ผมเป็นโรคที่หลายคนคงเป็นเหมือนกัน คือทำงานมากและพบผ่านสิ่งที่ดีๆ น่าสนใจ อยากเขียนอยากบอกทุกวัน แต่เขียนไม่ทัน ครั้นเรื่องใหม่ๆมาทับ มาซ้อนก็ได้แต่เสียดายที่ไม่ได้เขียนเป็นร่องรอยไว้ แต่วันนี้ผมจะย้อนรอยเขียน สิ่งที่ผ่านไปตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว หลังจากที่เสียเวลาไป แค้น และเจ็บใจตัวเองอยู่นาน
ที่นี่ Garden Sea View พัทยา .. 01
ที่นี่ Garden Sea View พัทยา .. 02
จากตอนที่แล้ว ผมค้างไว้ว่า ผมกำลังจะพูดอะไรกับเพื่อนชาวศึกษาศาสตร์ จันทรเกษม คงไม่ถอดมาเป็นคำพูดตรงๆ แต่จะว่าเป็นประเด็นเท่าที่จำได้ครับ เพราะตอนพูดก็ไม่มีโพย มีแต่ ใจ กับ จริง เท่านั้นครับ
- พวกเราในห้องนี้ไม่มีใครไม่เก่ง เก่งกันทุกคน ไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง หรือบางทีก็หลายด้าน คิดได้ ทำได้ แก้ปัญหาได้ แต่ไม่ค่อยมีใครเห็น ไม่ค่อยมีใครสนใจ มองข้ามกันไป ไม่เห็นคุณค่า เลยพลาดโอกาสที่จะได้ใช้ประโยชน์จากความรู้ที่ฝังลึกอยู่ในตัวพวกเรากันเอง อย่างน่าเสียดาย
- ขณะเดียวกันถ้าจะถามว่ามีใครสักคนไหมในห้องนี้ที่ เก่งทุกเรื่อง ผมขอตอบทันทีโดยไม่กลัวผิด คือ ไม่มี ทุกคนยังพร่อง ยังต้องเรียนรู้ เรียนไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ
- ที่ผ่านมาเราทำงานเหนื่อยกันมาก แต่ผลที่ออกมาหลายครั้งไม่เป็นที่น่าพอใจ ผมได้เห็นชัดเจนในฐานะที่อยู่มานานว่า เหตุสำคัญอยู่ที่เราต่างคน ต่างฝ่ายต่างทำ เสมือนแยกกันอยู่เป็นแท่งๆและแข่งกันสูงเด่น แต่หาความเชื่อมโยงกันสู่กันไม่ได้ ทั้งที่เป้าหมายหลักร่วมกันคือการพัฒนานักศึกษา ... ฯลฯ
- จากนั้นผมก็นำเข้าประเด็นใน Slide ของ ดร.ประพนธ์ ตามที่วางให้ดูกันแล้วใน ที่นี่ Garden Sea View พัทยา .. 02 พูดเรื่อง ความรู้ ว่าถึงเวลาแล้วที่เราจะต้อง จัดการ ให้ถูกต้อง เพื่อใช้ประโยชน์จากความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรู้ที่มีกันอยู่มากมาย ในตัวพวกเรา และบุคคลในเครือข่าย
- แล้วผมก็เริ่มทำหน้าที่ คุณอำนวย + สมาชิก เริ่มแบ่งกลุ่มทำงาน จัดการจนได้แผนและโครงการ ด้วยความร่วมมืออย่างดียิ่งจากสมาชิกทุกคน .. ผลที่ได้มากกว่าที่เราตั้งใจไว้
- และแล้วที่เหนื่อยก็หาย และแถมยังสุขล่วงหน้ากับภาพการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เริ่มมองเห็นรำไรอยู่เบื้องหน้าบ้างแล้วอีกด้วย
- KM กำลังละลายเข้ามา แต่ผมจะยังไม่บอกใครหรอกว่า มันคือ KM
- โครงการ การใช้ Blog เชื่อมคน ก็คงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องทำให้ผมได้เหนื่อยอีกมากและนาน .. แต่เมื่อใช้คำที่ ผมสอนหลาน มาใช้บอกตัวเอง ก็ดูจะได้ผลดีอยู่ครับ