Learn 4 Change ที่เมืองทองธานี (33) ห้อง Love & Learn - ม.นเรศวร - สร้างสุข


นิสิตเห็นด้านในความเป็นคนธรรมดาของอาจารย์มากขึ้น เพราะว่ามาเล่นเกมด้วย มากินข้าวด้วยกัน มานั่งซับน้ำตาด้วยกัน เขาไม่ได้เห็นอาจารย์ในหมวดที่เป็นอาจารย์เข้มงวดดุดัน เขาเห็นว่าอาจารย์ก็เป็นคนธรรมดาเหมือนเรา

 

คำถามถาม อ.ทพ.พิชิต ค่ะ (P โรงเรียนทันตแพทย์สร้างสุข) ว่า ... หลังจากคณะทันตแพทยศาสตร์ได้ทำกลุ่มระหว่างนิสิต และอาจารย์ไปแล้ว หลังจากนั้นมีวิธีการอย่างไรที่จะ maintain ทัศนคติที่ดีต่อไป และถ้ามีนิสิตกลุ่มใหม่ มีแผนจะจัดต่อไปอย่างไร

อ.หมอพิชิต ตอบคำถามตรงนี้ไว้ค่ะ ว่า

เราพยายามทำอยู่ โดยจัดให้มีกิจกรรมระหว่างอาจารย์ และนิสิตอยู่เรื่อยๆ หลังจากที่กลับมา

เรามาวิเคราะห์กันว่า อะไรที่ทำได้สำเร็จ เราทราบว่า อย่างหนึ่งที่ทำให้เขาเข้าใจกันมากขึ้น คือ นิสิตเห็นด้านในความเป็นคนธรรมดาของอาจารย์มากขึ้น เพราะว่ามาเล่นเกมด้วย มากินข้าวด้วยกัน มานั่งซับน้ำตาด้วยกัน เขาไม่ได้เห็นอาจารย์ในหมวดที่เป็นอาจารย์เข้มงวดดุดัน เขาเห็นว่าอาจารย์ก็เป็นคนธรรมดาเหมือนเรา

เราก็พยายามจัดกิจกรรมหลายอย่าง มีคาราโอเกะ singing contest อาจารย์ก็ไปร้องด้วย ไปเต้นด้วย มีแข่งกีฬาด้วยกัน จัดให้พบอาจารย์ พาไปเลี้ยงข้าว คือ สิ่งที่เราทำอยู่

เราอยาก maintain ความรู้สึกตรงนั้นให้อยู่ไปนานๆ และคิดว่าการไปสัมมนาครั้งเดียว คงไม่ได้สำเร็จ หรือสร้างสุขได้ตลอดไป แต่ว่าเราอยากจะทำเปลี่ยนทัศนคติให้เขาจนได้

เราได้ทำนิสิต ปี 4 5 6 ไปแล้ว เดี๋ยว ปี 1 2 3 มาขึ้น ปี  4 5 6 ใหม่ ก็ทำอีกครั้งหนึ่งครับ ( ... ถ้ามีงบประมาณ ... ถ้าไม่มีงบประมาณก็คิดอีกทีละครับ)

แต่สิ่งที่ไปได้อีกอย่างหนึ่ง คือ สโมสรนิสิตเขาเอาไปสานรูปแบบรับน้องของเขา เราเคยคุยกันตั้งแต่ปีที่แล้ว ... ผมไม่ชอบการรับน้องแบบมีว้ากเกอร์ สร้างความกดดันให้รู้จักกัน ก็บอกว่า ปีหน้าไม่เอาอย่างนี้แล้วนะ แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร คุยกันตั้งแต่รับน้องจบ

ปรากฎว่า พอหลังสัมมนา รร.ทันตแพทย์สร้างสุขเสร็จ นายกฯ ก็มาบอกว่า จะใช้วิธีของอาจารย์ไปใช้รับน้อง และปีนี้เป็นปีแรกที่เรายกเลิกการว้าก วินัย การซ้อมเชียร์ กดดันแบบไร้เหตุผลไปโดยสิ้นเชิง

... เราใช้สุนทรียสนทนา ใช้ AI มารับน้อง ซึ่งได้ผลดีมากๆ

วันแรกที่เปิดเทอม (เรารับน้องตอนปิดเทอม) นิสิตปี 1 ของเรา คุยกัน และเล่นกันกระหน่ำ จนอาจารย์ในห้องบอกว่า พวกเธอรู้จักกันมาก่อนหรือ

ตอนนี้ผมทำวิจัย เรื่อง รับน้องแบบสุนทรียสนทนา กับแบบว๊ากเกอร์ อันไหนดีกว่ากันละครับ

หลังจากนั้นก็มีการแลกเปลี่ยนความรู้สึก ระหว่างอาจารย์กับนิสิต มีความรู้สึกทางบวก ประเมินจากอะไร

  • ผมไปสุ่มสัมภาษณ์อาจารย์ กับนิสิต หลังจากที่กลับมาประมาณ 2 สัปดาห์
  • ก็ไปถามว่า หลังจากกลับมาจากสัมมนา นิสิตอยากจะทำอะไร
  • นิสิตส่วนใหญ่บอกว่า เขาอยากจะตั้งใจเรียนให้มากกว่าเดิม เขารู้แล้วว่า อาจารย์ตั้งใจอยากให้เขาได้ดี ที่อาจารย์เข้มงวด เขาก็รู้ว่าอาจารย์อยากให้เขาจบไปเป็นหมอที่เก่ง
  • สิ่งแรกที่เขาจะทำเมื่อกลับมา คือ ตั้งใจเรียน อ่านหนังสือเยอะ อยากจะเตรียมตัวให้ดีก่อนที่จะมาทำงานในคลินิก
  • ส่วนอาจารย์ส่วนใหญ่จะตอบว่า จะพยายามฟังให้มากขึ้น จะไม่รีบดุ จะไม่ดุดันเหมือนเดิม
  • จะพยายามช้าลง จะพยายามฟังเหตุผลของนิสิต บางคนก็บอกว่า
  • อยากจะดูแลนิสิตที่เป็นที่ปรึกษาให้ดีกว่าเดิม
  • อยากจะชวนนิสิตไปคุยกัน กินข้าวกัน เพื่อรับฟังปัญหาของนิสิตให้มากขึ้น

ผมคิดว่า คงเป็นรูปธรรมที่ค่อนข้างชัดเจน

ทันตแพทย์ด้วยกันค่ะ ก็ต้องเชียร์กันเต็มที่อยู่แล้ว เต็มที่เลยนะคะ อ.พิชิต ... ระดมกำลังใจจากกรมอนามัยละค่ะ

รวมเรื่อง Learn 4 Change ที่เมืองทองธานี

 

หมายเลขบันทึก: 152115เขียนเมื่อ 7 ธันวาคม 2007 20:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท