ ที่เราไม่รู้ ผมจะหาโอกาสวิ่งทันที โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที แล้วความรู้สึกมึนงง หรือไม่ค่อยสบาย จะหายไป   ปาฏิหาริย์แห่งการวิ่ง (6) เพิ่มประสิทธิภาพ...ในการทำงาน ปาฏิหาริย์ของการออกกำลังกายโดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช (ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม)      p    ที่มาข้อมูลจาก : หนังสือ ปาฏิหาริย์แห่งการวิ่ง เติมพลังให้แก่ชีวิต ด้วยการวิ่งเพื่อสุขภาพ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ภาพประกอบ : www.thaihealth.or.th
หมายเลขบันทึก: 100081เขียนเมื่อ 1 มิถุนายน 2007 15:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท