ปฐมบท...
เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2552 ได้ซื้อคอมกึ่งไฮโซ.. เขาว่างั้นนะ ยี่ห้อ TOSHIBA.. น่าจะเป็น TASHIBO แล้ววันนี้ มาในราคา 37,500 สเปค จอ 13.3 นิ้ว CPU I-3, Ram 4 M, HDD 500 GB. สีชมพูหวานแหวว วินโดว์ของแท้ จากบริษัทหนึ่งในจังหวัดที่อยู่ (ไม่ได้เป็นคนเมืองเทพนะ.. อิอิ)
มัฌิมบท...
เมื่อ 9 ตุลาคม 2554 อาการเครื่องร้อน... แป้นอักษรพิมพ์ ลมดีลมร้าย ติดๆ ดับๆ พิมพ์ได้บ้างไม่ได้บ้าง ทัชแพดไม่ทำงาน แต่ถ้าปิดแล้วเปิดเครื่องใหม่บางครั้งก็กลับมาเป็นปกติ แต่ใช้ๆๆ ไปสักพักก็กลับมาหลอกหลอนอีก..... ส่งไปที่บริษัทที่ซื้อมาตรวจสภาพ บอกอาการที่เกิดขึ้นทุกอย่าง ..... หายไป 3 วัน ให้ไปรับเครื่องคืน.. บอกว่าปกติแล้ว.. โอเค ก็ช่างบอกเนี่ยะ แต่ดูหน้าช่างที่มาคุยด้วย ซักไปซักมา ดูทำท่ามึนๆ ..(คิดในใจดูไม่น่าไว้ใจนะ) เอาละรับกลับมาลองใช้ดูก่อน.. เปิดเครื่องปุ๊บ ... อาการที่ว่าไว้กลับมาแสดงตนว่าฉันยังอยู่นะ ไม่ได้หายไปไหน.. เซ็ง .. นึกแล้วเชียว (เอ..เราท่าจะรุ่งถ้าเป็นหมอดูโหงวเฮ้ง .. ก็ดูหน้าช่างก็เหมือนมองทะลุได้นิ..)
เอ้า..เอากลับไปที่บริษัทอีกครั้ง คราวนี้เจ้าของบริษัทมาคุยด้วยเลย เพราะรู้จักกันมาก่อน ... รับเอาเครื่องกลับเข้าไปดูใหม่ ครานี้เป็นเครื่อง VIP นะ คงได้รับการดูแลอย่างดี ผ่านไป 2 วัน (เร็วกว่าคราวก่อน) บอกว่าใช้การได้แล้วนะ...
เอากลับบ้านเปิดใช้งาน.. เอ..ดีแฮะ โย้วๆๆ หายแล้ว แต่ยัง ยัง ยัง ช้าก่อนโยม..พอวันที่ 3 เท่านั้นอาการทั้งหมดก็กลับมาหลอกหลอนให้ลมขึ้นอีกครั้ง... วิ่งแจ้นไปที่บริษัททันที ..... โวยวายซะหน่อย.. นู่น นี่ นั่น .. ไรวุ๊ย.. เด็กรับงานหน้าเสีย (มานึกเสียใจวันนั้น.... ว่าเราโวยทำไม.. มันไม่เห็นทำให้เครื่องมันกลับมาดีได้หรอก ?? เด็กๆ อาจถูกตำหนิเอาเปล่าๆ .. กรรมแท้ๆๆ อารมณ์คน) คราวนี้ทางบริษัทบอกว่าหมดปัญญาแล้วครับ... ต้องส่งบริษัทใหญ่ที่เมืองเทวดา .. เอางั้นก็เอา มันหมดทางแล้วนี่....
ก็เลยตกลงส่งไปโตชิบ้ากรุงเทพฯ หายไป 2 อาทิตย์ มีเสียงโทรศัพท์ตามที่ให้เบอร์ไว้...โทรกลับมาบอกเครื่องนี้เมนบอร์ดเสีย... (เฮ้ยๆๆๆๆ อย่ามาล้อเล่นนา... มันไม่ถึง 2 ปีดี อะไรกัน.. มันหลายเงินนะนั่น)
ถามกลับไปเท่าไรครับ...เ
เสียงตอบกลับ... ประมาณ 11,450 บาท ซ่อมไหมคะ ???
โอ้วแม่เจ้า.... เพิ่มอีก 6,000-8,000 สเปคนี้ ได้เครื่องใหม่+ประกันอีก 1 ปี สบายๆ เลยตอบกลับไปทันใดไม่ต้องคิด "ไม่ซ่อมครับ"
อีก 5 วันให้หลังทางบริษัทแจ้งว่ามารับเครื่องคืน เลยไปรับคืน แต่ต้องเสียค่าขนส่ง+ค่าเปิดเครื่อง 850 บาท.. (ค่าขนส่ง 300) โห ค่าขนส่งนี่รับได้ ส่วนค่าเปิดเครื่องนี่.... เซ็ง น่าจะเป็นงานบริการหลังขายของผลิตภัณฑ์นั้นๆ นะ เอาจ่ายไป 850 เอาเครื่องกลับบ้าน
ปัจฉิมบท ....
ตอนนี้ก็เอาเครื่องมานั่งดูไปดูมา... มันน่ารักดีเน๊อะ กำลังคิดอยู่ว่าจะอะไรกับมันดี เมื่อ 2 ปีที่แล้วมัน 37,500 พอมาถึงวันนี้ TASHIBO - TOSHIBA ตัวนี้จะทำอะไรกับมันได้บ้าง
1. รื้อ เอา HDD กับ RAM ไปใช้งานกับเครื่องอื่น ส่วนประกอบอื่นเอาไว้ขว้างหัวหมาที่ชอบมาฉี่ใส่ประตูบ้าน
2. ให้ช่างท้องถิ่นที่เปิดร้านอิสระรื้อเล่น.. มันจะเยินก็ช่างมัน ไหนๆ ก็ใช้การไม่ได้อยู่แล้ว
3. หาลูกล้อติดเพลามารองด้านล่าง เอาเจ้า TASHIBO - TOSHIBA แปะลงไป แล้วเอาเชือกผูกเป็นตัวลากจูงให้หลานตัวเล็กๆ ไปไล่ลากคลุกฝุ่น ซะเลยดีไหม ???
กำลังมึนๆ ๆ ๆ กับมันอยู่ เพราะเครื่องเก่าใช้มา 6 ปี ยังอยู่เลย เป็นยี่ห้อที่ใครๆ ว่ากันว่าของโหล Acer-AngCer (อ่านว่าเอเซอร์เอ็งเซ่อ) แต่สเปคเค้าไม่สามารถใช้การอะไรได้มากกว่า XP+Office ความจุเต็มพิกัด HHD 40 gb ซึ่งท่าแฮนดีไดร์ฟ สมัยนี้เท่านั้น... เจ้านี้วันนี้ก็ยังใช้งานอยู่น๊า .. รักเธออยู่น๊า ..จุ๊บๆ
... ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
... ว่างๆ สัญญาว่าจะเขียนใหม่ครับ...