ในภาคเรียนที่ 2/2550 นี้ ผมได้รับมอบหมายให้ไปสอนนักศึกษาประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู รุ่นที่ 2
จากใบรายชื่อของนักศึกษามีทั้งหมด 35 คน แต่เหลือรอดมาถึงภาคเรียนนี้ 25 คนเท่านั้น (ผมคิดในใจว่า "สบายแล้ว จำนวนคนน้อย สอนทั่วถึงดี)
ผมจะต้องเดินทางไปสอนโดยเรือบินของการบินไทย ในภาคเรียนนี้ทั้งหมด 6 ครั้ง และสอบปลายภาคอีก 1 ครั้ง ประมาณว่า 2 สัปดาห์ก็ไปหนหนึ่ง
เดินทางวันเสาร์ พัก 1 คืน สอนวันอาทิตย์ทั้งวันแล้วกลับตอนเย็น เป็นอย่างนี้สม่ำเสมอ
เขียนบันทึกถึงตรงนี้ เหลือการสอบปลายภาคอีก 1 ครั้ง คือ สอบวันพรุ่งนี้แล้วครับ (9 ก.พ.51)
ผมสอนวิชา "เทคโนโลยีกับการเรียนรู้" ซึ่งเป็นเรื่องของการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอนของครู
ผมมีแนวทางในการสอนพวกเขาอย่างไรบ้าง ลองประมวลผลตัวเองหน่อย
คาบแรก ๆ ผมต้องทำความรู้จักพวกเขาแต่ละคนให้ได้ละเอียดมากที่สุดก่อนว่า ชื่อเสียงเรียงนามเป็นอย่างไร อยู่อำเภอไหนของแม่ฮ่องสอน ปัจจุบันทำงานอะไร ถ้าเป็นครู สอนอยู่ที่ไหน ลำบากไหม และเป้าหมายในชีวิตของพวกเขามาเรียนเพื่ออะไรกันแน่ ... ผมเลือกวิธีการสร้างแบบฟอร์มประวัติส่วนตัวให้พวกเขากรอกและติดรูป เหมือนสมัครงานยังไงยังงั้นเลย
เนื่องจากผมมีเวลาสอน 6 สัปดาห์ ๆ ละ 6 ชั่วโมง ทำให้การสอนต้องเร่งรัดพอสมควร สิ่งใดที่มีประโยชน์น้อย ผมจะตัดออกไป ผมพยายามจะเลือกเนื้อหาที่เขาสามารถนำไปใช้ประโยชน์ตามสภาพพื้นที่ของเขาได้จริง รวมทั้งเปิดโลกเทคโนโลยีใหม่ ๆ ให้เขา เขาจะได้มีวิสัยทัศน์มากขึ้น
เนื้อหาที่ผมเลือกที่จะสอน มีดังนี้
นอกจาก การให้ความรู้ต่าง ๆ แล้ว อีกประเด็นที่ผมจะเน้นมาก ๆ ก็คือ การพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมของตัวเอง
ผมจึงเลือกสื่อวีดิทัศน์หลาย ๆ เรื่องมาเปิดให้เขาชม สอดแทรกในระหว่างการสอนทุกครั้ง เช่น
ผมไม่ต้องการสอนแต่เนื้อหาวิชาการ แต่ผมต้องการให้ลูกศิษย์ "ครูดอย" ของผมเป็นคนดี เป็นครูดี และเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่
บางคนอาจคิดได้ หันกลับมาพิจารณาตัวเองแล้วปฏิบัติ แต่บางคนคิดได้ภายในห้องเรียน ออกจากห้องก็ลืม ... เรื่องนี้มันสอนกันโดยตรงไม่ได้ ขึ้นอยู่กับตัวเขาเองว่า จะยอมหันมามองตัวเองหรือไม่
อีกประเด็นหนึ่งที่ผมตั้งใจสอนเขามากก็คือ การใช้บล็อก Gotoknow แห่งนี้ ครับ
ผมมองว่า ครูดอยควรได้รับการเหลียวแลจากสังคมบ้าง เนื่องจากที่ทำงานหรือโรงเรียนทุรกันดารมาก น้ำไฟไม่มี กว่าจะลงมาที่อำเภอก็ลำบากแล้ว จึงอยากให้พวกเขาได้มีโอกาสเล่าให้สังคมฟังบ้างว่า ลำบากแค่ไหน ยังขาดแคลนอะไรอีกบ้างหรือไม่ เพื่อมีคนใจบุญ คนที่มีสิ่งของแต่ไม่ค่อยได้ใช้ ได้บริจาคไปให้เด็กน้อยตามโรงเรียนเหล่านี้บ้าง
ลองเข้าไปที่ ลูกศิษย์ "ครูดอย" ผู้เสียสละแห่งเมืองสามหมอก ดูนะครับ
ซึ่งผมก็คิดว่า ผมคิดถูก ... แรก ๆ ก็เหนื่อยหน่อย เพราะว่าพื้นฐานคอมพิวเตอร์ของหลาย ๆ ไม่ค่อยดีนัก ต้องอาศัยเพื่อนที่อยู่ในเมืองแม่ฮ่องสอนที่พื้นฐานดีกว่าเพื่อนมาติวให้
แน่นอนผมมีความภูมิใจมากที่หลาย ๆ โรงเรียน ลูกศิษย์หลาย ๆ คนมีสังคมภายนอกเริ่มเข้ามาช่วยเหลือเด็ก ๆ และโรงเรียนที่ขาดแคลนบ้างแล้ว เหตุเกิดจาก Gotoknow แท้ ๆ ทีเดียว
ตัวอย่างความสำเร็จในการเขียนบล็อกของลูกศิษย์ "ครูดอย"
ธารน้ำใจที่อบอุ่นสู่แดนดอย : เตรียมของบริจาคเพื่อส่งถึงมือผู้ขาดแคลน ..
