สวัสดีครับ
วันก่อนผมได้เขียนบทความเรื่อง หากลูก(ศิษย์)คุณถามคำถามแบบนี้ คุณจะตอบเค้าอย่างไร เพื่อต่อยอดการเรียนรู้ให้ลูก(ศิษย์)ของคุณต่อไป วันนี้เลยขอมาต่อยอดจากคำถามของเด็กๆ มาเป็นคำถามของผู้ใหญ่ หรือคำถามที่เกิดขึ้นจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว หรือคำถามที่เกิดมาจากตัวเราเอง ที่จุดระเบิด "ภายใน" สมอง
คำว่า "ทำไม" มีความสำคัญขนาดนี้จริงหรือครับ ในการที่จะจุดประกายงานวิจัยใหม่ๆ ออกมา งานวิจัยที่ผมพูดถึงคือทุกสิ่งที่มีพัฒนาการและต่อยอดได้ ไม่ได้หมายถึง งานตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ ดังๆ อย่างเดียวนะครับ
เกิดมาเราก็อยู่กับคำว่าทำไม โดยการถามคนที่เราคิดว่าเค้ารู้ อาจจะได้รับทราบข้อมูลมากมายจากการเริ่มต้นถามว่า ทำไม ถามใคร ว่าทำไม ถามกับสิ่งแวดล้อม ถามกับตัวเราเอง
คำว่าทำไม ผมว่าหากวิจัยกันเล่นๆ เช่น ในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย แหล่งเรียนรู้ทั้งหลาย หรือปราชญ์ชุมชน หรือคนทั่วไป หรือแม้แต่คนข้างๆ เรา ก็คิดว่าจะใช้คำนี้ แน่นอน ในแต่ละวัน ประเด็นอยู่ที่ว่า เราจะต่อยอดคำถาม ที่ถามว่า ทำไม นั้นได้อย่างไร เพื่อให้เกิดงานวิจัยใหม่ หรือต่อยอดได้
ผมลองค้นใน gotoknow.org ดูเมื่อกี้ ค้นคำว่าทำไม ก็เจอดังนี้ครับ
และผมลองค้นใน google.com ก็เจอคำว่า ทำไม อยู่หนึ่งล้านกว่าคำ
ในนั้น ก็จะแฝงไปด้วยคำว่า ทำไม เป็นข้อสงสัย ที่ทำให้เกิดการบริหารหัวสมอง ทำให้เกิดการบริหารจัดการคำว่า ทำไม เพื่อให้ออกมาเป็นองค์ความรู้ใหม่ หรือต่อยอดองค์ความรู้เก่า
คำว่าทำไม จะเกิดขึ้นภายในหรือภายนอกก็ได้ ใช่หรือเปล่าครับ แต่ผลของคำถาม ทำไม จะถูกส่งเข้าไปสู่การแตกระเบิด ภายใน ออกมาเป็นสะเก็ดความรู้ หรือผงความรู้ใหม่ ออกมา แล้วสะเก็ดผงเหล่านั้น ก็คงมีส่วนในการ เป็นข้อมูลนำเข้าอีกครั้ง ได้เช่นกัน
แล้วคุณหล่ะครับ คุณคิดว่า คำว่า ทำไม มีบทบาทต่อชีวิตคุณได้อย่างไรครับ ลองถามคำว่าทำไม กับสิ่งที่อยากรู้อยากเห็น หรือสิ่งที่ยังไม่รู้ กับคนรอบข้างของตัวเองวันละครั้ง หลังหรือก่อนอาหารของทุกมื้อครับ รับรองว่าอาหารมื้อนั้นของคุณจะได้อรรถรสมากขึ้นครับ
คำว่า ทำไม อาจจะไม่เพียงพอ แต่เป็นจุดเริ่มต้น ของสิ่งใหม่ คุณเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร เขียนไว้ได้เลยครับ
ขอบคุณมากครับ
สมพร ช่วยอารีย์
อาจารย์เม้ง...
ทำไม เป็นคำค้นหาผลลัพ์ เช่น
เรียนหนังสือทำไม ?
เรียนเพื่อต้องการรู้
บางครั้ง ทำไม เป็นคำค้นหาสาเหตุ เช่น
ทำไม ? มีความรู้
เพราะเรียนหนังสือ
นั่นคือ สำนวนไทย ทำไม อาจเป็นคำค้นหาสาเหตุ หรือคาดหมายผลลัพธ์อย่างใดอย่างหนึ่ง
แต่จากการสังเกตบันทึกนี้ ในคำหลักมีคำปะกิตว่า why อยู่ด้วย ดังนั้น คำว่า ทำไม น่าจะเป็นคำค้นหาสาเหตุเท่านั้น...เพราะวิชาอังกฤษพื้นฐานบอกว่า ถ้าคำถามว่า why ก็ต้องตอบว่า because ...ประมาณนี้
สรุปในเบื้องต้นว่า คำว่า ทำไม จะบ่งชี้ความเชื่อของคนในเรื่องเหตุผล หรือหลักสาเหตุ..
