ผมอ่าน e-mail เรื่องนี้ที่เพื่อนส่งมาจบก็รีบเข้า Blog และจะรีบนำมาบอกต่อโดยเร็ว .. เพื่อให้ท่านหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องได้ระมัดระวังครับ .. ขอนำมาวางแบบไม่ตัดตอนเลยนะครับ
นางผาสุก อายุ ๒๘ ปี เข้าไปจับจ่ายซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อรู้สึกหิว จึงแวะรับประทาน อาหารที่ศูนย์อาหารของห้าง ที่นั่นมีผู้คนพลุกพล่าน บ้างก็มากันเป็นครอบครัว บ้างก็มากันในกลุ่มเพื่อนฝูง และบ้างก็มากันเป็นคู่ แม้ว่าเธอจะมาที่นี่เพียงลำพังคนเดียว แต่ในท่ามกลางผู้คนมากมายนั้นใครเลยจะนึกว่าภัยจะมาถึงตัวได้ เธอจึงไม่ทันสังเกตถึงสายตาประสงค์ร้ายสองคู่กำลังจับจ้องตนเองอยู่โดยมีเครื่องประดับมีค่าบนตัวเป็นเป้าหมาย
ผาสุกทิ้งอาหารไว้บนโต๊ะเพื่อไปซื้อเครื่องดื่ม จึงเป็นโอกาสของคนร้ายที่จะลงมือปฏิบัติการ จริยาหนึ่งในแก็งค์ฟ้าสต์ฟู้ดซึ่งนั่งห่างออกไปไม่ไกลนักรีบเดินมาที่โต๊ะของผาสุกทำทีเป็นหยิบทิชชูบนโต๊ะ แต่ด้วยความรวดเร็วแอบเทยานอนหลับอย่างแรงใส่ลงไปในอาหารที่ผาสุกวางทิ้งไว้ แล้วทำทีเป็นเดินเลือกซื้ออาหารตามร้าน ในขณะที่ชายร่วมแก็งค์อีกคนลุกออกจากโต๊ะไป
ผาสุกกลับมาที่โต๊ะพร้อมน้ำดื่มและเริ่มต้นจัดการกับอาหารตรงหน้าไนขณะที่จริยาก็หาที่นั่งที่ใกล้ที่สุดทำทีดื่มน้ำ
"ตอนนั้นไม่ได้สงสัยอะไรที่ผู้หญิงคนนั้นเขามานั่งใกล้ๆ เพราะฟาสต์ฟู้ดมันก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว อีกอย่างเห็นว่าเขาเป็นผู้หญิงด้วยกัน" ผาสุกให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เพียงเวลาไม่นานที่ผาสุกรับประทานอาหารผสมยานอนหลับเข้าไปเธอก็เริ่มง่วงและมึนศีรษะ และนั่นคือ โอกาสของแก็งค์มิจฉาชีพ จริยาตรงรี่เข้าไปทันที
"ขอโทษนะคะ คืออยากจะถามว่าแผนกเครื่องสำอางนี่อยู่ชั้นไหน"
ผาสุกพยายามตั้งสติแต่ความง่วงมึนงงมันก่อตัวขึ้นรวดเร็วจนควบคุมไม่ได้
"คุณเป็นอะไรไปคะ...ไม่สบายหรือคะ" จริยารีบเข้าประคองผาสุกให้ลุกขึ้น ซึ่งเธอก็หมดแรงจะขัดขืน "ฉันจะพยุงไปนะคะ สงสัยต้องไปโรงพยาบาลแล้วล่ะค่ะ"
จริยาประคองกึ่งลากผาสุกออกไปจากบริเวณนั้น มีสายตาหลายคู่จ้องตามไป แต่ไม่มีใครสงสัย เพราะภาพที่เห็นทำให้คิดว่าผู้หญิงคนหนึ่งไม่สบายและเพื่อนกำลังพาออกไปเท่านั้น ไม่มีใครสังเกตก่อนหน้านี้ว่าใครเป็นใคร มาคนเดียวหรือมากับใคร นอกจากมิจฉาชีพเท่านั้น!
ผาสุกให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไปว่า "ตอนนั้นเท่าที่จำได้ก็คือรู้สึกมึนงงเวียนหัว คล้ายจะเป็นลม หนังตามันจะปิดซะให้ได้ ฉันพยายามสู้กับมัน พยายามจะไม่หลับ แต่ก็ไม่มีแรง รู้แต่ว่ามีคนประคอง"
จริยานางนกต่อพยายามพยุงเหยื่อที่ใกล้หมดสติไปยังจุดนัดพบ ซึ่งที่นั้นไกรสรสมาชิกร่วมแก็งค์ทำทีเป็นคนขับวินรถจักรยานยนต์รับจ้าง คอยท่าอยู่แล้ว ไกรสรตะโกนถาม "มอเตอร์ไซค์มั้ยพี่"
จริยารีบตอบ " ไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด" เพียงเท่านี้ก็ขจัดความสงสัยของคนรอบๆไปได้แล้ว
จริยาก็พยุงผาสุกขึ้นรถจักรยานยนต์ซ้อนสามไปด้วยกัน (บางแก็งค์ก็เป็นรถโดยสารประเภทอื่น) แน่นอน คนร้ายมิได้นำเธอส่งโรงพยาบาล แต่กลับพาไปยังบ้านพักของตนเองที่ถนนลาดหญ้า เขตคลองสาน เมื่อมาถึง ผาสุกพยายามลืมตามองรอบๆก่อนจะอาเจียนออกมาจนหมด สองมิจฉาชีพรีบประคองผาสุกเข้าไปภายใน
มงคลหัวหน้าแก็งค์ซึ่งรออยู่แล้วละลายยานอนหลับให้หญิงสาวดื่มอีก แต่คราวเธอปัดป้องจึงถูกจับกรอกแทน ทั้งคู่ช่วยกันปลดทรัพย์
จริยาหยิบกระเป๋าสตางค์ของผาสุกออกดูบัตรประชาชน
"อยู่ไหน" เสียงมงคลถาม
"แถวเยาวราช" จริยาตอบ
มงคลพยักเพยิดให้จริยาออกไปแล้วจัดการปลดกระดุมเสื้อผาสุกหมายจะข่มขืน ซึ่งพวกมันมักจะทำเป็นประจำภายหลังจากรูดทรัพย์แล้ว แต่ครั้งนี้เหยื่อไม่มีท่าที่จะหมดสติเอาง่ายๆ
"ที่ฉันจำสถานที่ได้ เพราะฉันเคยไปมาก่อน และคงเป็นเพราะฉันอาเจียนออกมาหมดด้วย" ผาสุกให้การต่อไป
"ตอนที่มาถึงบ้านคนร้าย ก็พยายามสำรวจว่าเราอยู่ที่ไหน รู้สึกว่ามันผิดปกติแล้ว แต่ไม่มีแรง พวกมันเอาน้ำมาให้กิน แต่คิดว่าเป็นยานอนหลับอีก ไอ้คนที่เป็นหัวหน้าพยายามลวนลาม ฉันเลยรวบรวมสติขัดขืน มันก็คงร้อนตัว"
เมื่อเห็นว่าเหยื่อยังมีสติ คนร้ายจึงรีบร้อนพาเหยื่อออกจากบ้านโดยเร็ว คราวนี้ด้วยรถแท็กซี่ซึ่งเป็นพวกเดียวกัน นำเธอไปทิ้งไว้ไม่ไกลจากบ้านของเธอเอง
"ตอนนั้นฉันเกือบจะไม่ได้สติแล้ว แต่ยังจำได้ว่าเป็นซอยบ้าน จึงพยายามเดินไปให้ถึง พอถึงบ้านก็หลับเป็นตายเลย" ผาสุกสรุปคำให้การ
เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง ภายหลังจากที่พยายามทบทวนเหตุการณ์อย่างหนัก เธอก็จำได้ว่าสถานที่ที่ถูกพาไปรูดทรัพย์นั้น ตนเองเคยไปทำธุระมาก่อนเมื่อไม่นานมานี้ เธอจึงชวนน้องสาวไปแอบดูสถานที่เพื่อความแน่ใจ
"ใช่ ใช่ แน่แน่ นั่นไงมอเตอร์ไซค์คันนั้น นั่นไงรอยอ้วกของพี่"
พฤติกรรมอุบาทว์ของมิจฉาชีพเหล่านี้ จะยังสามารถกระทำกับเหยื่อรายอื่นต่อไปได้อีกหลายครั้ง ถ้านางผาสุกไม่ตัดสินใจเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
แก็งค์คนร้ายพวกนี้ความจริงตำรวจกำลังตามจับ เพราะก็ได้ข้อมูลพฤติกรรมพวกนี้อยู่ แต่ที่ผ่านมาไม่มีการแจ้งความ บางคนเป็นพยาบาล บางคนเป็นนักธุรกิจ ยิ่งถ้าโดนข่มขืนด้วยก็คงรู้สึกอับอายเลยไม่มาแจ้งความ คราวนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบตัวได้ทั้งแก็งค์พร้อมคำสารภาพ
"ผมจะคอยเฝ้าดูอยู่ที่ฟ้าสต์ฟู้ดตามห้างต่างๆ คอยดูคนที่มีทองเยอะๆ ท่าทางฐานะดี ทำมาหลายครั้ง กว่า ๒๐ ครั้งได้ ยานอนหลับเหรอ ใช้อย่างแรงเลย ซื้อจากร้านขายยาที่บางแค เอามาบดผสมน้ำ ที่ผ่านมามักจะเป็นผู้หญิง รูดทรัพย์แล้วก็ข่มขืนด้วยเพื่อให้เขาไม่กล้าแจ้งความ"