คุณเอก เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือโดยตรงกับลูกศิษย์คุณครูนุชวรรณ (ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของผม)
หรือ ที่โรงเรียนร่มเกล้าปางตองก็มีคนมาให้ความช่วยเหลือสร้างฐานเสาธงให้กับโรงเรียน เป็นต้น
เป็นลูกศิษย์ "ครูดอย" รุ่นแรกที่ผมได้สอนการสร้างบล็อก ครับ ... ภูมิใจตามประสาครูมีลูกศิษย์ดี
แต่ปัญหาของการสอนห้องนี้ก็มีเหมือนกัน
"สัตวโลกย่อมเป็นไปตามกรรม"
ความรู้สึกส่วนตัวของการไปสอนครั้งนี้
หวังว่า การสอบในวันพรุ่งนี้ของลูกศิษย์ของผม เขาจะทำได้นะครับ ไม่ใช่ สอบตก มาให้ผมต้องให้ "ร" ล่ะ ... ซ้วย ซวย ล่ะคราวนี้
"ครูช่วยไม่ได้เน้อ" ... :) ตรงไปตรงมา ไม่มีเบี้ยวแน่นอน
ขอบคุณที่ติดตามอ่านบันทึกนี้นะครับ
บุญรักษา ทุกท่านครับ
สวัสดีครับ อาจารย์ขจิต
ขอบคุณอาจารย์มาก ๆ ครับผม :)
เรียน อาจารย์ที่เคารพ
ในระยะเวลาสั้นๆที่ได้เรียนกับอาจารย์ก็เห็นความตั้งใจ จริงใจที่มีต่อลูกศิษย์ทุกคน หลายครั้งอาจารย์อาจจะมีความรู้สึกทำไมครู แม่ฮ่องสอนไม่ค่อยให้ความสำคัญกับเวลาเลย (เดานะครับ) เพราะต้องให้อาจารย์รอตลอด ซึ่งไม่สมควรที่จะทำอย่างนี้ แทนที่จะกอบโกยผลประโยชน์เต็มที่ แต่ท่านก็ไม่สามารถพุดอะไรได้มาก เพราะอาจารย์สอนอาจารย์ ต่างคนต่างเป็นอาจารย์ ท่านเป็นคนเสมอต้นและเสมอปลาย มีเป้าหมายหรืออุดมการณ์ในการสอน (ไม่ได้พูดเพื่อหวังผลต่อการสอบพรุ่งนี้ระครับ) แต่พูดเพื่อแสดงความเห็นส่วนตัว และไม่สามารถอธิบายแทนเพื่อนได้ เพราะ นานา จิตตัง
ขอบคุณสำหรับของขวัญอันมีค่าที่อาจารย์มอบให้ในฐานะที่ได้เป็นลูกศิษย์ นั่นคือ "โกทูโน" ขอบคุณครับ และจะใช้มันให้เป็นประโยชน์
สวัสดีครับ ท่านอาจารย์ขจิต
ชอบ ๆ :)
สวัสดีครับ คุณครู สังเวียร
ขอบคุณ คุณครูมากครับ :)
ผมขอแลกเปลี่ยนเรื่อง การเขียนบันทึกผ่านสังคมออนไลน์ครับ
เรื่องการเขียนบล็อกนี้พูดยากนะครับ เราจะเห็นได้ว่าเราอบรมเพื่อการเขียนบันทึกออนไลน์ บ่อยครั้งในระยะเวลาสองสามปี ใช้ทั้งงบประมาณ ทุนหลายๆอย่างที่ทุ่มเท สุดท้ายเราเหลือ Active Blogger ไม่กี่คนเอง??
เราคงต้อง AAR กระบวนการสร้างคนคิด คนเขียน ในฐานะblogger gotoknow ว่าเราน่าจะมีกระบวนการอย่างไร
-------
ในความคิดของผม ผมคิดว่าผมได้โอกาสที่ดีในการพัฒนาตนเอง พัฒนาเครือข่าย ได้ความคิดใหม่ๆผ่านการนำเสนอและแลกเปลี่ยนที่หลากหลายสอดคล้องกับความพึงพอใจที่ผมมี
เป็นบรรยากาศของความสุขในกระบวนการเรียนรู้ที่เป็นอิสระครับผม
ดังนั้นการสร้างให้คนใหม่เป็น blogger น่าจะมีแนวทางสร้างแรงบันดาลใจที่แตกต่างจากเดิมที่เคยทำ
ที่ให้ข้อคิดเห็นไปข้างบน เพื่อตอกย้ำสำหรับผู้ที่คิดว่า Blog เป็นเครื่องมือที่น่าสนใจในโลก IT ปัจจุบันนะครับ
หากบางท่านคิดว่ามีกระบวนการอื่นที่ดีกว่า หรือ แตกต่าง เราก็สามารถใช้ช่องทางที่หลากหลายได้
แต่ผมอยากเห็นสังคม (ไม่มีออนไลน์ เสมือน สังคมจริง)
โดยเครื่องมือใดๆก็ตาม...
ประเด็นเคลื่อนสังคมเรียนรู้ มันน่าสนใจมากนะครับ น่าทำวิจัยครับผม
สวัสดีครับ คุณเอก
ขอบคุณครับ คุณเอก :)