เมื่อวานหลังอาหารเที่ยง ก็ลงไปหาคุณโอ๋ที่ห้องแล็บเคมี ชั้น 1 เพื่อชวนเธอเข้าร่วมสัมมนา ตลาดนัด CoP ในฐานะตัวแทนสมาชิก "ชุมชนคนคุณภาพพยาธิ" เธอก็รับปาก แล้วก็ได้คุยเรื่องอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์อีกหลายเรื่อง
หลังจากนั้นก็เดินขึ้นบันได ไปห้องพัสดุชั้น 3 เพื่อคุยกับสาวๆ พัสดุ ให้เขียนบทความ 5 ส. ลงวารสารสายใยฯ คุยไปคุยมาเลยได้ความรู้มากมาย ว่า พัสดุทำ 5 ส. มาก่อนที่คณะประกาศเสียอีก แล้วก็ได้มีการปรับปรุงมาตลอด นอกจากนี้ ยังมี idea เกี่ยวกับงานพัสดุมากมาย ที่พัสดุพยาธิเป็นผู้ริเริ่ม และ ขยายไปเป็นแนวปฏิบัติของคณะ เช่น การทำรหัสครุภัณฑ์ เป็นต้น
จากนั้น ก็เดินต่อไปห้องพันธุศาสตร์ซึ่งอยู่ชั้นเดียวกัน เพื่อชักชวนให้ทีมถั่วแดงเริงร่า เขียนเล่าเรื่องโครงการลงวารสารฉบับหน้าเช่นกัน แล้วก็ได้พูดคุยกับพี่แข ผู้เฒ่าพันธุศาสตร์ เกี่ยวกับการบันทึก tacit ใน blog ที่หายไป พี่แขบอกมีอีกมากที่ต้องบันทึกให้รุ่นน้องๆ เพราะไม่นานก็จะเกษียณแล้ว งานโครโมโซมละเอียดอ่อน และ มีเทคนิคที่พบจากการสังเกตุมากมายที่ไม่มีเขียนในตำรา ก็เลยได้เสนอความเห็นเพิ่มเติมว่า พี่แขน่าจะเก็บภาพประกอบ tacit นั้นๆ ไว้ด้วย พี่แขได้ฟังก็ท่าทางเห็นด้วย ประมาณว่า จริงด้วยซิ เพราะงานที่ทำ เป็นงานภาพบนจอ com อยู่แล้ว
กว่าจะกลับจากการพูดคุยก็ประมาณบ่ายสองโมงกว่า เฮ้อ เมื่อย (ขา)เหมือนกันค่ะ แต่ก็คุ้มค่ะ
เทคนิคการเดินไปคุยหารือ หรือ นัดหมายเรื่องงานถึงที่นี้ ขอเรียกว่า go& talk ทำมาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว ความคิดนี้ ได้มาจากตอนไปดูงานที่โตโยต้าไทยแลนด์ ซึ่งผู้บริหารเขาใช้ go & see เวลาที่มีปัญหาในโรงงาน ก็จะลงไปดูที่หน้างานให้เห็นกับตา เห็นว่าเป็นประโยชน์ก็เลยนำมาใช้บ้าง แต่มาใช้กับการไปหารือพูดคุย ไม่เฉพาะเวลาเกิดปัญหา
ถึงแม้จะใช้เวลา และเหนื่อยบ้างเล็กน้อย (เดินขึ้นลงบันได) แต่ก็คุ้มค่า ได้พูดคุยแบบเห็นหน้า F2F สื่อสารได้ชัดเจน แถมคุยเรื่องหนึ่ง ยังได้เรื่องอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์พ่วงอีกด้วย ทั้งยังได้ใกล้ชิดกับผู้ปฏิบัติงานมากขึ้น
จุดอ่อน ตอนนี้ ยังเข้าไปคุยกับคนที่เรามีธุระด้วยเท่านั้น ตนเองเป็นคนขี้อายมาแต่ไหนแต่ไร (ข้ออ้าง?)ไม่ค่อยได้ทักทายคนอื่น รวมทั้งยังไม่ค่อยได้เข้าไปในบางหน่วย คงต้องหาเรื่องให้ได้ไปพูดคุยทั่วถึงมากขึ้น
ยุทธวิธีนี้ยอดเยี่ยมและ"ได้ใจ"จากลูกภาคฯเป็นอย่างยิ่งค่ะ อาจารย์
แต่จุดอ่อนที่อาจารย์พูดถึงก็เป็นสิ่งสำคัญค่ะ เพราะอาจทำให้เหมือนมี"คนโปรด" ซึ่งจะทำให้เกิดความไม่เสมอภาคได้ แต่...มีแต่เพราะความจริงใจที่อาจารย์มี
ทำให้เห็นว่า เท่าที่สังเกตจากเวลาที่อาจารย์มาห้อง Chem อาจารย์ก็ทักทายไต่ถามได้ทั่วถึง รวมทั้งไถ่ถามสภาพการณ์ทั่วๆไปไปด้วย นอกจากการพูดคุยกับคนหน้างานบางคน บางครั้ง ไม่ซ้ำคนเดิมตลอดเวลา
ขอเป็นกำลังใจให้อาจารย์มี"พลัง"ต่อไปเรื่อยๆนะคะ รับรองจะ"แบ็คอัพ"ให้เกินร้อยค่ะ
พี่จุดได้ใช้เทคนิค go & see เหมือนกันโดยเฉพาะเมื่อมี incident report แต่พี่จุดจะพกกล้องถ่ายรูปไปด้วยเป็นส่วนใหญ่ เพื่อใช้ประโยชน์ในการถ่ายรูปประกอบ การชี้แจงผู้บริหารกรณีเกิดความเสียหาย ประกอบการประสานงานเพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เพื่อเป็นภาพเปรียบเทียบหลังการแก้ไข เป็นต้น