เจริญพร
คนทั่วไป ถามทำไม
แต่ทางใต้ ใช้คำว่า ทำไหร ทำเถิด อย่าเปิ -ผ๊า
ทำไหรไม่ว่า ผ๊า อย่าเปิด อิอๆ
จริงๆแล้ว คำว่าทำไป เป็นจุดเริ่มต้นของการคิดในเชิงบวก
อาจารย์เม้ง
ข้อความว่า หากเราแยกสองคำนี้ออกจากกัน ไม่เข้าใจ จ้า...
เจริญพรครูบาฯ ... ในฐานะเป็นคนใต้ ท่านครูบาฯ คลาดเคลื่อนเล็กน้อยครับ
ทำไหร่ กับ ทำไม แตกต่างกันครับ..
ทำไหร่ หมายถึง ทำอะไร หรือ ทำซึ่งอะไร เป็นสำนวนคำถามที่เรียกหา กรรม ....ส่วน ทำไม เป็นสำนวนคำถามที่ค้นหา สาเหตุหรือผลลัพธ์ (ดังให้ความเห็นไว้เบื้องต้น) คำนี้ปักษ์ใต้ก็มีใช้ทั่วไปครับ..
อนึ่ง สำนวนว่า ทำไหร่ ทำเถิด อย่าเปิดผ้า ทำไหร่ ไม่ว่าผ้าอย่าเปิด ...
สำนวนนี้ หมายถึงการเคารพในเสรีภาพของผู้อื่น (ใครจะทำอะไรก็ได้) แต่ผู้กระทำจะต้องเคารพในกรอบระเบียบของสังคม (การเปิดผ้า หรือแก้ผ้า ถือว่า "ไม่ควร")
อาจารย์เม้ง...ว่าไง ? หลวงพี่อธิบายถูกหม้าย ?
เจริญพร
ขอเป็นกำลังใจนะครับ ใช่ครับ ทำไมเป็นตัวเริ่มทำให้คนคิด
ขอบคุณครับ อ.ลูกหว้า
นมัสการครับ หลวงพี่
ข้อความว่า หากเราแยกสองคำนี้ออกจากกัน ไม่เข้าใจ จ้า...
คือแยก คำว่า ทำไม = ทำ + ไม นะครับ
ว่าแยกได้ไหม แล้วมีที่มาของคำนี้อย่างไรครับ
เม้ง สมพร ช่วยอารีย์ ---------> http://www.somporn.net ---------> http://www.schuai.net เมื่อ ส. 17 มี.ค. 2550 @ 21:09 (196239) |
สันนิษฐานแล้ว ว่าอาจารย์เม้งต้องการให้แยกศัพท์ แต่ไม่แน่ใจ เพราะ พยางค์ ต่างจาก คำ ....
ส่วนคำถาม ไม่ทราบจ้า และขี้เกียจเดา แล้ว จ้า (.........)
เจริญพร
อาจารย์เม้ง......
เมื่อคืนขี้เกียจเดา....คงไม่ว่ากันนะ เพราะตอบไปจากใจตรงๆ... เช้านี้ตื่นมาจึงลองเดาดู (แบบว่าขยันไง)
ทำไม เมื่อแยกพยางค์ออกเป็น ทำ+ไม .... พิเคราะห์แล้ว ทำ ยังคงเหมือนเดิมหรืออาจเพิ่มน้ำหนักเป็น กระทำ...ส่วน ไม พยางค์นี้อาจเอามานำมาจินตนาการได้ดังนี้....
ไม เป็น คำออกเสียงให้เบาลงจากเดิม ซึ่งถ้าออกเสียงให้หนักไปอีกนิดก็จะได้ว่า ไม่
ดังนั้น คำว่า ทำไม จึงอาจเพี้ยนมาจาก ทำไม่
ทำไม่ หมายความว่า จะกระทำหรือไม่กระทำ ...เป็นการคิดซ้ำ ย้อนกลับ สำรวจสิ่งที่ผ่านมาแล้ว เพื่อคาดหมายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อจะกระทำต่อไป...
เมื่อพิเคราะห์ซ้ำ สำรวจสิ่งที่ผ่านมา ก็คือการค้นหาสาเหตุ... คาดหมายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ก็คือการค้นหาผลลัพธ์...
เมื่ออ้างเหตุผลตามข้างต้น ก็จะตรงกับนัยเดิมที่ว่า ทำไม มีนัยเป็น ๒ คือ ค้นหาสาเหตุหรือคาดหมายผลลัพธ์ โดยประการฉะนี้ (.........)
คิดเล่นๆ นะ
เจริญพร