๑๒๖. 'สุขนิยม'แบบเป็นเป้าหมายชีวิต กับมรรควิถีการอยู่โดยปัญญา
ปัจจุบัน แรงกดดันด้านความเป็นวัตถุนิยมและความเป็นสังคมผลิตและบริโภคแบบอุตสาหกรรมทั้งของสังคมไทยและสังคมโลก ซึ่งมีโครงสร้างและระบบที่ทำให้คนคิดและทำสิ่งต่างๆตามกันเป็นมวลมหาชนมาหลายศตวรรษนั้น เริ่มมีการมองว่าทำให้ทรัพยากรตลอดจนปัจจัยในการดำรงอยู่ด้วยกันของสิ่งต่างๆสูญเสียความสมดุล ก่อให้เกิดปัญหา ผลกระทบ และผลสืบเนื่องต่อชีวิตและสังคมในหลายขอบเขต ทั่วโลกจึงมุ่งให้ความสำคัญกับมิติจิตใจและความสุขกับการพัฒนาคุณภาพแห่งชีวิตด้านในที่จะอิสระจากความเป็นวัตถุนิยมและการรวมศูนย์อยู่กับการถือเอาประโยชน์ของมนุษย์แต่ละยุคสมัยเป็นแกนกลาง วิธีคิดเกี่ยวกับการเน้น 'ความสุข' จึงได้รับความสนใจมากขึ้น ในวงกว้างนั้น หลายประเทศก็เริ่มส่งเสริมให้เป็นเป้าหมายเชิงอุดมคติของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมมากขึ้น ประเทศไทยก็เช่นกัน ทำให้มีการศึกษาและปฏิบัติวิถีชีวิตในแนวมุ่งความสุขมากขึ้น แต่จะยิ่งศึกษาปฏิบัติได้ก้าวหน้าในแนวพุทธธรรมมากขึ้น ก็ต้องมุ่งที่การเข้าใจเหตุปัจจัยและทำที่สุดแห่ง'ทุกขภาวะ' ซึ่งจะเป็นเรื่องวิถีปัญญาและไม่ติดขั้วทุกข์-สุข
ไม่มีความเห็น