วลีที่กล่าวไว้เป็นหัวข้อบันทึกนั้น ผู้เขียนนำมาจากชื่อเพลงของนักร้องลูกทุ่งชื่อดังในยุคสมัยหนึ่ง ก็เลยรำลึกไปถึงอีกเพลงหนึ่งที่ว่า "ตายแน่...คราวนี้หวังต้องตายแน่ๆ"
เรื่อง"ความตาย" บางคนไม่อยากจะเอ่ยถึงมัน อาจเพราะคิดว่าไม่เป็น"มงคล"บ้าง พูดแล้วทำให้"หดหู่"ใจบ้าง บางคนหนักไปถึงว่าพูดไปเป็น "ลางสังหรณ์"ไม่ดีไปโน่นแน่....
ในทางพระพุทธศาสนาท่านว่า ให้นึกถึงความตายไว้เนืองๆ จักได้ "ไม่ประมาท" เร่งทำกิจหน้าที่ของตนๆให้พร้อม คือพร้อมจะตายเมื่อกาลเวลานั้นมาถึง
ผู้ที่เป็นพ่อ แม่ ก็ทำหน้าที่พ่อแม่ให้ดีที่สุด ผู้ที่เป็นครู อาจารย์ก็ทำหน้าที่ให้การอบรมสั่งสอนศิษย์ให้ดีที่สุด เป็นต้น
แต่หน้าที่ของทุกคนฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา นั่นคือ ละเว้นความชั่ว ทำความดี และฝึกจิตทำใจให้บริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ซึ่งทราบกันดีในโอวาทสามประการที่เคยร่ำเรียนมา แต่มักไม่ค่อยได้รำลึกนึกถึงกันนัก
ผู้ที่ตายไปขณะที่จิตคิดชั่ว ทำชั่วอยู่ ท่านว่าจะไปสู่ "ทุคติภพ" มิต้องพูดถึงลูก หลาน ญาติพี่น้องที่อยู่ข้างหลัง ผู้ที่ตายไปขณะที่จิตคิดแต่เรื่องดี ทำดีและมีจิตใจที่สงบ(สมาธิ)บริสุทธิ์ ท่านว่าจะไปสู่ "สุคติภพ" แน่นอน
ว่ากันว่า "กรรมใกล้ตาย" ( อาสันนกรรม ) - เป็นกรรมที่คนกระทำเมื่อจวนจะตาย หรือ "นาทีทองก่อนตาย" สำคัญยิ่ง ผู้ที่ฝึกสมาธิมาย่อมได้เปรียบมากในเรื่องนี้ เพราะเขาจะตายอย่างสงบ มีสติ พร้อมรอยยิ้มและหน้าเอิบอิ่ม อย่างนี้ดีมากๆ
ในเมื่อแต่ละคนไม่สามารถกำหนดรู้ว่าได้ว่า จะตายเมื่อใด และตายอย่างไร หากเป็นไปได้ควร "เตรียมตัวตาย"ไว้ให้พร้อม........นั่นคือ.....ทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด หมั่นทำความดี และฝึกจิตให้สงบ( สมาธิ ) จะได้ "ไม่กลัวตาย" ไงล่ะครับ
..........................................................................
ขอต่ออีกนิดครับ ...
อันความตาย นั้นอยู่ใกล้ เพียงแค่เอื้อม
เมื่อมีเกิด ก็มีเสื่อม สูญสลาย
ใช่เรื่องใหม่ แต่คนเขลา กลับเมามาย
หลงตัวตน กันอยู่ได้ ทั่วโลกา
ตะเกียกตะกาย กอบโกย ไม่รู้สิ้น
สัจธรรม ไม่ยลยิน ไม่ใฝ่หา
ปล่อยชีวิต ให้ล่วงผ่าน เนิ่นนานมา
ใช้ชีวิต อย่างไร้ค่า จนวันตาย .. (ก็มี) .
เพลง มรณสติ
คำร้อง และ ทำนอง โดย พิสุทธิ์ เกรียงบูรพา
เรียบเรียงโดย ต๋อย
แรงบันดาลใจ : นึกถึง มรณสติ ( ตาย ก่อน ตาย ตามคำสอนของ ท่านพุทธทาส )
ตอบ น้อง Handy
|
เข้ามายืนยันว่า ที่พูดมาเป็นเรื่องจริง...เพราะไปด้วยกันมา...อิอิ
อย่างที่ว่านั่นแหละทุกอย่าง "มันพรรค์นั้นแหละ" อยู่ที่เหตุปัจจัย มีเกิด-มีดับ แน่นอน
วันวางวายกายดับลับลาล่วง
มิคิดหน่วงเหนี่ยวรั้งฤๅกังขา
มิยื้อยุดหวังคืนฟื้นชีวา
หมดเวลามิอาจฝืนอยู่ยืนยง
มองความตายให้เห็นเป็นธรรมชาติ
มินึกหวาดหวั่นจิตคิดลืมหลง
ทุกชีวีมีกฎกำหนดวง
จึงคิดปลงแง่งามตามเป็นจริง
ขออยู่กับปัจจุบันทุกวันนี้
ทำหน้าที่ต่อไปไม่เกรงกริ่ง
กุศลกรรมทำต่อพอพึ่งพิง
ไม่หยุดนิ่งจนกว่าชีวาวาย
เมื่อแรกเกิดนั้นหนามาตัวเปล่า
มิขอเอาสิ่งใดใจมั่นหมาย
ทิ้งทรัพย์สินกองไว้ไม่เสียดาย
ยามตัวตายขอระงับหลับตาลง๚
ขอบใจที่แวะมาร่วมต่อยอดนะ
สวัสดีครับ
เพลงเอื้อนเอ่ยข้อความตามที่มอบ
คิดเห็นชอบมิค้านทุกขานไข
เกิดก่อนหลังบางรายตายเร็วไป
มิเลือกวัยฤๅสถานกาลเวลา
มีบางคนอยากตายวายชีวาตม์
แต่มิอาจหลีกลี้หนีปัญหา
พยายามฆ่าตัวตายก็หลายครา
อนิจจาต้องคืนกลับรับกรรมเวร
ความตายจริงตายเมื่อใดไม่อาจรู้
ทุกวินาทีตายอยู่มองไม่เห็น
ทุกเซลล์ต่างกำลังตายในกายเป็น
เรามักเน้นร่างกายว่าตายจริง
กลัวตายกันทุกหนคนส่วนใหญ่
บางคนได้เตรียมพร้อมน้อมทุกสิ่ง
ความตายเยือนคราใดไม่ประวิง
ฝึกจิตนิ่งแน่วแน่แม้วันตาย
ขอนำกลอนเก่าปรับเปลี่ยนมาเสริม ครับ
ขอบคุณ ครับผม
สวัสดีครับ |