ใน 2-3 วันนี้ ดิฉันได้ไปนั่งเรียนเรื่อง วิจัยชุมชน โดยมี รศ. บำเพ็ญ เขียวหวาน และ รศ.ดร. เบญจมาศ อยู่ประเสริฐ จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เป็นวิทยากรในการถ่ายทอดความรู้ให้กับเจ้าหน้าที่ที่เป็นทีมวิจัยชุมชนจาก 7 จังหวัดนำร่อง ของกรมส่งเสริมการเกษตร
การพบกันในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อสรุปบทเรียนครึ่งปี (2550) ที่เจ้าหน้าที่ ของ 7 จังหวัดนำร่อง ได้นำวิจัยชุมชนไปใช้ในการทำงานวิสาหกิจชุมชนนั้นผลเป็นประการใดบ้าง? สรุปก็คือ 1) ต้องการติดตามและประเมินผลงาน และ 2) ต้องการเสริมหนุนเนื้อหาสาระเกี่ยวกับการประมวลข้อมูล/การวิเคราะห์/การสรุป/การเขียนรายงาน
ในการปฏิบัติงานดังกล่าวทีมวิทยากร จึงทำหน้าที่หลักคือ เป็นวิทยากรกระบวนการ ที่ยึดเจ้าหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ ได้แก่ การคิด การระดมข้อมูล การเติม/เพิ่มเนื้อหา และการแลกเปลี่ยน
ฉะนั้น การถ่ายทอดความรู้จึงสื่อสารออกมาในรูปของกิจกรรม สื่อ เครื่องมือ และเทคนิควิธีการ เช่น เอกสารสิ่งพิมพ์ ตัวบุคคล การกระตุ้น การตุ้งประเด็นคำถาม กรณีตัวอย่าง การอภิปราย และอื่น ๆ
บทบาทหน้าที่ที่เห็นวิทยากรทำก็คือ การเล่ากรณีตัวอย่างให้ฟัง การให้กรณีตัวอย่างเจ้าหน้าที่อ่าน/สรุป การตั้งประเด็นคำถามให้ตอบ การระดมประสบการณ์เพื่อประมวลผล และอื่น ๆ
เมื่อได้เห็นวิทยากรนำเทคนิควิธีการ และจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อใช้เป็นสื่อในการสื่อสารเพื่อทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่นั้น สิ่งที่เกิดขึ้นตลอดเวลาก็คือ การกระตุ้นกลุ่ม/บุคคล เพื่อให้นำสิ่งที่ตนเองปฏิบัติจริงมาเล่าสู่กันฟัง มาพูดคุยกัน และมาแลกเปลี่ยนกัน ที่เรียกว่า เป็นวิทยากรกระบวนการ ทำหน้าที่จัดกระบวนการกลุ่ม ภายใต้ฐานของ Facilitator ซึ่งเป็นเรื่องที่ยาก ๆ มาก
ประสบการณ์ที่สั่งสมมานั้นได้มารวมตัวกันที่ 1) การออกแบบการเรียนรู้ 2) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และ 3) การประยุกต์ใช้ตามบริบทของเจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเกษตร
โดยสิ่งดี ๆ เหล่านี้ดิฉันจึงได้ใช้หลักของ 1) ตั้งใจฟัง 2) จับประเด็นให้แม่น 3) บันทึกให้เป็น 4) กระตุ้นเป็นระยะ ๆ และ 5) ทดลองหยิบเครื่องมือมาใช้ แล้วนำมาแยกแยะเพื่อทำความเข้าใจกับ "การนำวิจัยชุมชน...ไปใช้ทำงานส่งเสริมการเกษตรร่วมกับเจ้าหน้าที่" ซึ่งถ้าทำได้ก็คงปรับเปลี่ยนวิธีการพัฒนาเจ้าหน้าในการทำงานส่งเสริมการเกษตรกับชุมชนได้ดีขึ้นและดีอย่างมีคุณภาพ.
ไม่มีความเห็น