สวัสดีค่ะ
ติดตามสำนวน ของตาย ที่ไม่ตาย..มักใช้เป็นสำนวนเปรียบเทียบ
สวัสดีค่ะ
แวะมาเยี่ยมค่ะ ได้ข้อคิด ได้ความรู้
สวัสดีค่ะ
ดีค่ะได้แง่คิดดี ไม่อยากเป็น "ของตาย" ของใครเลยค่ะ น่าสงสาร
ครูแป๋ม
สวัสดีค่ะ มาอ่านข้อคิดดีๆ ค่ะ
จะรู้ค่า ของตาย ก็เมื่อไม่มี ของตาย ให้ครอบครองด้วยนะคะ
แต่ในทางศาสนา อ่านแล้วได้คิดจริงๆ ค่ะ
"หากมองในเชิงคุณภาพชีวิต “ของตาย” ที่เป็นของร่วม เป็นของส่วนรวมที่ทุกคนสามารถตักตวงไว้หล่อเลี้ยงจิตใจโดยไม่ถูกหวงห้ามกีดกัน คือ พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ที่ผู้ใดเข้าถึงแก่นแท้นำไปประพฤติปฏิบัติด้วยตนเอง อย่างรู้แจ้งแล้ว ย่อมบรรลุสู่บันใดสูงสุดแห่งความหลุดพ้นจากเครื่องยึดเหนี่ยวที่ไม่เที่ยงแท้ทั้งหลาย ตามหลักแห่ง ไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง (ความไม่เที่ยงแห่งสังขาร) ทุกขัง (ความทุกข์โทมนัสอาลัยอาวรณ์) และ อนัตตา (ความไม่ตั้งอยู่ ไม่มีตัวตน และดับไป ) …. "
ขอบคุณค่ะ (ขอ Copy วางในกล่องความเห็นนี้อีกครั้งค่ะ)
สวัสดี
แวะมารับรู้เรื่องดีๆ ครับ
ขอบคุณความจริง ซึ่งสามารถเตือนตนได้เป็นอย่างดีครับ..
มีโอกาสได้มาดูกรุบันทึก :-) พี่ใหญ่เขียนบันทึกชีวิตได้ลึกซึ้ง น่าอ่าน น่าคิด คะ
* น้อง MSU-KM ขอบคุณมากค่ะที่เห็นการเปรียบเทียบในสำนวนชวนให้คิดนี้ค่ะ
* น้อง Mena ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาเยี่ยมเพื่อช่วยกันดูแลเห็นคุณค่าของสิ่งดีๆใกล้ตัว
* น้องครูแป๋ม ขอบคุณมากค่ะที่อ่านแล้วย้อนคิดถึงความน่าเสียดาย "ของตาย" ที่ไม่สมควรถูกทอดทิ้ง และมาคิดได้ก็อาจสายเสียแล้ว
* น้องดาวลูกไก่ ขอบคุณมากค่ะที่เห็นคุณค่าของการเร่งทำความเพียรปฏิบัติตามพุทธวิถีเพื่อความหลุดพ้นจากความทุกข์แห่งวัฏสงสาร..เวลาพวกเราเหลืออีกไม่มากนักนะคะ
* น้อง รศ.เพชรากร ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาเยี่ยมอ่านแนวคิดที่พี่ใหญ่ได้เตือนตนเองตลอดเวลา เพื่อจัดลำดับความสำคัญให้แก่สิ่งใกล้ตัวที่มีคุณค่าอยู่มากมาย
* น้องครู ที่เห็นประโยชน์ของการพิจารณาในเรื่องเช่นนี้ มีตัวอย่างอีกมากมายที่เป็น "ของตาย" ควรค่าแก่ความใส่ใจนะคะ..
* น้อง CMU pal ขอบคุณมากค่ะที่มาเปิดกรุสมบัติทางความคิดที่พี่ใหญ่ ได้เคยบันทึกไว้ที่ "วารสารพระสยาม" ของ ธปท. บ้านเก่าของพี่ เพื่อฝากให้รุ่นน้อง ได้อ่านเป็นประสบการณ์..
* น้อง ดร.ขจิต ขอบคุณมากค่ะที่มาช่วยกันดูแลของตายใกล้ตัวเรา ที่สมควรให้การใส่ใจดูแลมากๆนะคะ
.. ชอบใจลิ๊งกิจกรรมของน้องๆที่เกาะช้าง..ได้ไปเยี่ยมอ่านด้วยความประทับใจแล้วค่ะ..เป็นแบบอย่างที่ดีจริงๆ..