หากคิดว่างานที่กำลังทำอยู่มันหนักเกินไปหรือเยอะเกินไป กลับมามองกันดีกว่าว่าเป็นงานซึ่งมันอยู่กับชีวิตเรามากกว่า 90% เสียอีก งานคือเงิน เงินคืองานบันดาลสุข (มนุษย์อย่างเราๆระดับพนักงานตัดไม่ได้อยู่แล้วกิเลสเรื่องเงิน)(อิอิ) แต่บนพื้นฐานเรื่องงานคือเงินนี้มันแฝงไว้ด้วยความรับผิดชอบหลายอย่างเลยนะหากมองกันดีๆ เรารับผิดชอบงาน สร้างสรรค์งาน เดินตามแผนงาน ทำทุกสิ่งทุกอย่างก็เพื่องาน พัฒนางาน ดังนั้นหากเราอยากที่จะทำงานให้ดีตัวเราเองต้องเป็นผู้ขวนขวายหลายสิ่งหลายอย่างมาเติมเต็มให้กับงานที่ทำด้วย ไม่ว่าการแสวงหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาตนเองและพัฒนางาน เช่นน้องในสาขาก็ต้องคิดกันหัวแทบแตกว่าเดือนนี้ฉันจะจัดโปรโมชั่นอะไรดีถึงจะส่งเสริมงานฉันได้ งานฉันคือลูกค้า ชักจูงลูกค้ามาซื้อคอร์สกันเยอะๆ จะทำอย่างไรล่ะ อย่างตัวฉันเองก็ต้องคิดยุทธศาสตร์ใหม่ๆเพื่อที่จะขายของได้เยอะๆเหมือนกัน

          ดังนั้นฉันเองก็ไม่ลืมที่จะขวนขวายเทคนิคต่างๆอยู่ตลอดเวลามาปรับปรุงงานของตัวเอง และอย่างพี่ๆฉันในออฟฟิศทั้งพี่ปาน พี่แอ๋ว พี่กั้ง หรือแม้กระทั่งน้องๆอย่าง ตูน หยก เอก ก็ยังต้องค้นหาสิ่งต่างๆที่มาจรรโลงงานของตนเองเพราะหากเรานั่งอยู่กับที่ไม่แสวงหาสิ่งใดๆเลย มีหรือผลของงานจะบังเกิด การลองผิดลองถูกเป็นสิ่งที่พึงกระทำมันเป็นบทเรียนที่สร้างเสริมประสบการณ์หลายอย่างให้กับคนทำงานในองค์กรที่ทุกคนสามารถออกความคิดเห็นอย่างอิสระ แบบองค์กรเราเพราะฉะนั้นการแสวงหาหรือทำสิ่งใดๆกับงานนั้นพวกเราก็ได้กลั่นกรองกันอย่างรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องต่างๆที่เกี่ยวพันกับงาน เพราะอยากให้งานของตัวเองราบรื่นออกมาดี กิจกรรมใดๆที่ยังงงๆว่าเจ้านายให้ทำทำไมในตอนแรกหากโยงมาเกี่ยวเนื่องกับเรื่องงานของตัวเองมันก็ดูมีประโยชน์จริงๆอย่างที่เขาจัดมาให้ ก็ยิ่งทำให้ทุกคนในออฟฟิศสนใจเพราะมีความรู้สึกร่วมว่ามันมีประโยชน์จริงๆกับงานของตัวเอง ดังนั้นกิจกรรมต่างๆมันก็เลยกลมกลืนไปกับงานที่ทำด้วย

            หากใครที่ยังคิดว่าฉันเหน็ดเหนื่อยเหลือเกินกับงานและหลายสิ่งหลายอย่าง ฉันยุ๋ง ยุ่งจนใครไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าฉันยุ่งแค่ไหนฉันไม่มีเวลาที่จะไปคิดอะไรหรอกนอกเหนือจากสิ่งที่ฉันทำอยู่ในปัจจุบัน ฉันเชื่อว่าไม่จริงหรอกในการทำงานของคุณ หนึ่งวันต้องมีเวลาซักครึ่งชั่วโมงแหละน่าที่คุณเบนความสนใจจากงานไปทำอย่างอื่น ลองเอาครึ่งชั่วโมงนั้นน่ะมาแสวงหาความรู้ที่จะมาพัฒนาตัวเองและงานกันดีกว่า สู้ สู้นะ