มีคำถามว่า "งานมาก ไม่มีเวลาหรอกมาทำ KM นี่ ทำยังไงดี"
คุณศรีวิภา ตอบคนแรกค่ะ ว่า
- ตอนที่ดิฉันเริ่มต้นทำ KM ดิฉันเป็นหัวหน้าแผนงาน ดิฉันเป็นเลขาวิชาการของ อ.หมอนันทา ดิฉันเป็นเลขาของ KM และดิฉันก็ต้องดูแลทั้ง office เพราะที่สำนักงานไม่มีคนอื่น ดิฉันเป็นเลขาที่ไม่มีลูกน้อง ดิฉันต้องทำงานมากเหมือนกัน ...
- ทุกคนมีเวลาเท่ากันค่ะ แต่ถ้าท่านทำ KM แล้วท่านจะรู้ว่า ความสุขมันอยู่ในมือ ท่าน ณ ปัจจุบัน ต้องบอกว่า ความสุขมันเหลือน้อยใช่มั๊ย งานมันเข้ามาเยอะ
- ท่านอยากหาความสุข ท่านหาในวง KM เลยค่ะ แล้วท่านจะเจอ สิ่งที่ดิฉันเจอ
คุณหมอสมศักดิ์ ท่านได้บอกว่า
- ผมก็จะพูดเสมอๆ ว่า ก็อย่าทำ KM ให้เขาทำงานของเขา แต่เอา KM ไปใช้ในการทำงาน
- คือ สิ่งที่เราพยายามจะพูดกับคนในกรมฯ คือว่า เราไม่อยากให้คนกรมอนามัยทำ KM ในฐานะที่เป็น KM แต่เราเชื่อว่า ถ้าท่านเข้าใจ KM นี่ ท่านจะเอา KM ไปเปลี่ยนวิธีการทำงาน เปลี่ยนการประชุม ประชุมเล็ก ประชุมใหญ่ เปลี่ยนการเล่าเรื่อง เปลี่ยนการเรียนรู้
- ผมคิดว่า ทุกอย่างเลย ตัวอย่างเยอะแยะ ทีนี้ถ้าเราทำตรงนั้นได้ KM ก็จะแก้ปัญหาเรื่องการไม่มีเวลา จะกลับกันตรงกันข้ามเลยว่า เขายิ่งมาหา KM ไปใช้ในงานสารพัดอย่างที่จะนำไปใช้ได้ แต่ตรงนี้ต้องช่วยกัน เอาของจริงมาคุยกัน
- วิธีการทำของจริงง่ายๆ คือ ลงมือทำ แล้วลองไปตามดู และดูกัน ว่า ใช่หรือไม่ใช่
อ.วิจารณ์ ค่ะ ท่านตอบแบบเด็ดๆ ... "คำถามคือ งานยุ่งมาก ทำยังไงจึงจะทำ KM ได้"
คำตอบของผมก็คือว่า "ก็อย่าทำ KM แต่ใช้ KM เอาไปทำให้งานมันลดความยุ่ง และลดความยาก และเกิดความสุข นะครับ"
รวมเรื่อง Learn 4 Change ที่เมืองทองธานี
ไม่มีความเห็น