ดิฉันยังเชื่อว่าถ้าเป็นไปได้ในการทำ KM Workshop จำนวนคนประมาณ 40 คนกำลังดี การทำ AAR ถ้าได้ทำด้วยการถ่ายทอดออกมาทุกคนดีกว่าการสุ่ม (ในกรณีคนเยอะ)
โดยหลังจาก AAR ท่านอาจารย์วิบูลย์ยังทิ้งท้ายว่า "กลับไปที่มหาวิทยาลัยถ้าท่านสนใจอยากทำ KM ท่านจะไม่โดดเดี่ยวเพราะมีบุคลากรทั้งในระดับผู้บริหารคณะ อาจารย์ และนิสิตในคณะวิชาของท่านที่เป็นกลุ่มคนที่เคยได้ใช้กระบวนการและเครื่องมือ KM เหมือนกับท่านในวันนี้แล้วเหมือนกัน"
หลังจากกลับมาดิฉันได้ทบทวนการจัด KM Workshop ในระยะนี้ของ QAU ที่จัดโดยมีหน่วยงานอื่นเป็นแม่งานแล้วทีมเราเข้าไปดำเนินกระบวนการ Workshop ดิฉันคิดว่าเราน่าจะทบทวนเกี่ยวกับความเหมาะสมของระยะเวลา สถานที่ การเดินทาง และวัตถุประสงค์ที่ผู้จัดตั้งไว้ว่าเข้ากับวัตถุประสงค์ของเรามากน้อยแค่ไหน หากไม่ตรงกันแต่ต่างฝ่ายตามบรรรลุก็น่าจะจัด แต่ถ้าไม่เราควรจัดด้วยตัวเองทั้งหมด เนื่องจากเราให้ความสำคัญกับผู้เข้าร่วม KM Workshop ของเราทุกคนทุกโครงการค่อนข้างมาก เราอยากให้ทุกคนเข้าใจ รู้จัก และอยากนำกลับไปใช้ต่อ เราไม่เน้นจำนวนคนจำนวนผลงาน เราจะไม่ทำ KM Workshop ให้กับเจ้าภาพที่ทำเพราะ KM เป็นกระแสที่มาแรง จัดเพื่อให้ได้ชื่อว่าได้จัด หรือใช้ KM เป็นเครื่องมือในทางที่ผิดเด็ดขาด ถึงแม้ที่ผ่านมาเรายังไม่เคยต้องเจอะเจอกับความล้มเหลวแม้เพียงเล็กน้อย แต่เราจะคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเราควรป้องกัน เพื่อรักษาไว้ซึ่งความศรัทธาที่เรามีต่อ KM ในความรู้สึกของคนรุ่นต่อๆ ไปที่จะได้เข้ามารู้จักและนำไปใช้ต่อไป